เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยโดนผีอำ ไปไหนมาไหนไม่เคยเจอผีในห้องพัก ทั้งๆที่เป็นคนมีสัมผัสที่ 6
อาจจะมีบ้างที่รับรู้ว่า มีพวกเขาอีกโลกหนึ่งอยู่ด้วย เพียงแต่ได้ยินเสียง ได้กลิ่นแค่นั้น
แต่เมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว เรากับเพื่อนแก๊งใหญ่ 10 กว่าคน ไปทำธุระกันที่ ระยอง เวลาเหลือเลยหาเรื่องเที่ยวกันต่อซะเลย อิอิ..
ไปพักอยู่แถวหาด แม่รำพึง ไปช่วงนั้น ไม่ค่อยได้เล่นน้ำทะเลเท่าไหร่เพราะมีกระแสน้ำที่แรง มีช่องน้ำวนที่ดูดคนตายได้ หลายๆจุด
แต่หาดทรายขาวสะอาด มีปูตัวเล็กๆน่ารัก เต็มไปหมด พวกเราเลยได้เล่นน้ำแค่แปปๆ พวกเราจองที่พักไว้ ที่พักที่ว่ามีทั้งบ้านเป็นหลัง
และ ห้องเดี่ยวติดๆกัน กลุ่มผู้ชายเลือกบ้านพัก กลุ่มผู้หญิงเลือกห้องเดี่ยว แต่เป็นเตียง 2 เตียง... ตอนที่เราเข้าห้องเพื่อเอาของไปไว้
เตรียมตัวหาที่กินข้าวตอนเย็น เรารู้สึกละแหล่ะว่ามันมืดมากผิดปกติ ทั้งๆที่ตอนนั้นยังมีแดดจ้าอยู่ ห้องดูเก่านิดหน่อย ปิดผ้าม่านหมดเลย
แต่ฟอร์นิเจอร์ครบครัน เราวางกระเป๋าไว้ข้างเตียง ละถามเพื่อนว่า ทำมันมืดจังวะ ?
พร้อมเดินสำรวจห้องอย่างละเอียด เพราะตอนจองให้เพื่อนอีกคนจัดการ เห็นรูปผ่านอินเตอร์เน็ตมันก็สวยน่าพักจริงๆ
เราเอะใจว่าถ้าเปิดประตูหลังห้องออกไป จะเจออะไร เรากับเพื่อนรีบเดินไปเปิดประตูระเบียงหลังห้อง เหมือนในใจกำลังตะหงิดๆอะไรซักอย่าง
สิ่งที่เราเห็นตรงหลังระเบียงนั้นคือ ป่าทึบที่สูงเกือบถึงชั้น 2 มองไปทางไหนก็ป่า รั้ว กับระเบียงห้อง เกือบจะชิดกันอยุ่แล้ว
ห่างแค่คนคนหนึ่งยืนได้เท่านั้น เราชะโงกหน้าดูห้องอื่นๆ ก็เห็นเพื่อนอีก 2 ห้องข้างๆ ยืนที่ริมระเบียงแบบเรากับเพื่อนเด๊ะ เพื่อนเราพูดว่า
มิน่าถึงดูมืดๆ น่ากลัว.. เราหายสงสัยละล่ะ เราเลยชะโงกหน้าไปหาเพื่อนอีก 2 ห้องถัดไปว่า แต่งตัวไปหาไรกินกันเหอะเดี๋ยวค่ำละ
เราออกเดินทางไปหาไรกินไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ เข้ามาที่พักอีกทีก็เกือบๆ 2 ทุ่ม มานั่งกินเหล้า ร้องเพลง ดูทีวีกันที่บ้านพักของผู้ชายต่ออีกซักพัก
ใหญ่ๆ เที่ยงคืนกว่า พวกผู้หญิงก็ขอตัวกลับมานอนกัน เรากับเพื่อนกลับมาอาบน้ำอีกรอบ เพราะเหนียวตัวมาก ทั้งไอทะเลทั้งเหงื่อของเราเอง
เราให้เพื่อนเข้าไปอาบก่อน ระหว่างนั้นก็เปิดทีวีดู เล่นมือถือไปด้วยตอนนั้นยังใช้ บีบี อยู่เลย อิอิ ซักพักเพื่อนเดินออกมา
(ขอแทนชื่อเพื่อนเจ้าของกระทู้ว่า เปรี้ยว ตัวเจ้าของกระทุ้ ชื่อ บ.)
