The World of Kanako 渇き เห็นเงียบๆ เลือดเพียบนะครับ
">
Creative Review
เรื่องราวของครอบครัวที่แตกสลาย Akikazu ตำรวจขี้เหล้าเลือดร้อนที่เสียผู้เสียคนหลังจับได้ว่าภรรยามีชู้ / Kiriko ภรรยาที่เลิกกับสามีเพราะมีชู้ และใช้เวลากับผู้ชายคนใหม่มากกว่าจะสนใจลูกตัวเอง / และตัว Kanako หัวใจสำคัญของเรื่องนี้
หนังเริ่มดำเนินเรื่องจากการหายตัวไปของ Kanako ที่ไปปลุกวิญญาณความรับผิดชอบในความเป็นพ่อขึ้นมาจนเริ่มออกตามหาตัวลูก ด้วยความหวังจะแก้ไขชีวิตที่พังทลาย กลับมามีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นดั่งในโฆษณาอีกครั้ง แต่สุดท้ายการตามหาครั้งนี้ เพียงเพื่อที่จะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเองไม่ได้รู้จักลูกตัวเองเลย
หนังใช้เทคนิกการเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง แต่มีสลับกับเหตุการณ์ flashback ที่จะพาเราเดิน parallel ทั้งอดีตและปัจจุบัน เพื่อทำความรู้จักกับ Kanako สิ่งมีชีวิตที่จะทำให้เราหลงรักและเดินเข้าไปหา เพียงเพื่อจะกลืนกินและทำลายเราให้ย่อยยับ
หนังใช้สไตล์งานภาพและดนตรีประกอบที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งแทบจะเป็นลายมือของผู้กำกับ Tetsuya Nakashima ไปแล้ว แม้เรื่องนี้จะทั้งดิบเถื่อนและโหดกว่าเรื่องที่ผ่านๆมา แต่ก็ใช้สไตล์ในการนำเสนอมาลดทอนเรื่องที่แม้จะรุนแรงมาก ให้ยังอยู่ในขั้นที่รับได้ ไม่กลายเป็นหนังแหวะชวนสยองจนเกินไป
สิ่งที่น่าชื่นชมอีกอย่าง คือเป็นหนังที่มีความกล้าที่จะเลยเส้นเลยขอบ ทั้งในด้านศีลธรรม ความรุนแรง เรื่องเพศ เรื่องยา ความเท่าเทียม สิทธิสตรี หนังเรื่องนี้ไม่มีกรอบอะไรทั้งนั้น และความกล้านี้แหละที่ทำให้เวลาดูหนังเรื่องนี้แล้วมันน่ารักน่าลุ้นเสียเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช็อตต่อๆไป เพราะเราไม่รู้เลยว่าหนังจะพาเราไปไกลแค่ไหน ตัวละครตัวไหนจะโดนเล่น จะตายบ้าง (มีฉากแอกชั่นฉากหนึ่ง ที่ประทับใจ เพราะทำได้สนุก Over the top มาก และมี twist & turn ตลอดเวลา) ซึ่งความที่หนังมันเกินคาดเดานี่แหละ ที่เชื่อมโยงความรู้สึกเราไปกับตัวละครสำคัญอย่าง Kanako ผู้หญิงที่ยากจะคาดเดาคนนี้
ในส่วนของตัวละครในเรื่องนี้ แม้หลายๆตัวจะไม่มีมิติอะไรมาก แต่ก็ช่วยเชื่อมโยงเรื่องราวให้เรารู้จัก Kanako ได้ชัดเจนมากขึ้น ขณะที่หนังก็สะท้อนและเสียดสี ความเน่าเฟะของสังคมญี่ปุ่น ทั้งในระดับครอบครัว เด็กนักเรียน อาจารย์ ยากูซ่า ไปจนถึงวงการตำรวจ ความวิปริต เรื่องเพศที่ไม่เข้าใครออกใคร
-Spoiled Zone-
พ่อตำรวจอารมณ์ร้ายมีภาพครอบครัวในฝัน ที่พังทลายเพราะเมียมีชู้
ลูกสาวที่ไม่มีใครเหลียวแล ขนาดแม่ยังให้เวลากับผู้ชายมากกว่า เลยเป็นปัญหาที่ครอบครัวทิ้งไว้
