สำหรับตอนอื่นๆ ติดตามได้ตามลิงค์เลยครับ
ทริปปั่นจักรยานตะลุยอังกอร์ ตอนที่ 1: รถทัวร์วิ่งตรง หมอชิต - เสียมราฐ
http://ppantip.com/topic/33294051
ทริปปั่นจักรยานตะลุยอังกอร์ ตอนที่ 3: ป่าฝนแห่งเมืองพระนคร
http://ppantip.com/topic/33301795
วันที่สองของการเดินทาง และวันแรกของปี 2558 วันนี้จะปั่นเที่ยว นครวัด นครธม เส้นทางวงรอบเล็ก (Le Petit Circuit)
โรงแรมบางที่ก็มีน้ำดื่มฟรี เติมใส่กระติกไว้ไปเที่ยวอังกอร์ก็ดีครับ น้ำดื่มที่นี่ไม่ได้ราคาขวดละ 10 บาทเหมือนไทย แต่ราคา 1$ สหรัฐ ถ้าเป็นฤดูร้อน ที่นี่ร้อนอย่างโหดร้าย จะเปลืองค่าเครื่องดื่มได้มากเลยครับ
พร้อมแล้วก็ลุยเลยครับ ออกจากตัวเมืองเสียมเรียบไปถึงนครวัดใกล้นิดเดียว 6 กิโลเมตรบนถนนที่ทั้งในเมืองและนอกเมืองร่มรื่นมาก สองข้างทางเป็นต้นไม้ใหญ่ครื้มสวย ยิ่งฤดูหนาวแบบวันนี้ อากาศดีมากๆ ครับ
ใครที่จะเที่ยวโดยใช้รถยนต์ รถบัส ข้ามช่วงนี้ได้เลยครับ
สำหรับใครใช้จักรยานเสือภูเขามาตรฐานแล้ว ต่อให้ไม่ใช่คนปั่นบ่อยๆ แค่ปั่นไปเพลินๆ แปปเดียวก็ถึงครับ ยิ่งถ้าวันไหนรถติด จักรยานถึงก่อนรถยนต์ด้วย
สำหรับใครที่คิดว่าจะเช่าจักรยานแม่บ้านทั่วไป ราคาค่าตัววันละ 1$ ไปเที่ยวแค่นครวัดหรือนครธมก็ไม่ยากเย็นครับ เป็นที่นิยมเช่นกัน ส่วนถ้าไปเที่ยววงรอบใหญ่ที่ไกลออกไป ก็น่าจะเหมาะกับคนที่สุขภาพดีอยู่บ้าง แต่ละวัดในเส้นทางวงรอบใหญ่จะไม่ได้อยู่ติดๆ กันเหมือนวัดในวงรอบเล็กครับ
ส่วนเพื่อนๆ นักปั่น ถ้าไม่ใช่ปราสาทรอบนอก ปั่นไปถึงได้ทุกที่ครับ ห่วงว่าจะหลงทางดีกว่าครับ 555
แผนที่ท่องเที่ยวเมืองพระนคร จากการท่องเที่ยวกัมพูชา
วันนี้พวกเราจะปั่นบนถนนหลัก เส้นเดียวกับที่รถยนต์ รถบัส มอเตอร์ไซค์ใช้วิ่งกัน ซึ่งก่อนจะถึงนครวัดต้องแวะซื้อบัตรผ่านก่อนนะครับ มองหาทางขวามือจะเจอเคาท์เตอร์ตั๋ว รถบัส รถเก๋ง ตุ๊กๆ จอดกันอยู่เยอะครับ
มีหลายเคาท์เตอร์ เข้าไปซื้อได้เลยครับ
10$ สำหรับบัตรผ่าน 1 วัน
20$ สำหรับบัตรผ่าน 3 วัน (ไม่จำเป็นต้องเข้าติดกัน)
40$ สำหรับบัตรผ่าน 7 วัน (ไม่จำเป็นต้องเข้าติดกัน)
ถ่ายรูปติดบัตรด้วยครับ ป้องกันการแบ่งบัตรใช้ด้วยกัน หลังจากได้บัตรมาแล้วก็เก็บรักษาดีๆ นะครับ หายแล้วเข้าชมอะไรไม่ได้ นอกจากจะซื้อใหม่ครับ
เรื่องของสกุลเงินที่ใช้ในเสียมเรียบ