เปรี้ยว. กูว่าห้องน้ำมันน่ากลัวว่ะ กูล้างหน้าละไม่กล้าหลับตาเลย เหมือนมีคนอยู่ในนั้นด้วยตลอดเว
บ. อย่าพูดดิ่ ก็รู้ กู สัมผัสอะไรได้ เดี๋ยวกูเจอ แค่นี้ก็กลัวละเนี้ย รีบอาบน้ำดีกว่า
เปรี้ยว. รีบอาบนะ กูว่ามันไม่โอเค
เราทำใจเข้าห้องน้ำไปอย่างช้าๆ วินาทีที่ปิดประตูห้องน้ำ ความรู้สึกที่ไอ้เปรี้ยวบอก มันก็มา เหมือนมีใครอยู่ด้วยในห้องน้ำ แต่มองไม่เห็น
ในห้องน้ำมีผ้าม่านกั้นส่วนเปียก ส่วนแห้งไว้ เรารีบรูดเปิดผ้าม่านออกให้หมด เพราะ รู้สึกมีใครอยู่ข้างหลังนั้น เราใส่พระอาบน้ำเลยวันนั้น
ยอมรับว่าหลอน แต่ไม่ได้หลอนเองแน่ๆ.. อาบเสร็จรีบแต่งตัวออกมาเลย เห็นไอ้เปรี้ยว นอนห่มผ้าเล่น บีบี ละ แอร์ในห้องเย็นสบาย
น่านอนมาก ไอ้เปรี้ยว บอกให้เรานอนเปิดไฟทางเดินหน้าห้องน้ำเถอะ เราก็ เอ่อๆเห็นด้วยเพราะกลัว ฮ่าๆ คืนนั้น เปิดไฟนอน สองจุด
หน้าทีวี กับ ทางเดินหน้าห้องน้ำ อุณหภูมิแอร์ กำลังดี ก่อนจะล้มตัวลงนอน เราก็ไหว้พระ บอกเจ้าที่เจ้าทางเหมือนทุกครั้งที่ไปนอนที่อื่นๆ
เราจะใส่พระติดตัวตลอด คือ หลวงปู่ทวด ที่เรานับถือมากๆตั้งแต่เด็ก เราหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ก็ต้องรู้สึกตัวตื่นมาเพราะ หนาวมากๆ
หนาวจนสั่น หันไปดูไอ่เปรี้ยว มันเอาผ้าห่มคลุมหน้ามันเหลือแค่จมูก แต่ยกแขนขึ้นพาดกับหมอน หลับแบบไม่รู้สึกหนาวอะไร
เรากวาดสายตาไปที่แอร์ ที่ห้อยติดอยู่ฝั่งเตียงไอ้เปรี้ยว แต่หางตาเราเหลือบไปเห็นใครยืนอยู่ปลายเท้าไอ้เปรี้ยวไม่รู้..
(เขาเป็นผู้.ญ ผมยาว ดำยืนก้มหน้าผมปิดหน้าเรามองไม่เห็นหน้าเขาเลย ) เราเห็นก็ตกใจดิ่ !!! นอนค้างอยู่ในท่านอนตะแคง
ไม่ทันตั้งตัว ผู้.ญ คนนั้นกระโดดมาหาเราด้วยความเร็วสูงมาก มาทับที่ส่วนเอวเรา มันจับไหล่เราทั้งสองข้างพลิกตัวเราให้หงายขึ้น
ซึ่งตอนนั้นเราหายใจไม่ออกสุดๆ เรานอนอยู่ในท่ากึ่งตะแคง คือ ช่วงสะโพกจนถึงเท้าตะแคงหันไปทางไอ้เปรี้ยว แต่ช่วงบนกำลังหงาย
และโดนกดไหล่อยู่ ... ผู้.ญ คนนั้นเสื้อผ้าหายไปตอนไหนไม่รู้ ภาพที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า คือ ปีศาจที่มันมีฟันหลายๆซี่แหลมๆ
ขู่เราแห่ๆ ห่างจากหน้าเราไม่เกินคืบแน่นอน เสื้อผ้าไม่มี นมยาน ผอมแห้งเหลือแต่ซี่โครง
เราสู้กับแรงมันไม่ได้เลย พยายามสวดมนต์ก็ไม่ไป มันก้มหน้ามาเรื่อยๆ ตาถลนกับปากที่มีฝันแหลมหลายซี่ ยิ่งทำให้เราสติแตกสุดๆ
เรานึกถึงหลวงปู่ทวดที่ใส่ไว้ เรารีบคว้าหลวงปู่ทวดละท่องบทสวด นาทีที่เริ่มนะโม ผีตนนั้นก็โดดพุ่งไปยืนที่ประตูหลังระเบียงที่แรกที่มันมายืนดูเรา
เราก็ยังสวดมนต์บทหลวงปู่ทวดยังไม่จบดี มันก็โดดทะลุประตูระเบียงหลังห้องออกไปเลย มันเร็วมาก !!!
