"ไอ้ความเหงา"เราจะกำจัดมันยังไง?? ใครมีวิธีอะไร มาแนะนำหน่อย แต่ผมก็มีวิธีของผมนะ ลองอ่านดู 5555

สวัสดีตอนเช้า ก่อนทำงานวันสุดท้ายของสัปดาห์ และของเดือน ใครเงินเดือนออก ลัลลาเลยนะ....นางพญาเม่า

วันนี้ผมจะคุยเรื่องการจัดการ "ไอ้ความเหงา" ในแบบของผม หุหุหุ
แต่ผมก็อยากฟัง การจัดการความเหงาในแบบคนอื่นๆด้วยนะครับ  เล่ากันมาเล้ยยย ผมรออ่าน เอามาแชร์กัน
***************************************************************
       ผมเป็นคนไฮเปอร์ครับ ไม่ชอบหยุดนิ่ง ชอบทำโน้นทำนี้ไปเรื่อย และก็มีวิทยายุทธ สามารถขับรถไป เล่นมือถือไปได้ (มันไม่ดีนะครับ)
       ผมชอบวางแผนใน1วันผมจะทำอะไรบ้าง  และอะไรก็ตามที่ผมชอบวางแผนไว้ถ้ามันหมดลงแล้ว...ทำไงดีละ
       "ไอ้ความเหงา" มันก็เข้ามา Say hello ดิครับ  เซ็งเลยทีนี้เต่าเอือม

สมัยก่อนที่ผมมีแฟน  ก็หน้าแปลกที่ไอ้ตัวที่เรียกว่าความเหงา "ผมไม่เคยพบเจอหน้าตามันเป็นไงผมก็ไม่รู้"
ช่วงที่ผมไปทำงานผมก็ทำงานปกติ  ว่างผมก็นั้งเล่นเน็ต หางานพิเศษทำ คุยกะคนที่ทำงานตามประสา
ช่วงที่กลับห้องผมมีไอ้แสบ หมาตัวดีของผมต้องให้ผมจัดการ เรื่องมันเยอะครับ ผมพามันไปวิ่ง เก็บห้อง ทำโน้นทำนี้
แต่ทั้งหมดทั้งมวลผมมีความสุข ที่ได้ทำงาน ดูแลหมาดูแฟนผม ผมได้ทำสิ่งที่ผมรัก ครบประเด็นมั้งครับ

     แต่หลังจากที่ผมได้เลิกกับแฟนที่คบกันมาแสนยาววววนานนนนน    ผมพึ่งได้รู้จัก "ไอ้ความเหงา"มันเต็มๆ
     โห๊ยยยย มันแสบมากคร้าบบบ  มันทำให้ผมไม่รู้จะทำอะไร มันทำให้ผมไม่อยากทำอะไรเลยยยย
     ผมก็นั้ง งง งง ไปแบบนั้น 2-3เดือน ไม่อยากคุยกะใคร ไม่อยากไปไหน บ้างครั้งก็ต้องไปเข้าห้างบ้างเพื่อไปทำธุระ
     ไปซื้อของเข้าบ้าน  แต่...ผมไม่อารมย์ สุนทรีพอที่จะเดินดูโน้นดูนี้ เหมือนเมื่อก่อน รู้สึกทำไมต้องเดินคนเดียว.... ร
     รู้สึกตอนดีใจ เสียใจ ไม่รู้จะบอกใคร .....เพลียเลยคร้าบคับ

ผมก็เลยมานั้งหาวิธีจัดการความเหงาของผม ว่าทำไงดีในตอนนั้น (ผมมันคนบ้า...ชอบวางแผน แต่ก็ทำมันจริงๆนะ)

1.ผมแชทหาคู่เดท  
คุยๆๆๆๆๆ พอถูกใจ หาคนที่ลงตัวได้ ก็นัดเจอแบบไม่ลังเล เพราะผมยึดติดว่า ผมไม่ชอบคุยกะใครโดยไม่รู้จักหน้าตาในไม่เคยเจอ
และถ้าผมไม่ได้เจอ ก็ไม่รู้จะคุยทำไม???? คนๆนั้นก็ต้องอยู่แค่ในโลก โซเชียลลของผม เป็นมนุษย์หน้าจอ ไม่มีอิทธิพลในความรู้สึกของผม
สิ่งที่ผมได้รับ : ไม่เจอใครถูกเลยยย   และ ก็ไม่เคยนัดเจอใครเป็นครั้งที่ 2  อาจเป็นเพราะว่าผมรีบเกินไปรึเปล่า
หรือผมยังหาคนนั้นๆไม่เจอ ผมหาจนเพลียคร้าบ....เม่าคัทลอส แล้วทำไมผมต้องหา ทำไมผมบ้าบอขนาดนี้  
ทำไมผมรีบ  เออเนอะ....ผมก็เลยหยุดแชท หยุดนัด แต่ถ้าบังเอิญเจอใครถูกใจ ผมก็ยินดีนะ อย่างน้อยก็เพื่อนกัน