สกุลเงินที่ใช้คือดอลล่าห์สหรัฐครับ ซึ่งก็ใช้อย่างทั่วไปในเสียมเรียบเลยไม่ว่าจะซื้อบริการหรือสินค้าอะไร ส่วนเงินสกุลท้องถิ่นอย่างเป็นทางการคือเงินเรียล ใช้ได้เช่นกันครับ
ถึงที่นี่จะใช้ดอลล่าห์เป็นหลัก แต่ก็ไม่ใช้ Cent หน่วยราคาที่ต่ำกว่า 1$ จะใช้เงินเรียล จ่าย-ทอน กันแทน โดยมีอัตราแลกเงิน 1$ = 4,000 เรียล
เช่น ซื้อสบู่ 0.5$ เราจ่ายแบ๊งค์ 1$ จะได้รับเงินทอน 2,000 เรียลครับ
ดังนั้น การเที่ยวเสียมเรียบ เตรียมธนบัตรดอลล่าห์ใบเล็กไว้เยอะๆ ครับ จะได้ใช้บ่อย
เมืองอื่นๆ ล่ะ? แถมให้สำหรับคนจะไปเมืองอื่นๆ ด้วย
*พนมเปญ ใช้ทั้งดอลล่าห์และเรียลควบคู่เช่นกัน แต่การยอมรับธนบัตรดอลล่าห์จะน้อยกว่าที่เสียมเรียบเล็กน้อย
*ส่วนเมืองต่างจังหวัดอื่นๆ จะนิยมเรียลมากกว่าดอลล่าห์ครับ
*เมืองชายแดนไทย รับสกุลเงินบาทด้วย
*เมืองชายแดนเวียดนาม รับสกุลดองเวียดนามด้วย
เหลือตัวอย่างกลับมาให้ชมนิดหน่อย เลขเขมรตรงกันกับเลขไทยครับ ดูง่าย
กลับมาที่ทริปของเราต่อนะครับ หลังจากได้ตั๋วมาแล้วก็ปั่นตามเส้นทางจนมาถึง"คูน้ำรอบนครวัด" จากตรงนี้แม้ยังไม่เห็นปราสาทหินสักอัน แต่เชื่อว่าเป็นจุดที่หลายๆ คนก็เริ่มตื่นเต้นกับความสวยงามของอังกอร์ตั้งแต่ตรงนี้แล้วครับ
คูน้ำล้อมรอบกำแพงนครวัดใหญ่โตมาก เป็นทั้งการสร้างจำลอง มหาสมุทรบนสวรรค์ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุในคติของฮินดู และเป็นระบบชลประทานที่เคยถูกใช้งานจริงที่น่าทึ่งมากๆ คูน้ำของนครวัดและทั้งเมืองพระนครเชื่อมโยงกับภูเขาต้นน้ำจากพนมกุเลนทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม่น้ำเสียมเรียบ และโตนเลสาป ทางตอนใต้
ปั่นตามทางต่อมาก็จะถึงสะพานหินที่ใช้เดินข้ามคลอง ตรงเข้าสู่นครวัด แค่มองเห็นยอดปรางค์นครวัดจากระยะไกลก็รู้สึกทึ่งกับสิ่งก่อสร้างโบราณขนาดยักษ์นี้แล้ว แต่อดใจไว้นิด ปั่นผ่านทางเข้านครวัดไปก่อน เดี๋ยวเย็นนี้กลับมาอีกที ตอนนี้ไปนครธมกันก่อนเลย
ประตูทิศใต้ของนครธมเป็นอีกจุดที่คึกคักกับรูปปั้นหินลอยตัวที่ยังสมบูรณ์กว่าทางประตูฝั่งอื่น รูปปั้นเล่าเรื่องราวของตำนานฮินดูเกี่ยวกับการกำเนิดโลกและจักรวาล และจะเข้าเมืองนี้ได้ ต้องลอดซุ้มประตูหินแกะสลักเป็น ‘ใบหน้า’ ชวนเข้าฝันอันติดตาและลืมไม่ลงง่ายๆ เลยครับ
ตรงนี้รถติดยาวมาก