ลูกสาวที่โดน abusive จากครอบครัว เลยกลายเป็น abuser กับผู้อื่น เพียงแต่นางไม่ได้ใช้กำลัง
แต่เป็นคนมีเสน่ห์และใช้เสน่ห์เข้าไป exploit จุดอ่อนของมนุษย์ทุกคนที่เข้าใกล้
นางสนองความอยากให้คนเหล่านั้น แล้วก็ทำลายคนเหล่านั้นเสีย
ทำเพื่อความสนุกกับการเล่นกับความรู้สึกคนอื่น sadist แบบไม่ยึดติดเหตุผล
คนที่หลวมตัวเข้าไปพัวพันก็มีแต่โดนทำลาย ตัวพ่อที่ไม่เคยรู้ว่าผลของการละทิ้งครอบครัว
ได้สร้างปีศาจอีกหนึ่งตัวในสังคม ยิ่งสืบยิ่งค้นหาก็ยิ่งได้รู้จักลูกสาวของตัวเองมากขึ้น
ซึ่งก็คือเงาสะท้อนความดิบเถื่อน ไร้ความรับผิดชอบของตัวพ่อเอง
และเมื่อรู้จักลูกสาวตัวเองแล้ว ความรับผิดชอบสุดท้ายที่พ่อนึกขึ้นได้
คือหาลูกให้เจอแล้วฆ่าลูก(ปีศาจ) ตัวนั้น ด้วยน้ำมือตัวเองซะ
สุดท้ายสิ่งที่ Akikazu ค้นพบกลับไม่ใช่ตัวลูกสาว แต่เป็นจิตใจที่ดำมืดของลูกสาวที่พร้อมจะกลืนกินทำลายทุกสิ่งที่หลงเข้าใกล้ และสิ่งเหล่านั้นก็คือเงาสะท้อนตัว Akikazu เองที่มักใช้อารมณ์ดิบเถื่อนทำลายทุกคนที่อยู่รอบข้าง จนเกิดผลผลิตอย่าง Kanako ขึ้นมา ผลผลิตที่เมื่อ Akikazu รู้จักแล้วต้องการรับผิดชอบด้วยการตามหาให้เจอแล้วลงมือฆ่าด้วยตัวของเขาเอง
ในส่วน Psychology ของ Kanako นั้นผมคิดว่าเธอเป็นผลพวงจากครอบครัวที่แตกแยก ไม่รู้สึกเป็นที่ต้องการของใคร ไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ทำให้เธอมองเห็นโลกใบนี้เหมือนความฝัน เป็นเพียงโพรงอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ที่เธอมีอิสระจะทำอะไรก็ได้ และเธอก็ใช้อิสระนี้ในการทำลายชีวิตคนอื่นที่หลงเข้ามาพัวพันกับชีวิตเธอ เพียงเพื่อเธอจะได้รักเขามากๆขึ้น
ความสุขหรือความรักที่เกิดจากการทำลายหรือเห็นคนอื่นเจ็บปวด ที่แท้เธอก็ Sadist ดีๆนี่เอง Kanako
(+หลังจากดูจบไปสามรอบ ก็พอจะเข้าใจ คานาโกะ มากขึ้นๆ มอตโตะ มอตโตะ เข้าไปอีก สำหรับคานาโกะแล้ว เธอเข้าใจจุดอ่อนด้านความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอ และเธอก็พร้อมตอบสนองและเล่นกับความรู้สึกของคนเหล่านั้นอย่างอิสระเสรี ไม่ต้องผูกติดกับการตอบสนองให้อีกฝ่ายพึงพอใจเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการตอบสนองให้อีกฝ่ายโกรธ เกลียด เศร้า เสียใจ ความอิสระแบบนี้แหละที่เป็นตัวตนของคานาโกะ และเมื่อมีคนที่เข้าหาเธอด้วยความรู้สึกรักแบบคนทั่วไป เธอก็ตอบสนองในแบบของเธอ ซึ่งแม้คานาโกะเองอาจรักคนๆนั้น แต่เธอรู้ว่าความรักแบบที่เธอมีไม่อาจจะทำให้อีกฝ่ายรักเธอได้อย่างยาวนาน เพราะไม่อาจมีมนุษย์คนไหนรับความเสรีแบบคานาโกะได้ เธอจึงต้องฆ่าเขา เพื่อที่เธอจะได้เก็บความรักเขาไว้ตลอดไป)
.
.
.
.
.
.
