(เราอยู่ญี่ปุ่นแล้วลืมบัตรประชาชนไว้ที่ไทยเลยยืนยันตัวไม่ได้ เลยตั้งเป็นกระทู้คำถามแทนอะค่ะ ถ้าผิดกฎลบได้เลยนะคะ)
เกริ่นก่อนว่า ปกติจขกทเป็นคนค่อนข้างกลัวความสูง
ไอ้พวกเครื่องเล่นอะไรสูงๆตามสวนสนุกนี่ ไม่ได้แอ้มเราหรอก
หรือไอ้พวกปีนป่ายอะไรต่างๆ ก็ไม่ค่อยเล่น เพราะเป็นโรคกลัวตก คือปีนขึ้นปีนได้ ไม่มีปัญหาแต่ตอนลงลงไม่ได้ เค้ากลัววว
แถมไอ้พวกกีฬาแบบลื่นๆ อย่าง โรลเลอร์เบลด, สเก็ตน้ำแข็ง, สเก็ตบอร์ด พวกนี้เคยลองมาหมดละ ล้มเหลวไม่เป็นท่าค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ก็นั่นแหละค่ะ อ้าว แล้วมาเล่นสกีได้ไง
เรื่องของเรื่องก็คือ เราได้มาอยู่เมืองเล็กๆเมืองนึงในฮอกไกโดค่ะ
แล้วก็อยู่เมืองที่มีลานสกีเป็นของตัวเองด้วย ประมาณว่าเมืองรอบๆก็รายล้อมไปด้วยลานสกี
ทีแรกพอใครถามว่าจะเล่นสกีมั้ย ก็ตอบไปว่า เล่นๆๆๆๆๆ โดยไม่ได้คิดเล๊ยยยยว่าสกีมันลงมาจากที่สูง
ทีนี้ ช่วงต้นฤดูหนาว ประมาณธันวาปีที่แล้ว มีคนญี่ปุ่นที่รู้จักพาไปเล่นแอร์บอร์ด
(แอร์บอร์ด คือ กิจกรรมหน้าหนาวที่นอนคว่ำบนเบาะเป่าลม และลื่นลงมาจากเขาแบบเร็วๆ ง่ายกว่าสกีนิดหน่อยแต่ความมันส์ไม่แพ้กัน)
ทีนี้ พอไปเล่นแอร์บอร์ด จังหวะที่ขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อไถลลงมา คือออ มองลงมา มันน่ากลัวมากกกกกกกอ่าาาาา สูงอะ
ละจังหวะที่ลื่นลงมา คือมันเร็ว คือเบรคไม่อยู่ จขกท ไม่ชอบความเร็วด้วยอะ ขับรถ ขี่มอไซต์ไรงี้ ไม่ได้เรื่องเลย
ต่อๆๆ ละมีชอตนึง คือ แอร์บอร์ดลงมาแบบ ทางยาวมาก เร็วมาก เบรคไม่อยู่
ละผ่านเจ้าหน้าที่ระหว่างทาง เค้าก็ทำมือสัญลักษณ์ว่าให้ลดความเร็วไรงี้
ระหว่างที่ในหัวกำลังคิดว่า "โอเค ลดความเร็ว ลดความเร็ว เอ้ะ จะลดความเร็วต้องทำไงนะ!?"