มาถึงใจกลางของเมืองนครธม ที่ปราสาทบายน กับใบหน้าเดิมที่คราวนี้ระดมมาห้อมล้อมเลยทีเดียว ไม่ว่าจะยืนหลบอยู่มุมไหนของปราสาท ก็จะมีสายตาจากใบหน้ายักษ์หินจับจ้อง ปริ่มยิ้มพริ้มพรึงใส่เราตลอดเวลา สมัยนี้เรามีนักท่องเที่ยวร่วมร้อยอยู่เป็นเพื่อนท่ามกลางแดดจ้า แต่ทว่าเดิมทีปราสาทบายนเคยถูกทิ้งรกร้างอยู่กลางป่า ลองจินตนาการบรรยากาศและความรู้สึกของนักสำรวจในสมัยนั้นดูแล้วน่าขนลุกดีครับ
ลองหามุมแอบดูครับ แต่ตรงไหนก็ยังเห็นใบหน้าอยู่ดี 55
ปราสาทบาปวน อ่านว่า บา-ปวน นะครับ มิใช่ บาป-วน ปราสาทหินทรงปีรามิดใหญ่บะเริ่มอีกอัน เดินขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้ มีการสร้างบันไดไม้ซ้อนทับหินไว้ เดินไม่ยากแต่ก็ยังชันพอสมควร
ทางเดินหินยาวเหยียดตรงหาปราสาทเป็นจุดเด่นของบาปวน
นอกจากนี้ในอังกอร์ธมยังเที่ยวชมสถานที่สำคัญได้อีกหลายที่ พิมานอากาศ อีกหนึ่งปราสาททรงปีรามิด และชมงานหินแกะสลักชั้นเยี่ยมที่ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน
พิมานอากาศ
แวะทานอาหารกันครับ รีวิวราคาอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่อังกอร์ตรงนี้เลยละกันครับ
น้ำดื่ม น้ำอัดลม น้ำมะพร้าว 1$
ขนมปังบาแกต 3$
อาหารจานเดียวในร้านอาหารท้องถิ่นริมทาง 3$ ขึ้นไป
ทุกร้านให้ปริมาณมาก รสชาติอาหารคล้ายอาหารไทย ส่วนร้านดีๆ น่าทานในอังกอร์ไม่ค่อยมีหรอกครับ เกือบทั้งหมดจะเป็นเต๊นท์ เพิง ริมทางทั่วไป ถ้าไม่ชอบแนวเพิงก็ต้องกลับไปทานที่เสียมเรียบ ที่จะมีร้านดีๆ ให้เลือกทุกช่วงราคา
ออกจากนครธมไปทางตะวันออก ก็จะมีปราสาทเจ้าสายเทวดา ปราสาทธมมานนท์ ปราสาทตาแก้ว ปราสาทตาพรม บันทายกะเดย สระทรง และปราสาทกระวาน ก็เลือกเข้าชมเอาตามเวลาที่มีเลยครับ ใครเป็นแฟนคลับปราสาทหินและศิลปะอังกอร์ ไม่ควรพลาดแม้สักที่เดียวครับ
ที่ปราสาทตาพรม ประหนึ่งดาราฮอลลีวูดเพราะแสดงหนังหลายเรื่อง เป็นอีกหนึ่งจุดเรียกแขก คนเยอะมากครับและถ้าใครอยากให้มีร้านอาหารให้เลือกทานมากสักหน่อยก็ต้องมาทานที่หน้าทางเข้าปราสาทตาพรมได้เลย จุดที่คนสนใจมากๆ ก็ไม่พ้นรากไม้ยักษ์ที่ขึ้นปกคลุมปราสาทหิน ต่อคิวถ่ายรูปกันยาวเหยียดเลยครับ คิดว่าควรจะแจกบัตรคิวกันเลยน่าจะสะดวกยิ่งขึ้น 55
ที่นี่ไม่ได้สร้างตามคติฮินดูเหมือนปราสาทส่วนใหญ่ แต่สร้างโดยกษัตริย์ที่นับถือพุทธ และมีร่องรอยของการถูกทำลายจากกษัตริย์คนต่อมาที่นับถือฮินดู
ปั่นจักรยานเที่ยวนครวัด จอดจักรยานยังไง??