เราสะดุ้งตื่น ใช่ สะดุ้งตื่น !! ตื่นมาในท่าที่ อีผีตัวนั้นนั่งทับ มือกำสร้อยสร้อยพระหลวงปู่ทวด ร้องไห้จริง
และ ไอ้เปรี้ยว นอนท่าเดียวกับในฝันเด๊ะ คือผ้าห่มคลุมจนถึงปากเหลือ แต่ช่วงจมูกขึ้นไป เอาแขนก่ายหมอน นอนเหมือนไม่ได้หนาวอะไร
เรารีบมองไปที่ประตูหลังระเบียง มันแง้มเปิดออก เรายิ่งตกใจไปใหญ่ เพราะเราเป็นคนล๊อคเองกับมือ มันไม่มีทางเปิดได้
นาทีนั้นเราเรียกไอ้เปรี้ยวให้ตื่นเลย เล่าความฝันให้มันฟังทั้งหมด ไอ้เปรี้ยวบอกว่า กูไม่หนาวเลย นอนสบายมาก ไม่ฝันไม่รู้สึกอะไร
เราตกใจจนไม่ได้ดูนาฬิกาเลยด้วยซ้ำว่ากี่โมงตอนเกิดเหตุการณ์ ... แต่พอเล่าอะไรให้ไอ้เปรี้ยวฟังเสร็จหมดแล้ว ก็ ตี 5.30 พอดี
เรากับไอ้เปรี้ยวเลยตัดสินใจไม่นอนแล้ว และพรุ่งนี้จะเล่าให้คนอื่นๆฟัง เปลี่ยนแผนเข้ากรุงเทพกันเลยดีกว่า 7.30 เราเดินออกมานอกห้อง
เห็นเพื่อนหลายคนนั่งกินอาหารเช้าที่ทางที่พักเขาจัดให้ เพื่อนผู้.ญคนนึงทักเรา ไอ้ บ. นอนสบายมั้ย (ขอแทนชื่อมันว่า เกี้ยว)
เรา. ไม่สบายว่ะ คิดงัยถามวะ ฮ่าๆ
เกี้ยว. กูว่าถ้ากูเจอก็ต้องเจอ ใครๆก็รุ้มีสัมผัสที่ 6
เรา. เห้ยยยยยย !!! เอ่อ กูเจอจริง กูกำลังจะมาเล่าให้ทุกคนฟังนี้แหล่ะ
ไอ้เกี้ยว เรียกทุกคนให้มานั่งรวมใกล้ๆกัน ละบอกเพื่อนๆว่าเรากะมันเจอผี เหมือนกัน เราเริ่มเล่าก่อน ทุกคนเงียบกริ่บ..
