★ ไปทำงานเพื่อโปรโมทลานสกีในแทบคันไซ
ซึ่งผลคือชอบ ลานสกีกว้างขว้าง เหมาะกับมือใหม่หัดล้มยิ่งหนัก เลยขอมารีวิวให้ทุกคนได้รู้จัก
ที่นี่ หลายคอร์สให้เลือกเล่น ทั้งครี่งวัน เต็มวัน แน่นอนว่ามีอุปกรณ์ทุก อย่างให้ครบ
ถ้าใครสนใจ ลองแวะดูที่เว็บนี้ มีเป็นภาษาอังกฤษ บอกรายละเอียด
http://www.kannabe.co.jp/en
ใครต้องการข้อมูลภาษาไทย ตามไปทางนี้
มีรายละเอียดราคาบอกไว้
https://visitkinosaki.com/kannabe-th/
★ การเดินทาง
สำหรับบัสถ้ามาจากโอซาก้าให้ไปที่ Hankyu Highway Bus Osaka-Umeda Terminal
เพื่อรอขึ้นรถ Zentan Bus จาก Osaka-Umeda ซึ่งจะเป็นรถเดียวกับที่จะวิ่งไปทาง Kinosaki Onsen แต่เราจะลงที่ Hidaka Shokokaikan Mae
แล้วต่อ local bus รอบล่ะ 200 เยน เพื่อขึ้นไปเล่นสกีบนภูเข้า ตอนนั่งรถขึ้นไป ตลอดทางเป็นหิมะ สวยขาวมาก
สามารถจองผ่านเว็บได้ที่
https://japanbusonline.com/en/Detail/12700140092/1/5271004/5282090001/20190214
หรือจะมาด้วยวิธีรถไฟก็สะดวก JR Osaka Station —> JR Ebara แล้วต่อบัส Local
ก่อนจะเล่นสกี ทานอาหารเที่ยงเติมพลัง เราแวะไปกินที่ร้านโซบะระหว่างทาง
ที่นี่ มีอาหารดังคือโซบะทำด้วยมือ จะมาเป็นถาดใหญ่ๆแบบนี้ให้ลองทาน
★ ลานสกี
เจ้านายที่อธิบายให้ฟังว่า มีลายสกี 3 ที่ใหญ่ๆ แล้วก็มีสวนสนุกเล็กๆสำหรับเด็กด้วย สามารถให้เด็กเล่นได้ วันนื้ที่เราจะไปกัน ชื่อ Up Kannabe
http://www.kannabe.co.jp/en
ความรู้สึกแรก คือ กว้างมากกกกก แบ่งเป็นโซนเขาชั้น สำหรับ Advance และ แบบราบลงมา สำหรับ Beginner ทางเรานั่นแน่นอนว่า ถนัดแบบ Beginner ครั้งนี้เล่นสกีแบบจ้างอาจารย์ 2 ชม คือไม่มีปัญหาด้านภาษาญี่ปุ่น เลยใช่อาจารย์มีเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนคำที่ไม่เข้าใจ ก็ใช่ลอกท่าทางเอา
ปกติเห็นเคยดูแต่ในหนังเกาหลี ที่พระนางนั่งกระเช้าขึ้นภูเขา ไปดูวิว
มาเล่นสกีถึงรู้ว่าสิ่งนั่นเรียก Lift (ลิฟ) ภาษาญี่ปุ่นก็ ลิฟุโตะ ขึ้นไปที่บนล่างสกีหลังจากเล่น(กลิ้ง)สกีลงมาที่เนินแล้ว การได้สกีก็สนุกไป อีกแบบ แต่การได้ขึ้นลิฟแล้วดูวิวรอบข้างไปด้วย คือ สิ่งที่ประทับใจมากๆ ในทริปนี้
เสน่หของคันนาเบะ น่าจะเป็นการมีครอบครัวมาเล่นที่นี่เยอะ เพราะมีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ทั้งรถแข่ง สไลด์เดอร์ แล้วก็ม้าหมุน ที่ทำจากล้อรถยนต์ หมุนๆไปบนหิมะ ผู้ใหญ่อย่างเราลองแล้วก็สนุกดี ที่ลานสกี ตลอดทางจะเห็นเด็กๆตัวเล็กๆ ล้มแล้วล้มอีกก็ยังลุกขึ้นมาเล่น เราโตกว่าเด็กตั้งเยอะจะยอมแพ้ได้ยังไง