ฝากไว้สำหรับท่านที่จะเที่ยวโดยจักรยานแม่บ้านหรือจักรยานไฮเอนด์ ส่วนใครเที่ยวด้วยรถยนต์ข้ามได้ครับ
ถ้าเช่าจักรยาน ร้านมักจะให้สายล็อกมาด้วยครับ หรือถ้าร้านไหนไม่มีให้ เตรียมไปเองเลยครับถ้าคิดจะปั่นเที่ยวอยู่แล้ว ที่นี่ไม่มีที่รับฝากรถ ไม่มีคนเฝ้า แต่มีต้นไม้ให้ล็อกจักรยานได้ครับ ตามหน้าปราสาท ก็เลือกทำเลโล่งแจ้ง อย่าลับตาคนมากนักครับ เวลาจอดก็อย่าเผลอลืมใส่ของมีค่าไว้ในกระเป๋าติดจักรยานล่ะครับ
อีกวิธีนึงคือฝากร้านอาหารครับ แต่ไม่มีร้านอาหารอยู่หน้าปราสาททุกแห่งและบางร้านก็ยุ่งจนไม่น่าจะอยากรับฝากรถให้เรา เพราะฉะนั้นถึงสายล็อกจักรยานจะตัดง่ายแค่ไหน ก็ต้องพึ่งพามันล่ะครับ ใครที่หิ้วคันหลักแสนไป เวลาเข้าไปเที่ยวตัวปราสาทก็ลุ้นตอนกลับเอาทุกรอบได้เลยครับ 55
แต่โดยรวม ผมว่าไม่ง่ายที่คนจะมาขโมย หรือถือคีมตัดเหล็กมานั่งขโมยในที่ๆ คนผ่านไปผ่านมาตลอดเวลาครับ
เสร็จจากชมปราสาทตาพรม ก็ตามเส้นทางปั่นเป็นวงรอบ ก็จะกลับไปที่นครวัดโดยไม่ต้องผ่านทางเดิม จะผ่านปราสาทกระวาน แล้วก็ปั่นยาวๆ มาต่อเลยครับ ไม่มีปราสาทหินให้แวะระหว่างทาง เส้นทางเงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อยลง ปั่นทำความเร็วได้ครับ
ทีนี้ก็กลับมาถึงนครวัดอีกครั้ง ในช่วงเย็นคนน้อยกว่าช่วงเช้าล่ะครับ เพราะส่วนมากน่าจะไปที่พนมบาเค็ง แต่พวกเรามาที่นี่ดีกว่า ได้ชมสุดยอดมหาปราสาทแห่งอังกอร์ในแบบที่ไม่ต้องถ่ายรูปติดฝูงชน
ฝากจักรยานไว้กับแม่ค้าร้านอาหารโดยสัญญาว่าจะกลับมาทานด้วย แล้วก็เดินเข้านครวัดเลย ตามทางสะพานหินข้ามคูน้ำรอบกำแพงชั้นนอกและเดินอีกยาวในส่วนชั้นใน มองเห็นนครวัดตะหง่านอยู่ในระยะไกล
และตามคำพูดที่ว่า ‘See Angkor and die’ อธิบายถึงนครวัดอย่างสั้นและความหมายครบที่สุดแล้ว
จนถึงตัวปราสาท จะพบภาพหินสลักนูนต่ำในความละเอียดที่สูงส่งอย่างไม่น่าเชื่อจัดวางอยู่เต็มพื้นที่ในแต่ละกำแพง ประตู หน้าต่าง ควรค่าแก่การเดินให้ครบทุกชั้นทุกแผนก จนถึงชั้นบนสุดครับ
จนถึงยามเย็นย่ำ เวลาปิด 5 โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่เริ่มกระจายตัวกันเดินไล่นักท่องเที่ยวให้กลับ ซึ่งดูแล้วเป็นงานหนักมาก เพราะทุกคนต่างดื้อดึง ยื้อยุดเพื่ออยู่ให้นานที่สุด เพื่อการถ่ายภาพนครวัดอันไร้ผู้คน บางรายถึงกับทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ค่อยๆ เชิญนักท่องเที่ยวออกจากปราสาทตั้งแต่ชนบนสุด จนถึงด้านล่าง จนถึงหน้าตัวปราสาท จนถึงหน้าสระน้ำ และจนถึงกำแพงชั้นนอก ก็พระอาทิตย์ลับตาพอดี พระอาทิตย์ยามเย็นเปลี่ยนสีนครวัดให้เป็นอีกหนึ่งความสวยงามและน่าทึ่งส่งท้ายก่อนกลับ