2.ผมย้อนกลับไปหาเพือนสมัย มัธยม
ที่ผมเคยหายๆๆไป เป็น12ปี (ตอนนี้แก่เลยทีเดียว) อันนี้โอเคคร้าบ รู้สึกดีในช่วงนั้น แต่ว่าเพื่อนผมแต่ละคนก็มีลูกมีเมีย
ผมไปนั้งกินเหล้าบ้านเพื่อน และก็มีเพื่อนมานั้งข้างๆ(ลูกเพื่อนครับ) มันก็โอเคอะ...แต่ก็ต้องมาเจอกับคำถามว่า  "เมียเมิงละ ไม่เอามาด้วย"
สะดุดทุกทีกับคำนี้   ไปหาเพื่อนคนไหน ก็มีแต่คำนี้ละ "เมียเมิงละ"

โห๊ยยยย.... อยากจะว๊ากใส่หน้าเพื่อนผมจริงๆ นี้ละน่าาาาา ผมถึงเลือกจะหายตัวไป12ปี ผมไม่ชอบเปิดเผย และผมก็ไม่คิดว่าผมจะพูดไปเพื่ออะไร
ในเมื่อผมไม่ได้เป็นเกย์สาว ดูไม่ออก นิสัยผมแมนทุกอย่าง ผมก็เลยไม่คิดว่าจะบอกอะไรใคร มันคงดีกว่า

สิ่งที่ผมได้รับ : เบื่อในคำถามเพื่อนครับ เข้ากับเพื่อนไม่ติด เพื่อนไม่เข้าใจ...ผมตอบเพื่อนไม่ได้ ก็เลยห่างๆไป
ปล. ถามว่าทำไมผมไม่เลือกไปไหน กะเพื่อนสมัยปัจจุบันของผม ก็เพราะเพื่อนผมกะเพื่อนแฟน เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน
ผมกลัวเมาๆผมจะพูดอะไรออกไป เพราะไม่มีใครรู้ว่าผมกับแฟน เป็นแฟนกัน  และผมก็ไม่อยากให้แฟนผมรู้สึกผมดึงเพื่อนออกมา
ถ้าจะไปไหนปกติเราจะไปเป็นกลุ่มเสมอ มีรอบนี้ มันไม่เหมือนเดิม ผมก็เลยไม่ชวนเพื่อนปัจจุบันผมไปไหน

3.ทำงานครับ  
ผมทำงานเพิ่มขึ้น โดยหาอะไรทำขึ้นอีกงาน เพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่ายเพิ่มเติม  ดูดีมีสาระมากกครับ แต่ท้ายที่สุด มนุษย์เราก็มีข้อจำกัด
เวลาทำงานมันก็เพลินๆดี แต่เวลาขี้เกียจ ไอ้ความเหงาเจ้าปัญหา มันทะลวงข้างหลังผม ซะจุกกว่าไม่ทำงานอีกครับ

สิ่งที่ผมได้รับ : ผมป่วยครับ.....แง่  ทำงานมากไป เครียดมากไป มันก็ไม่ดีอีก

4.ขับรถเล่น! แผนใหม่ของผม ดูดีครับ ขับรถไปคนเดียว ที่ไกลๆ ที่แปลกๆ ได้ความรู้ ได้ภาพประทับใจ
สิ่งที่ผมได้รับ : ผมจนเลยคร้าบ ค่าน้ำมันบานนนน ค่ากินบานนนน

***************************************************
แผนหลักๆที่ผมใช้ก็ 4  แผนนี้ละครับ จริงๆก็มีเล่นกีฬาด้วยบ้าง แต่บังเอิญขาผมไม่ค่อยดี หมอห้ามออกกำลังกายมาก ซวยเลย
แถมบ้านไกลคนอื่นอีกต่างหาก จะไปไหน ก็ต้องขับรถไกลๆ ไปหาเพื่อน ชีวิตชีช่ำ ครับ


