ข้อเสียของภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีอะไรบ้าง

กรณีที่มีบ้านเป็นที่อยู่อาศัย
มูลค่าไม่เกิน 1 ล้านไม่เสีย
1 ล้าน - 3 ล้าน เสีย สูงสุดไม่เกิน 7500 บาท ต่อปี
3ล้านบาทขึ้นไป มากกว่า 7500 บาท ต่อปี
5 ล้านบาท 25000 บาทต่อปี เดือนละประมาณ 2 พันบาท

ถ้าคนที่อาศัยอยู่ในอาคารพาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่ ราคาเกิน 5 ล้าน
ทำธุรกิจขายอาหาร ผู้ขายอาหารต้องผลักภาระมาให้ผู้ซื้อ ฉนั้น อาหารเพิ่มแน่ คงไม่เพิ่ม บาทเดียว โดนแน่ 5 บาท
สำหรับคนที่ทำบ้านเช่า มี่ดินและสิ่งปลูกสร้างของเค้าจะเป็นเพื่อการพาณิชย์
บ้านมูลค่า 2 ล้าน จะโดนภาษีสูงสุดไม่เกิน 2% คือ 2 หมื่นบาทต่อปี
คนเช่าบ้านอยู่ก็คงต้องรับภาษีส่วนนี้ไป คาดว่าค่าเช่าบ้านจะเพิ่มขึ้นประมาณ 15-30 % จากที่เป็น อยู่ คิดที่ผู้ให้เช่าต้องการผลตอบแทน 7% ของมูลค่าทรัพสิน
กรณีค้าปลีกที่เช่าแพงขายก็ต้องรับภาระส่วนนี้ไป ซึ่งจะโดนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการซื้อขาย คนซื้อของก็ต้องรับภาระส่วนนี้ไป

ซึ่งคาดว่ารายจ่ายของคนชั้นกลางจะเพิ่มขึ้น 5 - 25% ขึ้นกับรายรับของคุณ และมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามราคาประเมิณ ซึ่ง สูงกว่า เงินเฟ้อ เสมอ
แต่รายรับคนชั้นกลางส่วนใหญ่โตแพ้เงินเฟ้อ

สำหรับผมคงกระทบไม่ถึง 1 % ของรายได้ผม

กฎหมายนี้ไม่มียุทธศาสตร์อะไรเลยยออกมาหาตังอย่างเดียว
กับรีดไถ่ที่ดินของคนที่มีที่ดินเยอะแต่ไม่มีเงิน เพื่อให้ที่ดินตกไปอยู่ในมือกลุ่มนายทุน ในราคาถูก

และทำให้คนชั้นกลางมีเงินออมน้อยลง และต้องประเมิณความเสียงเพิ่มหลังเกษียณ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่