แต่เรายังกลับไม่ได้ ต้องไปทานอาหารกับร้านที่ฝากจักรยานไว้ตามสัญญา ทานไก่ย่างตัวยักษ์เนื้อเหนียวหนึบ ย่างแห้งๆ อร่อยไปอีกสไตล์
ถึงเวลาปั่นกลับเสียมเรียบ แย่นิดหน่อยเพราะทางมืดมาก ไม่มีไฟถนนเลย รถยนต์ก็น้อยลงแล้วทำให้เหมือนต้องปั่นอย่างมืดมิดในห้วงอวกาศ เพราะฉะนั้น อย่าลืมเตรียมไฟหน้า ไฟท้ายติดรถด้วยนะครับ
พรุ่งนี้จะพาออกนอกแผนที่ เที่ยวเสียมเรียบและอังกอร์ในแบบที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิมครับ ติดตามได้ในตอนที่ 3 ครับ
[CR] ทริปปั่นจักรยานตะลุยอังกอร์ ตอนที่ 2: มหัศจรรย์มหานครโบราณ
ทริปปั่นจักรยานตะลุยอังกอร์ ตอนที่ 1: รถทัวร์วิ่งตรง หมอชิต - เสียมราฐ
http://ppantip.com/topic/33294051
ทริปปั่นจักรยานตะลุยอังกอร์ ตอนที่ 3: ป่าฝนแห่งเมืองพระนคร
http://ppantip.com/topic/33301795
วันที่สองของการเดินทาง และวันแรกของปี 2558 วันนี้จะปั่นเที่ยว นครวัด นครธม เส้นทางวงรอบเล็ก (Le Petit Circuit)
โรงแรมบางที่ก็มีน้ำดื่มฟรี เติมใส่กระติกไว้ไปเที่ยวอังกอร์ก็ดีครับ น้ำดื่มที่นี่ไม่ได้ราคาขวดละ 10 บาทเหมือนไทย แต่ราคา 1$ สหรัฐ ถ้าเป็นฤดูร้อน ที่นี่ร้อนอย่างโหดร้าย จะเปลืองค่าเครื่องดื่มได้มากเลยครับ
พร้อมแล้วก็ลุยเลยครับ ออกจากตัวเมืองเสียมเรียบไปถึงนครวัดใกล้นิดเดียว 6 กิโลเมตรบนถนนที่ทั้งในเมืองและนอกเมืองร่มรื่นมาก สองข้างทางเป็นต้นไม้ใหญ่ครื้มสวย ยิ่งฤดูหนาวแบบวันนี้ อากาศดีมากๆ ครับ
ใครที่จะเที่ยวโดยใช้รถยนต์ รถบัส ข้ามช่วงนี้ได้เลยครับ
สำหรับใครใช้จักรยานเสือภูเขามาตรฐานแล้ว ต่อให้ไม่ใช่คนปั่นบ่อยๆ แค่ปั่นไปเพลินๆ แปปเดียวก็ถึงครับ ยิ่งถ้าวันไหนรถติด จักรยานถึงก่อนรถยนต์ด้วย
สำหรับใครที่คิดว่าจะเช่าจักรยานแม่บ้านทั่วไป ราคาค่าตัววันละ 1$ ไปเที่ยวแค่นครวัดหรือนครธมก็ไม่ยากเย็นครับ เป็นที่นิยมเช่นกัน ส่วนถ้าไปเที่ยววงรอบใหญ่ที่ไกลออกไป ก็น่าจะเหมาะกับคนที่สุขภาพดีอยู่บ้าง แต่ละวัดในเส้นทางวงรอบใหญ่จะไม่ได้อยู่ติดๆ กันเหมือนวัดในวงรอบเล็กครับ
ส่วนเพื่อนๆ นักปั่น ถ้าไม่ใช่ปราสาทรอบนอก ปั่นไปถึงได้ทุกที่ครับ ห่วงว่าจะหลงทางดีกว่าครับ 555
แผนที่ท่องเที่ยวเมืองพระนคร จากการท่องเที่ยวกัมพูชา
วันนี้พวกเราจะปั่นบนถนนหลัก เส้นเดียวกับที่รถยนต์ รถบัส มอเตอร์ไซค์ใช้วิ่งกัน ซึ่งก่อนจะถึงนครวัดต้องแวะซื้อบัตรผ่านก่อนนะครับ มองหาทางขวามือจะเจอเคาท์เตอร์ตั๋ว รถบัส รถเก๋ง ตุ๊กๆ จอดกันอยู่เยอะครับ
มีหลายเคาท์เตอร์ เข้าไปซื้อได้เลยครับ