ตัดภาพมาที่ร่างกาย ฟึบ!! ชั้นบินด้ายยยยยยย คือลอยค่ะ ลอยยยยย แล้วก็ไปหัวทิ่มอยู่กองหิมะกองโต ลุกก็ไม่ขึ้น
ตอนนั้นเป็นแบบ โอยยยยไม่เอาละแง่ม สูงก็สูงเร็วก็เร็ว น่ากลัวชะมัด ขนาดแอร์บอร์ดง่ายกว่าสกียังขนาดนี้ ละสกีชั้นคงเอาตัวรอดไม่ได้แน่ๆ
คิดแบบนี้ก็ตัดสินใจว่า ชาตินี้คงไม่เล่นแล้วสกี ไม่เอาละ
ทีนี้ พอปลายเดือนธค. เราไปสัมนาที่โตเกียวประมาณสองอาทิตย์ ไม่อยู่เมือง
ไลน์ในกรุ้ปทีมต่างชาติก็เด้งมา เพื่อนร่วมงานเกาหลีมาบอกว่า "มีคลาสเรียนสกี สามวัน สำหรับชาวเมืองแหละ ถูกมากๆเลย วันละ2ชม. 3วัน รวมแล้ว 6ชม/3000เยนเอง ปกติ 2ชม/3000เยนนะ ลดกว่าครึ่งแน่ะใครสนใจบ้าง"
ได้ยินดังนั้นก็แบบ เห้ยถูกอะ เห้ย แต่ไม่เอาดีกว่า คือกลัว แต่เห้ย คือก็อุตส่ามาอยู่ฮอกไกโดทั้งทีป้ะ เห้ย ลังเล ตัดสินใจไม่ได้
ก็ให้คำตอบเพื่อนเกาหลีไปว่า เห้ย ยังไม่รู้อะ ขอคิดก่อนนะ
เพื่อนเกาหลีส่งรูปกลับมา เป็นรูปถ่ายใบสมัครคอร์สเรียนสกีที่กรอกชื่อเราและข้อมูลทุกอย่างแล้ว
"ข้อมูลถูกต้องนะ นี่ยื่นใบสมัครให้แล้วแหละ" เราก็แบบเห้ยยยยย ยังไม่ได้ตอบตกลงป่ะ
เพื่อนก็บอกว่า ก็เห็นลังเล ก็เลยลองเล่นดูก่อนสิ ถ้าจบคอร์สแล้วพบว่าไม่ชอบ จะไม่เล่นต่ออก็ได้นะ
เลยกลายเป็นสมัครเรียนไปโดยปริยาย
เริ่มเรียนวันแรก
ไม่มีอุปกรณ์และชุดใดๆทั้งสิ้น เช่าเค้าทั้งหมด
คนเรียนและคนสอนก็แยกกลุ่มกันไปตามระดับความสามารถค่ะ
ของเรา เป็นคนที่ เกิดมาไม่เคยเล่นสกีมาก่อน ปรากฎว่าได้เรียนเดี่ยวตัวต่อตัวเลยค่ะ เพราะว่าทุกคนที่นี่เคยเล่นสกีมาแล้วทั้งนั้น
เรียนวันแรกก็หัดล้มแล้วก็ลุก แน่นอนว่า ลุกไม่ได้เลย ล้มแล้วลุกยากมากกกกก ทุกวันนี้ก็เกลียดการล้มอยู่ดี
หัดปีนขึ้นเนิน อันนี้ปีนเก่งมากจนครูยังชม บอกว่าแล้วปีนขึ้นไม่มีปัญหา โหะๆๆๆ
ต่อไป หัดลื่นลงมาแล้วหยุด ครูก็สอนทำท่าทางก่อน ว่ามือใหม่ให้เปิดสกีเป็นน่าตาแบบนี้นะ พอจะหยุดทำแบบนี้นะ
พอซักซ้อมกันจนเข้าใจแล้ว ครูบอกว่า โอเคค่ะ งั้นลองไถลลองมาช้าๆแล้วหยุดสิคะ
ครูลงไปรออยู่ด้านล่างไม่ไกล ประมาณ 3-4เมตรได้
พอเราเริ่มไถลลงไปเท่านั้นแหละ กรี้ดเลยค่ะ มันเร็วมากกกกก หยุดไม่อยู่ ล้มทับใส่ครูเลยค่ะ สกีพันกันมั่วเลย
ล้มแล้วลุกไม่ขึ้นอีก โอยยยยย
สรุปวันแรก เป็นอยู่อย่างงี้หลายรอบ หยุดได้บ้างไม่ได้บ้าง ล้มไปหลายรอบ เหนื่อยโฮก