จนถึงคราวไอ้เกี้ยวเล่าบ้าง เหตุการณ์ทุกอย่าง เป็นเหมือนเรื่องของเราเด๊ะ เราเลยคิดว่าเป็นผีตัวเดียวกันแน่นอน
แต่เกี้ยวมันเห็นในสภาพที่ดีกว่าเรา โดนทับท่าเดียวกับเรา แต่ไม่เห็นหน้าผีตัวนั้น
เราถามไอ้เกี้ยวว่าห้อยพระมั้ย ไอ้เกี้ยวบอก กูมีเป็นถุงนุ้น !! เราถามต่อว่า ละมันหลุดไปได้งัย ไอ้เกี้ยวว่า มันหลุดไปเอง
แต่วิ่งทะลุมาห้องของเรา แปลว่า ไอ้เกี้ยวเจออำก่อนเรา !! เราถามเกี้ยวว่าตอนนั้นกี่โมง มันบอกว่า ตี 3 กว่าๆ
ครั้งแรกที่เห็นผีตัวนั้นคือไอ้เกี้ยวสะดุ้งตื่นเพราะหนาวมาก มันเห็นคนเดินเข้าห้องน้ำ ไอ้เกี้ยวคิดว่าเป็นไอ้กุ้ง ที่นอนด้วยอีกคน
แต่ไอ้เกี้ยวคิดว่ามันโดนหลอกแน่ๆเพราะไอ้กุ้ง นอนกรนอยู่เลย หลังจากที่มันคิดว่าโดนผีหลอก ผีตัวนั้นมันก็โดดขึ้นมาทับไอ้เกี้ยวทันที
หลังจากที่เล่ากันจบ ทุกคนไปเก็บของอย่างเร็ว เพื่อนที่เป็นคนติดต่อที่พักก็ไปขอเช็คเอ้าท์ออกก่อน 1 วัน เราเห็น ไอ้กาน (คนที่ติดต่อที่พัก)
ยืนคุยกะพนักงานอยู่นานเลยเดินเข้าไปหา ได้ยินมันถามพนักงานเรื่องผี พนักงานว่า เคยมีคนเจอเหมือนกัน
แต่ไม่ได้ร้ายแรงเท่ากรณีของเรา ไอ้กานเลยแอบเดือดนิดหน่อย ว่าทำไมไม่มาทำพิธีไล่ หรือ จัดการอะไรซักอย่าง
พนักงานก็ทำหน้าหงอยๆ พูดเสียงเล็กๆว่า แต่ไม่เคยมีใครตายในนี้นะคะ
เราเลยบอกให้เขาพาพระมาสวด มาทำบุญซะ แต่เราคิดว่าเขาคงเป็นผี ที่อยู่ในป่าข้างๆมากกว่า ไม่ใช่ผีในที่พักนี้
เราเดินทางออกจากที่พักตอน 11 โมง ทุกคนในรถ ไม่พูดอะไรเลยเพราะกลัวในสิ่งที่เรากะไอ้เกี้ยวเจอ ฮ่าๆ
ประสบการณ์ครั้งนี้ คือ การโดนผีอำครั้งแรกในชีวิตเรา ที่หลอนที่สุด ครั้งแรกก็จัดเต็มกันเลยทีเดียว
*แม้ว่าจะเจอสิ่งเล้นลับมามากกว่าครึ่งชีวิต แต่ก็ไม่เคยชินเลยนะ ฮ่าๆ
ไว้จะมาแชร์เรื่อง การเดินทางในป่าหิมพานต์ ของพ่อ อีกนะ
ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง (ที่พักหาดแม่รำพึง)
อาจจะมีบ้างที่รับรู้ว่า มีพวกเขาอีกโลกหนึ่งอยู่ด้วย เพียงแต่ได้ยินเสียง ได้กลิ่นแค่นั้น
แต่เมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว เรากับเพื่อนแก๊งใหญ่ 10 กว่าคน ไปทำธุระกันที่ ระยอง เวลาเหลือเลยหาเรื่องเที่ยวกันต่อซะเลย อิอิ..
ไปพักอยู่แถวหาด แม่รำพึง ไปช่วงนั้น ไม่ค่อยได้เล่นน้ำทะเลเท่าไหร่เพราะมีกระแสน้ำที่แรง มีช่องน้ำวนที่ดูดคนตายได้ หลายๆจุด
แต่หาดทรายขาวสะอาด มีปูตัวเล็กๆน่ารัก เต็มไปหมด พวกเราเลยได้เล่นน้ำแค่แปปๆ พวกเราจองที่พักไว้ ที่พักที่ว่ามีทั้งบ้านเป็นหลัง
และ ห้องเดี่ยวติดๆกัน กลุ่มผู้ชายเลือกบ้านพัก กลุ่มผู้หญิงเลือกห้องเดี่ยว แต่เป็นเตียง 2 เตียง... ตอนที่เราเข้าห้องเพื่อเอาของไปไว้
เตรียมตัวหาที่กินข้าวตอนเย็น เรารู้สึกละแหล่ะว่ามันมืดมากผิดปกติ ทั้งๆที่ตอนนั้นยังมีแดดจ้าอยู่ ห้องดูเก่านิดหน่อย ปิดผ้าม่านหมดเลย
แต่ฟอร์นิเจอร์ครบครัน เราวางกระเป๋าไว้ข้างเตียง ละถามเพื่อนว่า ทำมันมืดจังวะ ?