สไลเดอร์ "นุ่มนิ่ม" และม้าหมุนหิมะ เล่นได้ฟรีโดยการซื้อตั๋วลิฟต์แบบ 1 วัน(3,500 เยน: วันธรรมดา 4,500 เยน : วันหยุด) หรือ ตั๋วลิฟต์ 1 วัน เส้นทางของเด็ก แบบซุปเปอร์ (1,500 เยน)
ราคาตั๋วคนเดียว:
สไลเดอร์ "นุ่มนิ่ม" - 500 เยน
ม้าหมุนหิมะ - 200 เยน
ล่องแก่งหิมะ - 1,000 เยน (ผู้ใหญ่) / 700 เยน (เด็ก)
รถโกคาร์ทหิมะ - 1,000 เยน
บอลลูนลมร้อน - 2,900 เยน (ผู้ใหญ่) / 1,800 เยน (เด็ก)
★ อาหารเย็น
พอเล่นสกีจนเหนื่อย ฟ้ามืดแล้ว เราก็พักแถวๆนี้ เป็นโรงแรมญี่ปุ่นสมัยก่อน อาจจะสู้โรงแรมหรูๆ ไม่ได้ แต่บอกเลยว่าอาหารอร่อยมากกกกกก (
http://www.kannabe-gonbeh.com/)
ของดังของที่นี่ คือ ปู เกิดมาเพิ่งเคยกินปูดิบ ลื่นๆ อร่อยดี
ส่วนขาปูก็อร่อยหวานช่ำตามมาตรฐาน อาหารญี่ปุ่น
ที่เด็ดอีกอัน คือเต้าหู้ นุ่นมากกกก ใครชอบอาหารทะเล แนะนำ ให้เป็นอีกทางเลือกนึ่งนะคะ
★ ปีนภูเขาหิมะ
สุดท้าย ตอนเช้าก่อนจะกลับ เราแวะไปปีนภูเขาหิมะกันค่ะ (
https://www.kns.hyogo.jp/)
หิมะหนาฟูมากๆ เดินลงไป จมไปครึ่งเขา ก่อนจะไป เราเลยต้องใส่เสื้อกันลม และ รองเท้าสำหรับปีนภูเขาหิมะโดยเฉพ จะมีเจ้าหน้าที่เดินนำหน้า ถ้าเราเดินตามเค้าจะไม่เหนื่อยเท่าไหร่แต่ถ้าอยากลองเดินจมหิมะเอง ก็สนุกอีกแบบ เหมือนเราเป็นเอสกีโม่
พอถึงยอดเขาแล้วววววว เจ้าหน้าที่เต็มซุปอุ่นๆ มาส์ชเมโล ช็อกโกแลก และ คุ้กกี้ให้เราทานเต็มพลัง ออกแนวแคมป์ปิ้งหน่อยๆ
ขาลง ไม่ใช่การเดินลง แต่ใช่การสไลด์ลง ทางที่เราเดินมาเมื่อกี้ กลานเป็นสไลด์เดอร์ให้เรา ใครหนอช่างคิด ถ้าใครชอบ Adventure และการเล่นสกีมัน เล็กน้อยไป ลองมาปีนภูเขาหิมะดูค่ะ
วิวข้างบนสวยได้ใจจริงๆ
★ สุดท้ายนี้
โลกนี้มีที่สวยๆมากมาย ที่เราไม่เคยไปเจอ หรือไปลองด้วยเพราะสภาพอากาศของประเทศที่ต่างกัน ถ้าใครคิดว่าปีนี้ อยากจะลองทำอะไรใหม่ๆให้ชีวิตสักอย่างการลองเล่นสกีก็อาจจะเป็นทางเลือกนึง โดยเฉพาะถ้าใครมีลูก หรือเพิ่มเริ่มหัดเล่น สกีสอนเราอย่างที่ผู้ใหญ่ชอบสอนคือ อยากเก่ง อย่ากลัวที่จะล้ม (แต่ถ้าไม่ไหวอย่าฝืน ปลอดภัยไว้ก่อน) เนื่องจากเราเป็นเมืองร้อน อาจจะไม่ค่อยมีโอกาสนัก จะไปฮอกไกโดคนก็อาจจะเยอะ แวะมาเที่ยวแทบคันไซ ก็อาจจะลอง คันนาเบะ ไปเป็นอีกทางเลือกนึงของการลองกีฬาหน้าหนาวค่ะ