จบวันแรก ก็ไปร้านมือสอง ไปสอยชุดสกีมือสองมา1800เยน ถูกมาก ถูกกว่าค่าเช่าชุดครั้งนึงอีก
เรียนสกีวันที่สอง
วันนี้หัดหยุดให้ได้ บวกกะหัดเลี้ยวนิดหน่อย
หัดหยุดก็ดีขึ้น แต่ก็มีล้มบ้าง แต่ล้มแล้วลุกเองได้แล้วค่ะ ส่วนหัดเลี้ยว อันนี้ล้มเหลวมาก ล้มไม่เป็นท่าเลย
คือเราเป็นช้ามากอะค่ะ เห็นเพื่อนบอกว่า ของเพื่อนพอวันที่สองท้ายคาบก็ขึ้นลิฟท์ได้แล้วรอบนึง
แต่สำหรับเรา ยังไงก็ไม่อยากขึ้นลิฟท์ไปข้างบนแน่ๆ น่ากลัวจะตาย
ยิ่งตอนสุดท้าย ก่อนกลับ ครูให้สกีลงมาจากเนินเพื่อกลับ
แล้วเราแบบ เบรคไม่อยู่อะ ชนคนล้มอะ แย่มากเลย
ตอนนั้นคือ ไม่เอาแล้ว ไม่อยากเล่นแล้วสกี ไม่ชอบเลย เป็นกีฬาที่ไม่เข้ากับเราอย่างแรง มีแต่ความกลัวอย่างเดียว
แล้วครูบอกว่า พรุ่งนี้ครูไม่ว่างสอนด้วย จะให้คนอื่นมาสอนแทน
เราก็ยิ่งกังวล ว่าแบบ ครูคนอื่นมาสอน เค้าจะเข้าใจเรามั้ย ว่าสกิลเราแย่จริงๆ บลาๆ คิดไปต่างๆนาๆ
ก็พาลทำให้คิดว่า ไม่เอาละ พรุ่งนี้โดดเรียนดีกั่ว ชีวิตเรา พอกันทีกับสกี จบกันแค่นี้
แต่... คืนนั้นเราต้องไปพักที่เรียวคังที่นึงกับคนเกาหลี
คือ เป็นการไปพักกึ่งๆทำงานด้วยแหละค่ะ พักฟรี ทั้งเรียวคังแล้วก็ลานสกีก็อยู่ในเมืองเรานี่ละ
ก็คุยกับเพื่อนว่าแบบ เห้ยแก คือเราไม่ไหวอะ เราไม่ขอไปต่อนะ เราขอลาออกจากคอร์สสกี
เพื่อนก็บอกว่า ไม่ได้นะเว้ย เหลืออีกวันเเดียวแกทนๆเรียนให้จบไปเหอะ
แล้วเราไม่มีรถ เรามารถเพื่อน เช้ากลับจากเรียวคังมานไม่ยอมไปส่งบ้าน มันพาไปลานสกี เลยจำใจเรียนไปค่ะ
วันที่สาม
วันนี้เปลี่ยนคนสอน เป็นครูที่อายุมาก 78ปีแล้วค่ะ แต่ยังแข็งแรงอยู่เลย
ครูมาถึง พาไปปรับพื้นฐานใหม่หมดเลยค่ะ วันนั้นคุณครูสอนดีมาก
ทำให้เราสามารถหยุดได้สนิท และเลี้ยวได้ด้วย
แล้ววันนั้นครูก็พาเดินขึ้นเนินไปสูงๆไกลๆแล้วลื่นขึ้นมา แบบ โห รู้สึกดีมากอะ
วันนั้นไม่ล้มเลยซักครั้ง เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าสกีสนุกแล้วก็อยากจะลองขึ้นลิฟท์ดูซักครั้งค่ะ
แต่ดันหมดเวลาเรียนซะก่อน แต่ว่าครูใจดีค่ะ พอเค้าได้ยินเราบอกว่าเราอยากลองขึ้นลิฟท์ คุณครูบอกว่า ไว้ถ้าเราอยากมาอีกครูพามาก็ได้ เดี๋ยวสอนให้ฟรีอีกรอบ
หลังจากเรียนวันนั้นเสร็จก็เลยไปซื้ออุปกรณ์สกีเลยค่ะ (แต่ซื้อมือสองนะ ถูกดี)