ใครชอบ Review ที่ลงไว้ ฝากติดตามเพจ
FB : Creative Review : สิ่งดีๆ ที่อยู่ในหนัง
https://www.facebook.com/Movie.Creative.Review
Creative Review : The World of Kanako 渇き เห็นเงียบๆ เลือดเพียบนะครับ
">
Creative Review
เรื่องราวของครอบครัวที่แตกสลาย Akikazu ตำรวจขี้เหล้าเลือดร้อนที่เสียผู้เสียคนหลังจับได้ว่าภรรยามีชู้ / Kiriko ภรรยาที่เลิกกับสามีเพราะมีชู้ และใช้เวลากับผู้ชายคนใหม่มากกว่าจะสนใจลูกตัวเอง / และตัว Kanako หัวใจสำคัญของเรื่องนี้
หนังเริ่มดำเนินเรื่องจากการหายตัวไปของ Kanako ที่ไปปลุกวิญญาณความรับผิดชอบในความเป็นพ่อขึ้นมาจนเริ่มออกตามหาตัวลูก ด้วยความหวังจะแก้ไขชีวิตที่พังทลาย กลับมามีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นดั่งในโฆษณาอีกครั้ง แต่สุดท้ายการตามหาครั้งนี้ เพียงเพื่อที่จะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเองไม่ได้รู้จักลูกตัวเองเลย
หนังใช้เทคนิกการเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง แต่มีสลับกับเหตุการณ์ flashback ที่จะพาเราเดิน parallel ทั้งอดีตและปัจจุบัน เพื่อทำความรู้จักกับ Kanako สิ่งมีชีวิตที่จะทำให้เราหลงรักและเดินเข้าไปหา เพียงเพื่อจะกลืนกินและทำลายเราให้ย่อยยับ
หนังใช้สไตล์งานภาพและดนตรีประกอบที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งแทบจะเป็นลายมือของผู้กำกับ Tetsuya Nakashima ไปแล้ว แม้เรื่องนี้จะทั้งดิบเถื่อนและโหดกว่าเรื่องที่ผ่านๆมา แต่ก็ใช้สไตล์ในการนำเสนอมาลดทอนเรื่องที่แม้จะรุนแรงมาก ให้ยังอยู่ในขั้นที่รับได้ ไม่กลายเป็นหนังแหวะชวนสยองจนเกินไป
สิ่งที่น่าชื่นชมอีกอย่าง คือเป็นหนังที่มีความกล้าที่จะเลยเส้นเลยขอบ ทั้งในด้านศีลธรรม ความรุนแรง เรื่องเพศ เรื่องยา ความเท่าเทียม สิทธิสตรี หนังเรื่องนี้ไม่มีกรอบอะไรทั้งนั้น และความกล้านี้แหละที่ทำให้เวลาดูหนังเรื่องนี้แล้วมันน่ารักน่าลุ้นเสียเหลือเกินว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช็อตต่อๆไป เพราะเราไม่รู้เลยว่าหนังจะพาเราไปไกลแค่ไหน ตัวละครตัวไหนจะโดนเล่น จะตายบ้าง (มีฉากแอกชั่นฉากหนึ่ง ที่ประทับใจ เพราะทำได้สนุก Over the top มาก และมี twist & turn ตลอดเวลา) ซึ่งความที่หนังมันเกินคาดเดานี่แหละ ที่เชื่อมโยงความรู้สึกเราไปกับตัวละครสำคัญอย่าง Kanako ผู้หญิงที่ยากจะคาดเดาคนนี้
ในส่วนของตัวละครในเรื่องนี้ แม้หลายๆตัวจะไม่มีมิติอะไรมาก แต่ก็ช่วยเชื่อมโยงเรื่องราวให้เรารู้จัก Kanako ได้ชัดเจนมากขึ้น ขณะที่หนังก็สะท้อนและเสียดสี ความเน่าเฟะของสังคมญี่ปุ่น ทั้งในระดับครอบครัว เด็กนักเรียน อาจารย์ ยากูซ่า ไปจนถึงวงการตำรวจ ความวิปริต เรื่องเพศที่ไม่เข้าใครออกใคร
-Spoiled Zone-
พ่อตำรวจอารมณ์ร้ายมีภาพครอบครัวในฝัน ที่พังทลายเพราะเมียมีชู้
