อนัตตาทางร่างกาย   ได้แก่

การหมุนเวียนของพลังงานที่ไม่ติดขัด  โดยเฉพาะการหมุนเวียนเลือดและลมปราณ
การเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างเสรีของอวัยวะหลัก  เช่น แขน ขา ลำตัว  ศีรษะ  นิ้วมือ
ความยืดหยุ่นของร่างกาย   เช่น  ไม่แข็งทื่อของเส้นเอ็น หรือมีโครงร่างที่ยืดหยุ่นยืนยาว

นอกจากนั้น  ที่สำคัญรายวัน  ได้แก่  มีระบบขจัดของเสียออกจากร่างกายที่มีประสิทธิภาพ
ได้แก่  เหงื่อ   การขับปัสสาวะ  การขับถ่ายกากอาหาร  ซึ่งประการหลังสำคัญมาก และมีผลกระทบที่ลึกซึ้งต่อทั้งร่างกาย

ความหมายแง่จิตใจ หรือสังคมของอนัตตา  ได้แก่   ความรัก
คือ  จิตใจหนึ่งดวง มิได้แปลกแยกต่อ ดวงจิตอื่นๆ  คือ รู้จัก  เข้าใจ ในองค์เอกภาพระหว่างมนุษย์ด้วยกัน
ได้รับการปูพื้นฐานความไว้วางใจต่อโลก-ผู้คน  ไม่ได้เติบโตขึ้นในท่ามกลางความเกลียดชัง  ความหวาดระแวง  
จนทำให้ไม่สามารถหรือขาดทักษะการแสดงออก   การพูดคุย หรือการสนทนา  และการสร้างมิตร

ปกติแล้ว   อนัตตาในทางศาสนานั้น   ได้แก่  ความไม่มีตัวตน หรือการปฏิบัติเชิงกลไกทางจิต ได้แก่ การไม่ติดยึดตัวกูของกู
แต่ก็ไม่ได้หมายว่า  ไม่มีอัตตาเลย(ในความเป็นจริง)  เพียงแต่ในเชิงเทคนิคแล้ว ก็คือ การที่ต้องฝึกจิตไม่ให้อยู่ในภาวะสถิตย์
อันเป็นการตรึงแน่น  หรือ เข้าลักษณะมีอีโก้ในระดับทิฐิขนาดต่างๆ นั่นเอง  
ซึ่งในแง่ศาสนา ก็สอนให้พยายามสลายตัวตนเช่นนี้ให้ได้อย่างถึงที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของปัญญาญาณแล้ว    ย่อมชี้ให้เห็นทางเลือกได้หลายหลาก
เพื่อสะท้อนภาวะปลอดจากการติดยึด  ติดขัด  ที่ทำให้เกิดตัวกูของกู หรือ อีโก้ หรืออัตตา หรือภาวะติดขัดของพลังไหลเวียนในร่างกาย
ซึ่งเป็นมูลเหตุของการเกิดโรคแห่งความเสื่อมต่างๆ    เช่น    ความเครียด   ความดันสูง  เบาหวาน   ซีสต์  นิ่ว ..มะเร็ง