ครั้งที่สี่ก็เลยเกิดขึ้นค่ะ
ครั้งนี้ก็นัดคุณครูมาเล่นสกีกัน ครูพาขึ้นลิฟท์เลย เย้ๆๆๆ
ขึ้นไปถึงยอดเขา มองลงมาแบบ โหวววว วิวสวยจัง แต่ว่าสูงจัง น่ากลัวจัง จะไหวมั้ยเนี่ย
ค่อยๆๆสกีลงมาแบบช้าๆ ช้ามากมากกกกก ตอนเลี้ยวก็เลี้ยวไม่ค่อยได้ มันชันมากอะ ต่างกับตอนที่ซ้อมตรงเนินเยอะเลย
ลงมาได้ประมาณพักนึง ยังไม่ถึงครึ่งทาง คว่ำค่ะ ล้มค่ะ ล้มตอนจะเลี้ยว ล้มแบบว่าแรงอะ สกีหลุดออกจากขาข้างนึง
ขาก็พันกันมั่วไปหมด ตอนนั้นรู้สึกตัวเองขายาวมาก (เปล่า จริงๆคือสกีมันยาว)
กว่าจะลุกได้ แทบแย่อะ มันชันมาก จำได้ว่าลุกเท่าไหร่ก็ลุกไม่ได้ จนครูก้มไปจับยึดสกีไว้ไม่ให้ลื่น
ละครูบอกว่า เอามือยันหัวครูก็ได้ ไม่เป็นไร
ไอ้เราก็คนไทย แหมมม จะให้จับหัวผู้ใหญ่ เกรงใจน่ออ ทีแรกก็พยายามเองก่อน แต่มันไม่ได้อ่าาา
สุดท้าย มือไปเองค่ะ ยันหัวครูละยืนขึ้นมา คือเห้ยยย เซนเซซซซ หนูขอโทษษษ ขอโทษขอโพยใหญ่ แต่คนญี่ปุ่นเค้าไม่ถือ
หลังจากนั้นก็ล้มไปอีกหลายรอบมากๆ มากกว่า5รอบมั้ง เหนื่อยมากเลยอะ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ล้มเป็นแบบ พยายามลุกแล้วก็ไม่ได้ ก็เลยนอนหงายท้องดูท้องฟ้าอยู่นานจนหายเหนื่อย มีแรง ค่อยลุกมาต่อ
สิริรวมเวลาในการสกีลงมาจากยอดเขา ระยะทางประมาณ 2กม. อิชั้นใช้เวลาไป 1ชม. ในขณะที่คนอื่นเค้าใช้เวลากัน 10-15นาที
คือ ความรู้สึกเราตอนสกีลงมาคือ มันเร็วมากอะ แบบ 100กม/ชม คือ เร็วเกินควบคุม แต่พอกลับมาดูวิดิโอตัวเองที่เพื่อนถ่ายไว้ให้ละคุณเอ้ยยยยยย มันช้ามากอะ ช้าแบบเต่าคลานเลย ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้นก็ไปสกีกับเพื่อน กับ คุณครูอีกบ้างบางเสาร์อาทิตย์ที่ว่าง จนถึงตอนนี้ก็รวมแล้วไปมา 8ครั้งค่ะ
ถามว่าเล่นเก่งรึยังก็คงบอกว่ายัง แต่ตอบว่าเก่งขึ้นมากกว่า
เลี้ยวได้เก่งขึ้น ไปได้เร็วขึ้น ล้มน้อยลง ล้มแล้วลุกเองได้ จากที่เคยมีแต่ความรู้สึกกลัว เราก็ควบคุมสกีเก่งขึ้นและรู้สึกสนุกกับมัน เราก็เคยไม่ค่อยกลัวเพราะมั่นใจว่าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเราสามารถควบคุมสกีให้มันช้าลงได้ และถ้าล้มเราก็ลุกได้ ตอนเล่นนี่ โฟกัสกับการทรงตัวมาก จนลืมกลัวความสูงไปเลยอะ (แต่ก็พยายามไม่มองวิวนะ ฮ่าๆ)