สรุปเนอะ....ไอ้ที่เล่าๆมา4 ข้อ ที่จริงผม อยากบอกอะไรเพื่อนๆ บ้างอย่าง....ที่กำลังอยู่กับ "ไอ้ความเหงา" ลองอ่านที่ผมจะบอกดีดีนะครับ

ความเหงา มันเกิดขึ้นกับเราในวันที่เราไม่มีใครข้างกาย ใครที่มีคนที่รักเรารออยู่ทีบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง แฟน....
ไอ้ความเหงามันก็มีโอกาสเข้ามาหาคุณได้ น้อยลง น้อยยยลง  เพราะช่องโหว่ไม่ค่อยมีให้มันแทรกเข้าหา  

แต่หากใครที่ต้องอยู่คนเดียว เมื่อกลับจากที่ทำงาน ที่เรียน ไอ้ห้องสี่เหลี่ยม หรือ บ้านว่างๆที่เราไม่มีคนที่เรารัก และรักคุณร่วมอยู่ด้วย
นั้นละ "ไอ้ความเหงา"มันจะเปิดประตู ด้วยกุญแจผี เข้าไปหา และ ไปนั้งเป็นเพื่อนข้างๆคุณ จนกว่าคุณจะหลับ
มันหน้าด้านเนอะ ไม่ได้เชิญ ก็มา สาดดดดดดดดด

ดังนั้นถ้าคุณมีใครเมื่อคุณได้กลับบ้าน  การเห็นค่าของกันและกันในครอบครัว ก็เป็นเหมือนสายใยที่ก่อตัวขึ้นถี่ๆ...
"ไอ้ความเหงามันเข้าไปยากครับ" แต่เมื่อคุณต้องอยู่คนเดียว ต่อให้คุณหาทางกำจัดความเหงา ในหลายรูปแบบ
คุณอาจจะมีวิธีดีดี มากกว่าที่ผมได้ทำ แต่คุณก็ไม่สามารถจะกัดจัดมันทิ้งได้  
เพราะถ้าคุณเผลอ คุณเหนื่อย มันก็จะยืนยิ้ม แหยะๆให้คุณให้ท้อใจเล่นเจ้าคิกคัก

       ผมเลยรู้แล้วว่าผมวิ่งหนีความเหงาตอนนี้ผมทำไม่ได้ เพราะผมไม่มีใครข้างๆกายเหมือนเดิม
       "ผมเลยต้องยอมรับว่าผมต้องอยู่คนเดียว และยิ้มกลับให้ไอ้ความเหงามันบ้าง
        เพราะมันเป็นห่วงคุณนะ  มันถึงเปิดประตูมาหาคุณ มาอยู่ข้างๆในวันที่คุณไม่มีใคร"

ผมว่า....เราต้องเรียนรู้จัก การรักตัวเอง การเป็นเพื่อนกับตัวเอง รู้จักตัวตนของตัวเองให้มากขึ้น
ในวันที่เรามีใครข้างๆ คนเรามักจะหาอะไรทำเพื่อนคนๆนั้น เสมอ แต่วันที่เราไม่มีใครข้างๆแล้วเราจะทำอะไรเพื่อใคร???

คำตอบผมของผมคือ "ผมต้องรักตัวเอง และเป็นเพื่อนกับตัวเอง" เปิดใจใช้ชีวิตอย่างไม่มีใคร การรีบวิ่งหาใครสักคน ยิ่งคุณหา คุณก็ไม่เจอ
ถ้าคุณเจอ คุณก็ว่าไม่ใช้  

#ตอนนี้ผมเริ่มชอบ "ไอ้ความเหงา"เข้าแล้ว มีมันข้างๆกายผมบ้างก็คงดี   "เฮ้เป็นไงไอ้ความเหงา สบายดีไหม"
คุณเคยถามมันบ้างไหม เพราะ"ไอ้ความเหงา"ไม่ใช้ใครเลย มันคือตัวคุณเอง

***คุณเคยลืมคุยกับตัวเอง และอยู่เป็นเพื่อนตัวเอง แบบผมบ้างไหม*****

เม่าเหม่อเม่าเหม่อเม่าเหม่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่