...เมื่อเรียนรู้หลักการในพระอภิธรรมจนเข้าใจพอควร หรือเข้าใจทั้งหมดแล้ว จึงค่อยมาอ่านพระสูตรพระวินัย ทีหลัง จึงจะทำให้เข้าใจตรง ตีความถูกต้อง ไม่ตกไปทางมิจฉาทิฏฐิ..ซึ่งตรงข้ามกับยุคสมัยนี้ที่ไม่สนใจพระอภิธรรม เพราะเห็นว่ายาก และบางคนยังเห็นว่าเป็นของปลอมซะอีก(น่าสลดใจจริงๆ) แล้วเขาก็เริ่มอ่านที่พระสูตรเลย จึงทำให้ตีความผิดเพี้ยนไปมากมาย ดังที่เห็นๆอยู่ทั่วไป ..เพราะเรื่องราวในพระสูตร จะประกอบด้วยสำนวนโวหารเปรียบเทียบ อุปมาอุปมัยที่เป็นเปลือกหุ้มห่อไว้มากมายหลายชั้น ไม่ได้ระบุองค์ธรรมไว้ จึงไม่ทำให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้งถ่องแท้ ... และตีความผิดกันง่ายๆ บ่อยๆ เป็นมิจฉาทิฏฐิกันมากมายอย่างน่าตกใจ
...ดังนั้น ถ้าใครอยากจะศึกษาพระปริยัติธรรม ในแง่หลักการตามตำรา ก็ควรเริ่มเรียนที่พระอภิธรรมก่อน จึงจะถูกทาง ... อดทนมากๆหน่อยต่อความยากของพระอภิธรรม พยายามอดทนเรียนให้ผ่านให้ได้ อย่างน้อย แค่ระดับ ๓ ชั้นแรก ของจุฬอภิธรรมตรี ส่วนที่เหลืออีก ๖ ชั้น ค่อยเรียนทีหลังก็ได้ (ทั้งหมดมี ๙ ชั้น)
หลักการศึกษาพระปริยัติธรรมแต่โบราณเขาจะศึกษาพระอภิธรรมก่อน เมื่อรู้ได้พอควรระดับหนึ่งแล้วจึงมาศึกษาพระสูตรพระวินัยทีหลัง
...ดังนั้น ถ้าใครอยากจะศึกษาพระปริยัติธรรม ในแง่หลักการตามตำรา ก็ควรเริ่มเรียนที่พระอภิธรรมก่อน จึงจะถูกทาง ... อดทนมากๆหน่อยต่อความยากของพระอภิธรรม พยายามอดทนเรียนให้ผ่านให้ได้ อย่างน้อย แค่ระดับ ๓ ชั้นแรก ของจุฬอภิธรรมตรี ส่วนที่เหลืออีก ๖ ชั้น ค่อยเรียนทีหลังก็ได้ (ทั้งหมดมี ๙ ชั้น)