ตอนนี้ชอบสกีจนไม่อยากให้หน้าหนาวจบลง อยากให้ภูเขามีหิมะตลอดปี (แต่ในเมืองไม่มีหิมะ มันลื่นอะ 555) วันหยุดว่างเมื่อไหร่ไปโผล่ที่ลานสกีทุกที แฮ่ๆ
ก็อยากบอกกับทุกคนว่า สำหรับใครที่อยากลองเล่นสกี แล้วคิดว่าสกียาก อยากบอกว่าให้ลองดูก่อนค่ะ สกีไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปค่ะ
ขอโทษนะคะที่ไม่มีรูปประกอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฝากเมืองเล็กๆเมืองนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยค่ะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/higashikawa.th
สกี งานอดิเรกใหม่ของฉันที่กลัวความสูง
เกริ่นก่อนว่า ปกติจขกทเป็นคนค่อนข้างกลัวความสูง
ไอ้พวกเครื่องเล่นอะไรสูงๆตามสวนสนุกนี่ ไม่ได้แอ้มเราหรอก
หรือไอ้พวกปีนป่ายอะไรต่างๆ ก็ไม่ค่อยเล่น เพราะเป็นโรคกลัวตก คือปีนขึ้นปีนได้ ไม่มีปัญหาแต่ตอนลงลงไม่ได้ เค้ากลัววว
แถมไอ้พวกกีฬาแบบลื่นๆ อย่าง โรลเลอร์เบลด, สเก็ตน้ำแข็ง, สเก็ตบอร์ด พวกนี้เคยลองมาหมดละ ล้มเหลวไม่เป็นท่าค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ก็นั่นแหละค่ะ อ้าว แล้วมาเล่นสกีได้ไง
เรื่องของเรื่องก็คือ เราได้มาอยู่เมืองเล็กๆเมืองนึงในฮอกไกโดค่ะ
แล้วก็อยู่เมืองที่มีลานสกีเป็นของตัวเองด้วย ประมาณว่าเมืองรอบๆก็รายล้อมไปด้วยลานสกี
ทีแรกพอใครถามว่าจะเล่นสกีมั้ย ก็ตอบไปว่า เล่นๆๆๆๆๆ โดยไม่ได้คิดเล๊ยยยยว่าสกีมันลงมาจากที่สูง
ทีนี้ ช่วงต้นฤดูหนาว ประมาณธันวาปีที่แล้ว มีคนญี่ปุ่นที่รู้จักพาไปเล่นแอร์บอร์ด
(แอร์บอร์ด คือ กิจกรรมหน้าหนาวที่นอนคว่ำบนเบาะเป่าลม และลื่นลงมาจากเขาแบบเร็วๆ ง่ายกว่าสกีนิดหน่อยแต่ความมันส์ไม่แพ้กัน)
ทีนี้ พอไปเล่นแอร์บอร์ด จังหวะที่ขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อไถลลงมา คือออ มองลงมา มันน่ากลัวมากกกกกกกอ่าาาาา สูงอะ
ละจังหวะที่ลื่นลงมา คือมันเร็ว คือเบรคไม่อยู่ จขกท ไม่ชอบความเร็วด้วยอะ ขับรถ ขี่มอไซต์ไรงี้ ไม่ได้เรื่องเลย
ต่อๆๆ ละมีชอตนึง คือ แอร์บอร์ดลงมาแบบ ทางยาวมาก เร็วมาก เบรคไม่อยู่
ละผ่านเจ้าหน้าที่ระหว่างทาง เค้าก็ทำมือสัญลักษณ์ว่าให้ลดความเร็วไรงี้
ระหว่างที่ในหัวกำลังคิดว่า "โอเค ลดความเร็ว ลดความเร็ว เอ้ะ จะลดความเร็วต้องทำไงนะ!?"