[SR] รีวิวประสบการ์ณครั้งแรก !! เล่นสกีในคันไซ Kannabe
ซึ่งผลคือชอบ ลานสกีกว้างขว้าง เหมาะกับมือใหม่หัดล้มยิ่งหนัก เลยขอมารีวิวให้ทุกคนได้รู้จัก
ที่นี่ หลายคอร์สให้เลือกเล่น ทั้งครี่งวัน เต็มวัน แน่นอนว่ามีอุปกรณ์ทุก อย่างให้ครบ
ถ้าใครสนใจ ลองแวะดูที่เว็บนี้ มีเป็นภาษาอังกฤษ บอกรายละเอียด http://www.kannabe.co.jp/en
ใครต้องการข้อมูลภาษาไทย ตามไปทางนี้
มีรายละเอียดราคาบอกไว้
https://visitkinosaki.com/kannabe-th/
★ การเดินทาง
สำหรับบัสถ้ามาจากโอซาก้าให้ไปที่ Hankyu Highway Bus Osaka-Umeda Terminal
เพื่อรอขึ้นรถ Zentan Bus จาก Osaka-Umeda ซึ่งจะเป็นรถเดียวกับที่จะวิ่งไปทาง Kinosaki Onsen แต่เราจะลงที่ Hidaka Shokokaikan Mae
แล้วต่อ local bus รอบล่ะ 200 เยน เพื่อขึ้นไปเล่นสกีบนภูเข้า ตอนนั่งรถขึ้นไป ตลอดทางเป็นหิมะ สวยขาวมาก
สามารถจองผ่านเว็บได้ที่ https://japanbusonline.com/en/Detail/12700140092/1/5271004/5282090001/20190214
หรือจะมาด้วยวิธีรถไฟก็สะดวก JR Osaka Station —> JR Ebara แล้วต่อบัส Local
ก่อนจะเล่นสกี ทานอาหารเที่ยงเติมพลัง เราแวะไปกินที่ร้านโซบะระหว่างทาง
ที่นี่ มีอาหารดังคือโซบะทำด้วยมือ จะมาเป็นถาดใหญ่ๆแบบนี้ให้ลองทาน
★ ลานสกี
เจ้านายที่อธิบายให้ฟังว่า มีลายสกี 3 ที่ใหญ่ๆ แล้วก็มีสวนสนุกเล็กๆสำหรับเด็กด้วย สามารถให้เด็กเล่นได้ วันนื้ที่เราจะไปกัน ชื่อ Up Kannabe http://www.kannabe.co.jp/en
ความรู้สึกแรก คือ กว้างมากกกกก แบ่งเป็นโซนเขาชั้น สำหรับ Advance และ แบบราบลงมา สำหรับ Beginner ทางเรานั่นแน่นอนว่า ถนัดแบบ Beginner ครั้งนี้เล่นสกีแบบจ้างอาจารย์ 2 ชม คือไม่มีปัญหาด้านภาษาญี่ปุ่น เลยใช่อาจารย์มีเป็นคนญี่ปุ่น ส่วนคำที่ไม่เข้าใจ ก็ใช่ลอกท่าทางเอา
ปกติเห็นเคยดูแต่ในหนังเกาหลี ที่พระนางนั่งกระเช้าขึ้นภูเขา ไปดูวิว
มาเล่นสกีถึงรู้ว่าสิ่งนั่นเรียก Lift (ลิฟ) ภาษาญี่ปุ่นก็ ลิฟุโตะ ขึ้นไปที่บนล่างสกีหลังจากเล่น(กลิ้ง)สกีลงมาที่เนินแล้ว การได้สกีก็สนุกไป อีกแบบ แต่การได้ขึ้นลิฟแล้วดูวิวรอบข้างไปด้วย คือ สิ่งที่ประทับใจมากๆ ในทริปนี้
เสน่หของคันนาเบะ น่าจะเป็นการมีครอบครัวมาเล่นที่นี่เยอะ เพราะมีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ทั้งรถแข่ง สไลด์เดอร์ แล้วก็ม้าหมุน ที่ทำจากล้อรถยนต์ หมุนๆไปบนหิมะ ผู้ใหญ่อย่างเราลองแล้วก็สนุกดี ที่ลานสกี ตลอดทางจะเห็นเด็กๆตัวเล็กๆ ล้มแล้วล้มอีกก็ยังลุกขึ้นมาเล่น เราโตกว่าเด็กตั้งเยอะจะยอมแพ้ได้ยังไง