10$ สำหรับบัตรผ่าน 1 วัน
20$ สำหรับบัตรผ่าน 3 วัน (ไม่จำเป็นต้องเข้าติดกัน)
40$ สำหรับบัตรผ่าน 7 วัน (ไม่จำเป็นต้องเข้าติดกัน)
ถ่ายรูปติดบัตรด้วยครับ ป้องกันการแบ่งบัตรใช้ด้วยกัน หลังจากได้บัตรมาแล้วก็เก็บรักษาดีๆ นะครับ หายแล้วเข้าชมอะไรไม่ได้ นอกจากจะซื้อใหม่ครับ
เรื่องของสกุลเงินที่ใช้ในเสียมเรียบ
สกุลเงินที่ใช้คือดอลล่าห์สหรัฐครับ ซึ่งก็ใช้อย่างทั่วไปในเสียมเรียบเลยไม่ว่าจะซื้อบริการหรือสินค้าอะไร ส่วนเงินสกุลท้องถิ่นอย่างเป็นทางการคือเงินเรียล ใช้ได้เช่นกันครับ
ถึงที่นี่จะใช้ดอลล่าห์เป็นหลัก แต่ก็ไม่ใช้ Cent หน่วยราคาที่ต่ำกว่า 1$ จะใช้เงินเรียล จ่าย-ทอน กันแทน โดยมีอัตราแลกเงิน 1$ = 4,000 เรียล
เช่น ซื้อสบู่ 0.5$ เราจ่ายแบ๊งค์ 1$ จะได้รับเงินทอน 2,000 เรียลครับ
ดังนั้น การเที่ยวเสียมเรียบ เตรียมธนบัตรดอลล่าห์ใบเล็กไว้เยอะๆ ครับ จะได้ใช้บ่อย
เมืองอื่นๆ ล่ะ? แถมให้สำหรับคนจะไปเมืองอื่นๆ ด้วย
*พนมเปญ ใช้ทั้งดอลล่าห์และเรียลควบคู่เช่นกัน แต่การยอมรับธนบัตรดอลล่าห์จะน้อยกว่าที่เสียมเรียบเล็กน้อย
*ส่วนเมืองต่างจังหวัดอื่นๆ จะนิยมเรียลมากกว่าดอลล่าห์ครับ
*เมืองชายแดนไทย รับสกุลเงินบาทด้วย
*เมืองชายแดนเวียดนาม รับสกุลดองเวียดนามด้วย
เหลือตัวอย่างกลับมาให้ชมนิดหน่อย เลขเขมรตรงกันกับเลขไทยครับ ดูง่าย
กลับมาที่ทริปของเราต่อนะครับ หลังจากได้ตั๋วมาแล้วก็ปั่นตามเส้นทางจนมาถึง"คูน้ำรอบนครวัด" จากตรงนี้แม้ยังไม่เห็นปราสาทหินสักอัน แต่เชื่อว่าเป็นจุดที่หลายๆ คนก็เริ่มตื่นเต้นกับความสวยงามของอังกอร์ตั้งแต่ตรงนี้แล้วครับ
คูน้ำล้อมรอบกำแพงนครวัดใหญ่โตมาก เป็นทั้งการสร้างจำลอง มหาสมุทรบนสวรรค์ที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุในคติของฮินดู และเป็นระบบชลประทานที่เคยถูกใช้งานจริงที่น่าทึ่งมากๆ คูน้ำของนครวัดและทั้งเมืองพระนครเชื่อมโยงกับภูเขาต้นน้ำจากพนมกุเลนทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม่น้ำเสียมเรียบ และโตนเลสาป ทางตอนใต้
ปั่นตามทางต่อมาก็จะถึงสะพานหินที่ใช้เดินข้ามคลอง ตรงเข้าสู่นครวัด แค่มองเห็นยอดปรางค์นครวัดจากระยะไกลก็รู้สึกทึ่งกับสิ่งก่อสร้างโบราณขนาดยักษ์นี้แล้ว แต่อดใจไว้นิด ปั่นผ่านทางเข้านครวัดไปก่อน เดี๋ยวเย็นนี้กลับมาอีกที ตอนนี้ไปนครธมกันก่อนเลย
ประตูทิศใต้ของนครธมเป็นอีกจุดที่คึกคักกับรูปปั้นหินลอยตัวที่ยังสมบูรณ์กว่าทางประตูฝั่งอื่น รูปปั้นเล่าเรื่องราวของตำนานฮินดูเกี่ยวกับการกำเนิดโลกและจักรวาล และจะเข้าเมืองนี้ได้ ต้องลอดซุ้มประตูหินแกะสลักเป็น ‘ใบหน้า’ ชวนเข้าฝันอันติดตาและลืมไม่ลงง่ายๆ เลยครับ