ตัดภาพมาที่ร่างกาย ฟึบ!! ชั้นบินด้ายยยยยยย คือลอยค่ะ ลอยยยยย แล้วก็ไปหัวทิ่มอยู่กองหิมะกองโต ลุกก็ไม่ขึ้น
ตอนนั้นเป็นแบบ โอยยยยไม่เอาละแง่ม สูงก็สูงเร็วก็เร็ว น่ากลัวชะมัด ขนาดแอร์บอร์ดง่ายกว่าสกียังขนาดนี้ ละสกีชั้นคงเอาตัวรอดไม่ได้แน่ๆ
คิดแบบนี้ก็ตัดสินใจว่า ชาตินี้คงไม่เล่นแล้วสกี ไม่เอาละ
ทีนี้ พอปลายเดือนธค. เราไปสัมนาที่โตเกียวประมาณสองอาทิตย์ ไม่อยู่เมือง
ไลน์ในกรุ้ปทีมต่างชาติก็เด้งมา เพื่อนร่วมงานเกาหลีมาบอกว่า "มีคลาสเรียนสกี สามวัน สำหรับชาวเมืองแหละ ถูกมากๆเลย วันละ2ชม. 3วัน รวมแล้ว 6ชม/3000เยนเอง ปกติ 2ชม/3000เยนนะ ลดกว่าครึ่งแน่ะใครสนใจบ้าง"
ได้ยินดังนั้นก็แบบ เห้ยถูกอะ เห้ย แต่ไม่เอาดีกว่า คือกลัว แต่เห้ย คือก็อุตส่ามาอยู่ฮอกไกโดทั้งทีป้ะ เห้ย ลังเล ตัดสินใจไม่ได้
ก็ให้คำตอบเพื่อนเกาหลีไปว่า เห้ย ยังไม่รู้อะ ขอคิดก่อนนะ
เพื่อนเกาหลีส่งรูปกลับมา เป็นรูปถ่ายใบสมัครคอร์สเรียนสกีที่กรอกชื่อเราและข้อมูลทุกอย่างแล้ว
"ข้อมูลถูกต้องนะ นี่ยื่นใบสมัครให้แล้วแหละ" เราก็แบบเห้ยยยยย ยังไม่ได้ตอบตกลงป่ะ
เพื่อนก็บอกว่า ก็เห็นลังเล ก็เลยลองเล่นดูก่อนสิ ถ้าจบคอร์สแล้วพบว่าไม่ชอบ จะไม่เล่นต่ออก็ได้นะ
เลยกลายเป็นสมัครเรียนไปโดยปริยาย
เริ่มเรียนวันแรก
ไม่มีอุปกรณ์และชุดใดๆทั้งสิ้น เช่าเค้าทั้งหมด
คนเรียนและคนสอนก็แยกกลุ่มกันไปตามระดับความสามารถค่ะ
ของเรา เป็นคนที่ เกิดมาไม่เคยเล่นสกีมาก่อน ปรากฎว่าได้เรียนเดี่ยวตัวต่อตัวเลยค่ะ เพราะว่าทุกคนที่นี่เคยเล่นสกีมาแล้วทั้งนั้น
เรียนวันแรกก็หัดล้มแล้วก็ลุก แน่นอนว่า ลุกไม่ได้เลย ล้มแล้วลุกยากมากกกกก ทุกวันนี้ก็เกลียดการล้มอยู่ดี
หัดปีนขึ้นเนิน อันนี้ปีนเก่งมากจนครูยังชม บอกว่าแล้วปีนขึ้นไม่มีปัญหา โหะๆๆๆ
ต่อไป หัดลื่นลงมาแล้วหยุด ครูก็สอนทำท่าทางก่อน ว่ามือใหม่ให้เปิดสกีเป็นน่าตาแบบนี้นะ พอจะหยุดทำแบบนี้นะ
พอซักซ้อมกันจนเข้าใจแล้ว ครูบอกว่า โอเคค่ะ งั้นลองไถลลองมาช้าๆแล้วหยุดสิคะ
ครูลงไปรออยู่ด้านล่างไม่ไกล ประมาณ 3-4เมตรได้
พอเราเริ่มไถลลงไปเท่านั้นแหละ กรี้ดเลยค่ะ มันเร็วมากกกกก หยุดไม่อยู่ ล้มทับใส่ครูเลยค่ะ สกีพันกันมั่วเลย
ล้มแล้วลุกไม่ขึ้นอีก โอยยยยย
สรุปวันแรก เป็นอยู่อย่างงี้หลายรอบ หยุดได้บ้างไม่ได้บ้าง ล้มไปหลายรอบ เหนื่อยโฮก
จบวันแรก ก็ไปร้านมือสอง ไปสอยชุดสกีมือสองมา1800เยน ถูกมาก ถูกกว่าค่าเช่าชุดครั้งนึงอีก