สไลเดอร์ "นุ่มนิ่ม" และม้าหมุนหิมะ เล่นได้ฟรีโดยการซื้อตั๋วลิฟต์แบบ 1 วัน(3,500 เยน: วันธรรมดา 4,500 เยน : วันหยุด) หรือ ตั๋วลิฟต์ 1 วัน เส้นทางของเด็ก แบบซุปเปอร์ (1,500 เยน)
ราคาตั๋วคนเดียว:
สไลเดอร์ "นุ่มนิ่ม" - 500 เยน
ม้าหมุนหิมะ - 200 เยน
ล่องแก่งหิมะ - 1,000 เยน (ผู้ใหญ่) / 700 เยน (เด็ก)
รถโกคาร์ทหิมะ - 1,000 เยน
บอลลูนลมร้อน - 2,900 เยน (ผู้ใหญ่) / 1,800 เยน (เด็ก)
★ อาหารเย็น
พอเล่นสกีจนเหนื่อย ฟ้ามืดแล้ว เราก็พักแถวๆนี้ เป็นโรงแรมญี่ปุ่นสมัยก่อน อาจจะสู้โรงแรมหรูๆ ไม่ได้ แต่บอกเลยว่าอาหารอร่อยมากกกกกก (http://www.kannabe-gonbeh.com/)
ของดังของที่นี่ คือ ปู เกิดมาเพิ่งเคยกินปูดิบ ลื่นๆ อร่อยดี
ส่วนขาปูก็อร่อยหวานช่ำตามมาตรฐาน อาหารญี่ปุ่น
ที่เด็ดอีกอัน คือเต้าหู้ นุ่นมากกกก ใครชอบอาหารทะเล แนะนำ ให้เป็นอีกทางเลือกนึ่งนะคะ
★ ปีนภูเขาหิมะ
สุดท้าย ตอนเช้าก่อนจะกลับ เราแวะไปปีนภูเขาหิมะกันค่ะ (https://www.kns.hyogo.jp/)
หิมะหนาฟูมากๆ เดินลงไป จมไปครึ่งเขา ก่อนจะไป เราเลยต้องใส่เสื้อกันลม และ รองเท้าสำหรับปีนภูเขาหิมะโดยเฉพ จะมีเจ้าหน้าที่เดินนำหน้า ถ้าเราเดินตามเค้าจะไม่เหนื่อยเท่าไหร่แต่ถ้าอยากลองเดินจมหิมะเอง ก็สนุกอีกแบบ เหมือนเราเป็นเอสกีโม่
พอถึงยอดเขาแล้วววววว เจ้าหน้าที่เต็มซุปอุ่นๆ มาส์ชเมโล ช็อกโกแลก และ คุ้กกี้ให้เราทานเต็มพลัง ออกแนวแคมป์ปิ้งหน่อยๆ
ขาลง ไม่ใช่การเดินลง แต่ใช่การสไลด์ลง ทางที่เราเดินมาเมื่อกี้ กลานเป็นสไลด์เดอร์ให้เรา ใครหนอช่างคิด ถ้าใครชอบ Adventure และการเล่นสกีมัน เล็กน้อยไป ลองมาปีนภูเขาหิมะดูค่ะ
วิวข้างบนสวยได้ใจจริงๆ
★ สุดท้ายนี้
โลกนี้มีที่สวยๆมากมาย ที่เราไม่เคยไปเจอ หรือไปลองด้วยเพราะสภาพอากาศของประเทศที่ต่างกัน ถ้าใครคิดว่าปีนี้ อยากจะลองทำอะไรใหม่ๆให้ชีวิตสักอย่างการลองเล่นสกีก็อาจจะเป็นทางเลือกนึง โดยเฉพาะถ้าใครมีลูก หรือเพิ่มเริ่มหัดเล่น สกีสอนเราอย่างที่ผู้ใหญ่ชอบสอนคือ อยากเก่ง อย่ากลัวที่จะล้ม (แต่ถ้าไม่ไหวอย่าฝืน ปลอดภัยไว้ก่อน) เนื่องจากเราเป็นเมืองร้อน อาจจะไม่ค่อยมีโอกาสนัก จะไปฮอกไกโดคนก็อาจจะเยอะ แวะมาเที่ยวแทบคันไซ ก็อาจจะลอง คันนาเบะ ไปเป็นอีกทางเลือกนึงของการลองกีฬาหน้าหนาวค่ะ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้