ที่มาและการปฎิบัติหน้าที่ ขององค์กรอิสระ ในลักษณะผิดปรกติ เป็นที่ทราบกันอยู่มานานพอสมควร ทั้งความต้องการ (ตั้งธง) กับการพิจารณาปลดนายก ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า กระทันหันหรือคาดไม่ถึงล่วงหน้า ทั้งๆ ที่รู้ ทั้งๆ ที่เห็นเค้ามาล่วงหน้า แต่ ปชช. ต่างก็เพิกเฉยยอมให้ การทำลายร้าง สิทธิและเสรีภาพ เดินหน้าต่อมา วันแล้ววันเล่า เอาแต่อวดครวญก้มหน้ายอมรับอย่างสันติอหิงสา ภายใต้ข้อกำหนด ของ รธน.๕๐ ที่มีที่มาจาก คมช. ถูกใหมครับ
อันทำให้เกิดข้อสังเกตุขึ้นมาได้ว่า ปชช.ฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย จะเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ส่วน ปชช.ฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตย ที่มีตัวช่วยจากอำนาจนอกระบบ และอำนาจทำลายร้าง รวมทั้งสิทธิที่อยู่เหนือ ข้อกำหนด ของ รธน.๕๐ จะเป็นเหตุผลที่ฝ่าย สันติอหิงสา มิสามารถเป็นแรงต้านทานได้ และผลก็คือ วันแล้ววันเล่า ปชช. จะใช้ชีวิตภายใต้ระบบปกครอง ของผู้มีอำนาจเผด็จการ ชั่วลูกชั่วหลาน อย่างแน่นอน ครับ
ปชช. ต่างเป็นเสมือน จิ้งหรีด ที่ถูกปั่นห้วให้กัดกันเอง เพราะไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ๆ รธน.๕๐ ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้อีกแล้ว ไม่มีนายก ใครล๊ะครับ ที่จะยื่นและรับสนอง พรฎ.เลือกตั้ง และนายกจะต้องมาจากการเลือกตั้ง ในขณะนี้ประเทศไทย ไม่มีระบบการบริหารประเทศ ด้วยประชาธิปไตยหรือระบบปกครองอื่นใด คือพูดง่ายๆ ก็คือ บ้านเถื่อนเมืองเถื่อน นั่นเอง เสียดายที่ ปทท. มีนักวิชาการล้นเหลือแต่ไม่มีใครนำเอาความจริง มาวิเคราะห์ หรือเผยแพร่ให้ ปชช. รับทราบ จากสถานะการณ์ทั่วไป เรามีผู้กระทำผิดกฏหมาย ทั้งเป็นผู้ที่มีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย และผู้ที่เป็นเพียงกลุ่มชน ส่วน รบ. และ จนท.รัฐ ถึงแม้จะมีสถานะ รักษาการ ก็ตามทำอะไรกันบ้าง ที่ให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฏหมายเดียวกัน สิ่งที่กระทำก็เป็นเพียง เขียนเสือให้วัวกลัว และรอให้ทุกอย่างเป็นไปตามธงที่ฝ่าย นอกกฏหมายเขาตั้งเอาไว้ หรือเป็นลักษณะ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นั่นเองแหละครับ
ในวันนี้ รบ. และ จนท.รัฐ ไม่อยู่ในสภาวะเป็นที่พึ่งพา ของ ปชช. ฝ่าย ปชต. อำนาจของ ปชช. ตาม รธน.๕๐ ก็ได้ถูกยึดไปโดย องค์กรอิสระ เรียบร้อยแล้ว และในเมื่อ ปชช. ยังยึดการใช้สิทธิตาม รธน.๕๐ ก็จะไม่สามารถเปลื่ยนแปลงหรือยับยั้ง การเปลี่ยนระบบ บริหาร ไปเป็นระบบ ปกครองได้ ฉนั้นฝ่าย ต้องการระบบปกครอง จึงใช้วิธี ค่อยเป็นค่อยไป หรือตีให้น่วมทีล๊ะเล็กล๊ะน้อย โดยไม่ต้องใช้กำลังเข้าหักหาญ เพราะก็จะเป็นเวลา ที่ทำให้ ปชช. ได้ทำใจกับการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่นการพยายามให้ พรฎ.เลือกตั้ง ในวันที่ ๒ เป็นโมฆะ และปลดนายกใงครับ