เรียนสกีวันที่สอง
วันนี้หัดหยุดให้ได้ บวกกะหัดเลี้ยวนิดหน่อย
หัดหยุดก็ดีขึ้น แต่ก็มีล้มบ้าง แต่ล้มแล้วลุกเองได้แล้วค่ะ ส่วนหัดเลี้ยว อันนี้ล้มเหลวมาก ล้มไม่เป็นท่าเลย
คือเราเป็นช้ามากอะค่ะ เห็นเพื่อนบอกว่า ของเพื่อนพอวันที่สองท้ายคาบก็ขึ้นลิฟท์ได้แล้วรอบนึง
แต่สำหรับเรา ยังไงก็ไม่อยากขึ้นลิฟท์ไปข้างบนแน่ๆ น่ากลัวจะตาย
ยิ่งตอนสุดท้าย ก่อนกลับ ครูให้สกีลงมาจากเนินเพื่อกลับ
แล้วเราแบบ เบรคไม่อยู่อะ ชนคนล้มอะ แย่มากเลย
ตอนนั้นคือ ไม่เอาแล้ว ไม่อยากเล่นแล้วสกี ไม่ชอบเลย เป็นกีฬาที่ไม่เข้ากับเราอย่างแรง มีแต่ความกลัวอย่างเดียว
แล้วครูบอกว่า พรุ่งนี้ครูไม่ว่างสอนด้วย จะให้คนอื่นมาสอนแทน
เราก็ยิ่งกังวล ว่าแบบ ครูคนอื่นมาสอน เค้าจะเข้าใจเรามั้ย ว่าสกิลเราแย่จริงๆ บลาๆ คิดไปต่างๆนาๆ
ก็พาลทำให้คิดว่า ไม่เอาละ พรุ่งนี้โดดเรียนดีกั่ว ชีวิตเรา พอกันทีกับสกี จบกันแค่นี้
แต่... คืนนั้นเราต้องไปพักที่เรียวคังที่นึงกับคนเกาหลี
คือ เป็นการไปพักกึ่งๆทำงานด้วยแหละค่ะ พักฟรี ทั้งเรียวคังแล้วก็ลานสกีก็อยู่ในเมืองเรานี่ละ
ก็คุยกับเพื่อนว่าแบบ เห้ยแก คือเราไม่ไหวอะ เราไม่ขอไปต่อนะ เราขอลาออกจากคอร์สสกี
เพื่อนก็บอกว่า ไม่ได้นะเว้ย เหลืออีกวันเเดียวแกทนๆเรียนให้จบไปเหอะ
แล้วเราไม่มีรถ เรามารถเพื่อน เช้ากลับจากเรียวคังมานไม่ยอมไปส่งบ้าน มันพาไปลานสกี เลยจำใจเรียนไปค่ะ
วันที่สาม
วันนี้เปลี่ยนคนสอน เป็นครูที่อายุมาก 78ปีแล้วค่ะ แต่ยังแข็งแรงอยู่เลย
ครูมาถึง พาไปปรับพื้นฐานใหม่หมดเลยค่ะ วันนั้นคุณครูสอนดีมาก
ทำให้เราสามารถหยุดได้สนิท และเลี้ยวได้ด้วย
แล้ววันนั้นครูก็พาเดินขึ้นเนินไปสูงๆไกลๆแล้วลื่นขึ้นมา แบบ โห รู้สึกดีมากอะ
วันนั้นไม่ล้มเลยซักครั้ง เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกว่าสกีสนุกแล้วก็อยากจะลองขึ้นลิฟท์ดูซักครั้งค่ะ
แต่ดันหมดเวลาเรียนซะก่อน แต่ว่าครูใจดีค่ะ พอเค้าได้ยินเราบอกว่าเราอยากลองขึ้นลิฟท์ คุณครูบอกว่า ไว้ถ้าเราอยากมาอีกครูพามาก็ได้ เดี๋ยวสอนให้ฟรีอีกรอบ
หลังจากเรียนวันนั้นเสร็จก็เลยไปซื้ออุปกรณ์สกีเลยค่ะ (แต่ซื้อมือสองนะ ถูกดี)
ครั้งที่สี่ก็เลยเกิดขึ้นค่ะ
ครั้งนี้ก็นัดคุณครูมาเล่นสกีกัน ครูพาขึ้นลิฟท์เลย เย้ๆๆๆ
ขึ้นไปถึงยอดเขา มองลงมาแบบ โหวววว วิวสวยจัง แต่ว่าสูงจัง น่ากลัวจัง จะไหวมั้ยเนี่ย