ตรงนี้รถติดยาวมาก
มาถึงใจกลางของเมืองนครธม ที่ปราสาทบายน กับใบหน้าเดิมที่คราวนี้ระดมมาห้อมล้อมเลยทีเดียว ไม่ว่าจะยืนหลบอยู่มุมไหนของปราสาท ก็จะมีสายตาจากใบหน้ายักษ์หินจับจ้อง ปริ่มยิ้มพริ้มพรึงใส่เราตลอดเวลา สมัยนี้เรามีนักท่องเที่ยวร่วมร้อยอยู่เป็นเพื่อนท่ามกลางแดดจ้า แต่ทว่าเดิมทีปราสาทบายนเคยถูกทิ้งรกร้างอยู่กลางป่า ลองจินตนาการบรรยากาศและความรู้สึกของนักสำรวจในสมัยนั้นดูแล้วน่าขนลุกดีครับ
ลองหามุมแอบดูครับ แต่ตรงไหนก็ยังเห็นใบหน้าอยู่ดี 55
ปราสาทบาปวน อ่านว่า บา-ปวน นะครับ มิใช่ บาป-วน ปราสาทหินทรงปีรามิดใหญ่บะเริ่มอีกอัน เดินขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้ มีการสร้างบันไดไม้ซ้อนทับหินไว้ เดินไม่ยากแต่ก็ยังชันพอสมควร
ทางเดินหินยาวเหยียดตรงหาปราสาทเป็นจุดเด่นของบาปวน
นอกจากนี้ในอังกอร์ธมยังเที่ยวชมสถานที่สำคัญได้อีกหลายที่ พิมานอากาศ อีกหนึ่งปราสาททรงปีรามิด และชมงานหินแกะสลักชั้นเยี่ยมที่ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน
พิมานอากาศ
แวะทานอาหารกันครับ รีวิวราคาอาหารและเครื่องดื่มในพื้นที่อังกอร์ตรงนี้เลยละกันครับ
น้ำดื่ม น้ำอัดลม น้ำมะพร้าว 1$
ขนมปังบาแกต 3$
อาหารจานเดียวในร้านอาหารท้องถิ่นริมทาง 3$ ขึ้นไป
ทุกร้านให้ปริมาณมาก รสชาติอาหารคล้ายอาหารไทย ส่วนร้านดีๆ น่าทานในอังกอร์ไม่ค่อยมีหรอกครับ เกือบทั้งหมดจะเป็นเต๊นท์ เพิง ริมทางทั่วไป ถ้าไม่ชอบแนวเพิงก็ต้องกลับไปทานที่เสียมเรียบ ที่จะมีร้านดีๆ ให้เลือกทุกช่วงราคา
ออกจากนครธมไปทางตะวันออก ก็จะมีปราสาทเจ้าสายเทวดา ปราสาทธมมานนท์ ปราสาทตาแก้ว ปราสาทตาพรม บันทายกะเดย สระทรง และปราสาทกระวาน ก็เลือกเข้าชมเอาตามเวลาที่มีเลยครับ ใครเป็นแฟนคลับปราสาทหินและศิลปะอังกอร์ ไม่ควรพลาดแม้สักที่เดียวครับ
ที่ปราสาทตาพรม ประหนึ่งดาราฮอลลีวูดเพราะแสดงหนังหลายเรื่อง เป็นอีกหนึ่งจุดเรียกแขก คนเยอะมากครับและถ้าใครอยากให้มีร้านอาหารให้เลือกทานมากสักหน่อยก็ต้องมาทานที่หน้าทางเข้าปราสาทตาพรมได้เลย จุดที่คนสนใจมากๆ ก็ไม่พ้นรากไม้ยักษ์ที่ขึ้นปกคลุมปราสาทหิน ต่อคิวถ่ายรูปกันยาวเหยียดเลยครับ คิดว่าควรจะแจกบัตรคิวกันเลยน่าจะสะดวกยิ่งขึ้น 55
ที่นี่ไม่ได้สร้างตามคติฮินดูเหมือนปราสาทส่วนใหญ่ แต่สร้างโดยกษัตริย์ที่นับถือพุทธ และมีร่องรอยของการถูกทำลายจากกษัตริย์คนต่อมาที่นับถือฮินดู
ปั่นจักรยานเที่ยวนครวัด จอดจักรยานยังไง??