เคยมีนักวิชาการเคยพูดเอาไว้ว่า .....ถ้าการชุมนุมอย่างสันติอหิงสาสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ฝ่ายปกครองเขาก็จะให้การชุมนุมอยู่ในข้อต้องห้ามไปนานแล้ว..... ผมหวังว่า คห. ของผมให้ไว้เป็นข้อคิดกับ ผู้อ่านน๊ะครับ
ถึงเวลาหรือยัง กับ การลงมือปฏิรูป แทนการอวดครวญ
อันทำให้เกิดข้อสังเกตุขึ้นมาได้ว่า ปชช.ฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย จะเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ส่วน ปชช.ฝ่ายต่อต้านประชาธิปไตย ที่มีตัวช่วยจากอำนาจนอกระบบ และอำนาจทำลายร้าง รวมทั้งสิทธิที่อยู่เหนือ ข้อกำหนด ของ รธน.๕๐ จะเป็นเหตุผลที่ฝ่าย สันติอหิงสา มิสามารถเป็นแรงต้านทานได้ และผลก็คือ วันแล้ววันเล่า ปชช. จะใช้ชีวิตภายใต้ระบบปกครอง ของผู้มีอำนาจเผด็จการ ชั่วลูกชั่วหลาน อย่างแน่นอน ครับ
ปชช. ต่างเป็นเสมือน จิ้งหรีด ที่ถูกปั่นห้วให้กัดกันเอง เพราะไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ๆ รธน.๕๐ ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้อีกแล้ว ไม่มีนายก ใครล๊ะครับ ที่จะยื่นและรับสนอง พรฎ.เลือกตั้ง และนายกจะต้องมาจากการเลือกตั้ง ในขณะนี้ประเทศไทย ไม่มีระบบการบริหารประเทศ ด้วยประชาธิปไตยหรือระบบปกครองอื่นใด คือพูดง่ายๆ ก็คือ บ้านเถื่อนเมืองเถื่อน นั่นเอง เสียดายที่ ปทท. มีนักวิชาการล้นเหลือแต่ไม่มีใครนำเอาความจริง มาวิเคราะห์ หรือเผยแพร่ให้ ปชช. รับทราบ จากสถานะการณ์ทั่วไป เรามีผู้กระทำผิดกฏหมาย ทั้งเป็นผู้ที่มีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย และผู้ที่เป็นเพียงกลุ่มชน ส่วน รบ. และ จนท.รัฐ ถึงแม้จะมีสถานะ รักษาการ ก็ตามทำอะไรกันบ้าง ที่ให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฏหมายเดียวกัน สิ่งที่กระทำก็เป็นเพียง เขียนเสือให้วัวกลัว และรอให้ทุกอย่างเป็นไปตามธงที่ฝ่าย นอกกฏหมายเขาตั้งเอาไว้ หรือเป็นลักษณะ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก นั่นเองแหละครับ
ในวันนี้ รบ. และ จนท.รัฐ ไม่อยู่ในสภาวะเป็นที่พึ่งพา ของ ปชช. ฝ่าย ปชต. อำนาจของ ปชช. ตาม รธน.๕๐ ก็ได้ถูกยึดไปโดย องค์กรอิสระ เรียบร้อยแล้ว และในเมื่อ ปชช. ยังยึดการใช้สิทธิตาม รธน.๕๐ ก็จะไม่สามารถเปลื่ยนแปลงหรือยับยั้ง การเปลี่ยนระบบ บริหาร ไปเป็นระบบ ปกครองได้ ฉนั้นฝ่าย ต้องการระบบปกครอง จึงใช้วิธี ค่อยเป็นค่อยไป หรือตีให้น่วมทีล๊ะเล็กล๊ะน้อย โดยไม่ต้องใช้กำลังเข้าหักหาญ เพราะก็จะเป็นเวลา ที่ทำให้ ปชช. ได้ทำใจกับการเปลี่ยนแปลง อย่างเช่นการพยายามให้ พรฎ.เลือกตั้ง ในวันที่ ๒ เป็นโมฆะ และปลดนายกใงครับ
เคยมีนักวิชาการเคยพูดเอาไว้ว่า .....ถ้าการชุมนุมอย่างสันติอหิงสาสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ฝ่ายปกครองเขาก็จะให้การชุมนุมอยู่ในข้อต้องห้ามไปนานแล้ว..... ผมหวังว่า คห. ของผมให้ไว้เป็นข้อคิดกับ ผู้อ่านน๊ะครับ