ค่อยๆๆสกีลงมาแบบช้าๆ ช้ามากมากกกกก ตอนเลี้ยวก็เลี้ยวไม่ค่อยได้ มันชันมากอะ ต่างกับตอนที่ซ้อมตรงเนินเยอะเลย
ลงมาได้ประมาณพักนึง ยังไม่ถึงครึ่งทาง คว่ำค่ะ ล้มค่ะ ล้มตอนจะเลี้ยว ล้มแบบว่าแรงอะ สกีหลุดออกจากขาข้างนึง
ขาก็พันกันมั่วไปหมด ตอนนั้นรู้สึกตัวเองขายาวมาก (เปล่า จริงๆคือสกีมันยาว)
กว่าจะลุกได้ แทบแย่อะ มันชันมาก จำได้ว่าลุกเท่าไหร่ก็ลุกไม่ได้ จนครูก้มไปจับยึดสกีไว้ไม่ให้ลื่น
ละครูบอกว่า เอามือยันหัวครูก็ได้ ไม่เป็นไร
ไอ้เราก็คนไทย แหมมม จะให้จับหัวผู้ใหญ่ เกรงใจน่ออ ทีแรกก็พยายามเองก่อน แต่มันไม่ได้อ่าาา
สุดท้าย มือไปเองค่ะ ยันหัวครูละยืนขึ้นมา คือเห้ยยย เซนเซซซซ หนูขอโทษษษ ขอโทษขอโพยใหญ่ แต่คนญี่ปุ่นเค้าไม่ถือ
หลังจากนั้นก็ล้มไปอีกหลายรอบมากๆ มากกว่า5รอบมั้ง เหนื่อยมากเลยอะ จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ล้มเป็นแบบ พยายามลุกแล้วก็ไม่ได้ ก็เลยนอนหงายท้องดูท้องฟ้าอยู่นานจนหายเหนื่อย มีแรง ค่อยลุกมาต่อ
สิริรวมเวลาในการสกีลงมาจากยอดเขา ระยะทางประมาณ 2กม. อิชั้นใช้เวลาไป 1ชม. ในขณะที่คนอื่นเค้าใช้เวลากัน 10-15นาที
คือ ความรู้สึกเราตอนสกีลงมาคือ มันเร็วมากอะ แบบ 100กม/ชม คือ เร็วเกินควบคุม แต่พอกลับมาดูวิดิโอตัวเองที่เพื่อนถ่ายไว้ให้ละคุณเอ้ยยยยยย มันช้ามากอะ ช้าแบบเต่าคลานเลย ฮ่าๆๆ
หลังจากนั้นก็ไปสกีกับเพื่อน กับ คุณครูอีกบ้างบางเสาร์อาทิตย์ที่ว่าง จนถึงตอนนี้ก็รวมแล้วไปมา 8ครั้งค่ะ
ถามว่าเล่นเก่งรึยังก็คงบอกว่ายัง แต่ตอบว่าเก่งขึ้นมากกว่า
เลี้ยวได้เก่งขึ้น ไปได้เร็วขึ้น ล้มน้อยลง ล้มแล้วลุกเองได้ จากที่เคยมีแต่ความรู้สึกกลัว เราก็ควบคุมสกีเก่งขึ้นและรู้สึกสนุกกับมัน เราก็เคยไม่ค่อยกลัวเพราะมั่นใจว่าไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นเราสามารถควบคุมสกีให้มันช้าลงได้ และถ้าล้มเราก็ลุกได้ ตอนเล่นนี่ โฟกัสกับการทรงตัวมาก จนลืมกลัวความสูงไปเลยอะ (แต่ก็พยายามไม่มองวิวนะ ฮ่าๆ)
ตอนนี้ชอบสกีจนไม่อยากให้หน้าหนาวจบลง อยากให้ภูเขามีหิมะตลอดปี (แต่ในเมืองไม่มีหิมะ มันลื่นอะ 555) วันหยุดว่างเมื่อไหร่ไปโผล่ที่ลานสกีทุกที แฮ่ๆ
ก็อยากบอกกับทุกคนว่า สำหรับใครที่อยากลองเล่นสกี แล้วคิดว่าสกียาก อยากบอกว่าให้ลองดูก่อนค่ะ สกีไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปค่ะ
ขอโทษนะคะที่ไม่มีรูปประกอบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้