ฝากไว้สำหรับท่านที่จะเที่ยวโดยจักรยานแม่บ้านหรือจักรยานไฮเอนด์ ส่วนใครเที่ยวด้วยรถยนต์ข้ามได้ครับ
ถ้าเช่าจักรยาน ร้านมักจะให้สายล็อกมาด้วยครับ หรือถ้าร้านไหนไม่มีให้ เตรียมไปเองเลยครับถ้าคิดจะปั่นเที่ยวอยู่แล้ว ที่นี่ไม่มีที่รับฝากรถ ไม่มีคนเฝ้า แต่มีต้นไม้ให้ล็อกจักรยานได้ครับ ตามหน้าปราสาท ก็เลือกทำเลโล่งแจ้ง อย่าลับตาคนมากนักครับ เวลาจอดก็อย่าเผลอลืมใส่ของมีค่าไว้ในกระเป๋าติดจักรยานล่ะครับ
อีกวิธีนึงคือฝากร้านอาหารครับ แต่ไม่มีร้านอาหารอยู่หน้าปราสาททุกแห่งและบางร้านก็ยุ่งจนไม่น่าจะอยากรับฝากรถให้เรา เพราะฉะนั้นถึงสายล็อกจักรยานจะตัดง่ายแค่ไหน ก็ต้องพึ่งพามันล่ะครับ ใครที่หิ้วคันหลักแสนไป เวลาเข้าไปเที่ยวตัวปราสาทก็ลุ้นตอนกลับเอาทุกรอบได้เลยครับ 55
แต่โดยรวม ผมว่าไม่ง่ายที่คนจะมาขโมย หรือถือคีมตัดเหล็กมานั่งขโมยในที่ๆ คนผ่านไปผ่านมาตลอดเวลาครับ
เสร็จจากชมปราสาทตาพรม ก็ตามเส้นทางปั่นเป็นวงรอบ ก็จะกลับไปที่นครวัดโดยไม่ต้องผ่านทางเดิม จะผ่านปราสาทกระวาน แล้วก็ปั่นยาวๆ มาต่อเลยครับ ไม่มีปราสาทหินให้แวะระหว่างทาง เส้นทางเงียบสงบ นักท่องเที่ยวน้อยลง ปั่นทำความเร็วได้ครับ
ทีนี้ก็กลับมาถึงนครวัดอีกครั้ง ในช่วงเย็นคนน้อยกว่าช่วงเช้าล่ะครับ เพราะส่วนมากน่าจะไปที่พนมบาเค็ง แต่พวกเรามาที่นี่ดีกว่า ได้ชมสุดยอดมหาปราสาทแห่งอังกอร์ในแบบที่ไม่ต้องถ่ายรูปติดฝูงชน
ฝากจักรยานไว้กับแม่ค้าร้านอาหารโดยสัญญาว่าจะกลับมาทานด้วย แล้วก็เดินเข้านครวัดเลย ตามทางสะพานหินข้ามคูน้ำรอบกำแพงชั้นนอกและเดินอีกยาวในส่วนชั้นใน มองเห็นนครวัดตะหง่านอยู่ในระยะไกล
และตามคำพูดที่ว่า ‘See Angkor and die’ อธิบายถึงนครวัดอย่างสั้นและความหมายครบที่สุดแล้ว
จนถึงตัวปราสาท จะพบภาพหินสลักนูนต่ำในความละเอียดที่สูงส่งอย่างไม่น่าเชื่อจัดวางอยู่เต็มพื้นที่ในแต่ละกำแพง ประตู หน้าต่าง ควรค่าแก่การเดินให้ครบทุกชั้นทุกแผนก จนถึงชั้นบนสุดครับ
จนถึงยามเย็นย่ำ เวลาปิด 5 โมงครึ่ง เจ้าหน้าที่เริ่มกระจายตัวกันเดินไล่นักท่องเที่ยวให้กลับ ซึ่งดูแล้วเป็นงานหนักมาก เพราะทุกคนต่างดื้อดึง ยื้อยุดเพื่ออยู่ให้นานที่สุด เพื่อการถ่ายภาพนครวัดอันไร้ผู้คน บางรายถึงกับทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ค่อยๆ เชิญนักท่องเที่ยวออกจากปราสาทตั้งแต่ชนบนสุด จนถึงด้านล่าง จนถึงหน้าตัวปราสาท จนถึงหน้าสระน้ำ และจนถึงกำแพงชั้นนอก ก็พระอาทิตย์ลับตาพอดี พระอาทิตย์ยามเย็นเปลี่ยนสีนครวัดให้เป็นอีกหนึ่งความสวยงามและน่าทึ่งส่งท้ายก่อนกลับ
แต่เรายังกลับไม่ได้ ต้องไปทานอาหารกับร้านที่ฝากจักรยานไว้ตามสัญญา ทานไก่ย่างตัวยักษ์เนื้อเหนียวหนึบ ย่างแห้งๆ อร่อยไปอีกสไตล์
ถึงเวลาปั่นกลับเสียมเรียบ แย่นิดหน่อยเพราะทางมืดมาก ไม่มีไฟถนนเลย รถยนต์ก็น้อยลงแล้วทำให้เหมือนต้องปั่นอย่างมืดมิดในห้วงอวกาศ เพราะฉะนั้น อย่าลืมเตรียมไฟหน้า ไฟท้ายติดรถด้วยนะครับ
พรุ่งนี้จะพาออกนอกแผนที่ เที่ยวเสียมเรียบและอังกอร์ในแบบที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิมครับ ติดตามได้ในตอนที่ 3 ครับ