ลูกสาวที่ไม่มีใครเหลียวแล ขนาดแม่ยังให้เวลากับผู้ชายมากกว่า เลยเป็นปัญหาที่ครอบครัวทิ้งไว้
ลูกสาวที่โดน abusive จากครอบครัว เลยกลายเป็น abuser กับผู้อื่น เพียงแต่นางไม่ได้ใช้กำลัง
แต่เป็นคนมีเสน่ห์และใช้เสน่ห์เข้าไป exploit จุดอ่อนของมนุษย์ทุกคนที่เข้าใกล้
นางสนองความอยากให้คนเหล่านั้น แล้วก็ทำลายคนเหล่านั้นเสีย
ทำเพื่อความสนุกกับการเล่นกับความรู้สึกคนอื่น sadist แบบไม่ยึดติดเหตุผล
คนที่หลวมตัวเข้าไปพัวพันก็มีแต่โดนทำลาย ตัวพ่อที่ไม่เคยรู้ว่าผลของการละทิ้งครอบครัว
ได้สร้างปีศาจอีกหนึ่งตัวในสังคม ยิ่งสืบยิ่งค้นหาก็ยิ่งได้รู้จักลูกสาวของตัวเองมากขึ้น
ซึ่งก็คือเงาสะท้อนความดิบเถื่อน ไร้ความรับผิดชอบของตัวพ่อเอง
และเมื่อรู้จักลูกสาวตัวเองแล้ว ความรับผิดชอบสุดท้ายที่พ่อนึกขึ้นได้
คือหาลูกให้เจอแล้วฆ่าลูก(ปีศาจ) ตัวนั้น ด้วยน้ำมือตัวเองซะ
สุดท้ายสิ่งที่ Akikazu ค้นพบกลับไม่ใช่ตัวลูกสาว แต่เป็นจิตใจที่ดำมืดของลูกสาวที่พร้อมจะกลืนกินทำลายทุกสิ่งที่หลงเข้าใกล้ และสิ่งเหล่านั้นก็คือเงาสะท้อนตัว Akikazu เองที่มักใช้อารมณ์ดิบเถื่อนทำลายทุกคนที่อยู่รอบข้าง จนเกิดผลผลิตอย่าง Kanako ขึ้นมา ผลผลิตที่เมื่อ Akikazu รู้จักแล้วต้องการรับผิดชอบด้วยการตามหาให้เจอแล้วลงมือฆ่าด้วยตัวของเขาเอง
ในส่วน Psychology ของ Kanako นั้นผมคิดว่าเธอเป็นผลพวงจากครอบครัวที่แตกแยก ไม่รู้สึกเป็นที่ต้องการของใคร ไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ ทำให้เธอมองเห็นโลกใบนี้เหมือนความฝัน เป็นเพียงโพรงอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ที่เธอมีอิสระจะทำอะไรก็ได้ และเธอก็ใช้อิสระนี้ในการทำลายชีวิตคนอื่นที่หลงเข้ามาพัวพันกับชีวิตเธอ เพียงเพื่อเธอจะได้รักเขามากๆขึ้น
ความสุขหรือความรักที่เกิดจากการทำลายหรือเห็นคนอื่นเจ็บปวด ที่แท้เธอก็ Sadist ดีๆนี่เอง Kanako
(+หลังจากดูจบไปสามรอบ ก็พอจะเข้าใจ คานาโกะ มากขึ้นๆ มอตโตะ มอตโตะ เข้าไปอีก สำหรับคานาโกะแล้ว เธอเข้าใจจุดอ่อนด้านความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอ และเธอก็พร้อมตอบสนองและเล่นกับความรู้สึกของคนเหล่านั้นอย่างอิสระเสรี ไม่ต้องผูกติดกับการตอบสนองให้อีกฝ่ายพึงพอใจเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการตอบสนองให้อีกฝ่ายโกรธ เกลียด เศร้า เสียใจ ความอิสระแบบนี้แหละที่เป็นตัวตนของคานาโกะ และเมื่อมีคนที่เข้าหาเธอด้วยความรู้สึกรักแบบคนทั่วไป เธอก็ตอบสนองในแบบของเธอ ซึ่งแม้คานาโกะเองอาจรักคนๆนั้น แต่เธอรู้ว่าความรักแบบที่เธอมีไม่อาจจะทำให้อีกฝ่ายรักเธอได้อย่างยาวนาน เพราะไม่อาจมีมนุษย์คนไหนรับความเสรีแบบคานาโกะได้ เธอจึงต้องฆ่าเขา เพื่อที่เธอจะได้เก็บความรักเขาไว้ตลอดไป)
.
.
.
.
.
.
ใครชอบ Review ที่ลงไว้ ฝากติดตามเพจ
FB : Creative Review : สิ่งดีๆ ที่อยู่ในหนัง
https://www.facebook.com/Movie.Creative.Review