พร้อมเดินสำรวจห้องอย่างละเอียด เพราะตอนจองให้เพื่อนอีกคนจัดการ เห็นรูปผ่านอินเตอร์เน็ตมันก็สวยน่าพักจริงๆ
เราเอะใจว่าถ้าเปิดประตูหลังห้องออกไป จะเจออะไร เรากับเพื่อนรีบเดินไปเปิดประตูระเบียงหลังห้อง เหมือนในใจกำลังตะหงิดๆอะไรซักอย่าง
สิ่งที่เราเห็นตรงหลังระเบียงนั้นคือ ป่าทึบที่สูงเกือบถึงชั้น 2 มองไปทางไหนก็ป่า รั้ว กับระเบียงห้อง เกือบจะชิดกันอยุ่แล้ว
ห่างแค่คนคนหนึ่งยืนได้เท่านั้น เราชะโงกหน้าดูห้องอื่นๆ ก็เห็นเพื่อนอีก 2 ห้องข้างๆ ยืนที่ริมระเบียงแบบเรากับเพื่อนเด๊ะ เพื่อนเราพูดว่า
มิน่าถึงดูมืดๆ น่ากลัว.. เราหายสงสัยละล่ะ เราเลยชะโงกหน้าไปหาเพื่อนอีก 2 ห้องถัดไปว่า แต่งตัวไปหาไรกินกันเหอะเดี๋ยวค่ำละ
เราออกเดินทางไปหาไรกินไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ เข้ามาที่พักอีกทีก็เกือบๆ 2 ทุ่ม มานั่งกินเหล้า ร้องเพลง ดูทีวีกันที่บ้านพักของผู้ชายต่ออีกซักพัก
ใหญ่ๆ เที่ยงคืนกว่า พวกผู้หญิงก็ขอตัวกลับมานอนกัน เรากับเพื่อนกลับมาอาบน้ำอีกรอบ เพราะเหนียวตัวมาก ทั้งไอทะเลทั้งเหงื่อของเราเอง
เราให้เพื่อนเข้าไปอาบก่อน ระหว่างนั้นก็เปิดทีวีดู เล่นมือถือไปด้วยตอนนั้นยังใช้ บีบี อยู่เลย อิอิ ซักพักเพื่อนเดินออกมา
(ขอแทนชื่อเพื่อนเจ้าของกระทู้ว่า เปรี้ยว ตัวเจ้าของกระทุ้ ชื่อ บ.)
เปรี้ยว. กูว่าห้องน้ำมันน่ากลัวว่ะ กูล้างหน้าละไม่กล้าหลับตาเลย เหมือนมีคนอยู่ในนั้นด้วยตลอดเว
บ. อย่าพูดดิ่ ก็รู้ กู สัมผัสอะไรได้ เดี๋ยวกูเจอ แค่นี้ก็กลัวละเนี้ย รีบอาบน้ำดีกว่า
เปรี้ยว. รีบอาบนะ กูว่ามันไม่โอเค
เราทำใจเข้าห้องน้ำไปอย่างช้าๆ วินาทีที่ปิดประตูห้องน้ำ ความรู้สึกที่ไอ้เปรี้ยวบอก มันก็มา เหมือนมีใครอยู่ด้วยในห้องน้ำ แต่มองไม่เห็น
ในห้องน้ำมีผ้าม่านกั้นส่วนเปียก ส่วนแห้งไว้ เรารีบรูดเปิดผ้าม่านออกให้หมด เพราะ รู้สึกมีใครอยู่ข้างหลังนั้น เราใส่พระอาบน้ำเลยวันนั้น
ยอมรับว่าหลอน แต่ไม่ได้หลอนเองแน่ๆ.. อาบเสร็จรีบแต่งตัวออกมาเลย เห็นไอ้เปรี้ยว นอนห่มผ้าเล่น บีบี ละ แอร์ในห้องเย็นสบาย
น่านอนมาก ไอ้เปรี้ยว บอกให้เรานอนเปิดไฟทางเดินหน้าห้องน้ำเถอะ เราก็ เอ่อๆเห็นด้วยเพราะกลัว ฮ่าๆ คืนนั้น เปิดไฟนอน สองจุด
หน้าทีวี กับ ทางเดินหน้าห้องน้ำ อุณหภูมิแอร์ กำลังดี ก่อนจะล้มตัวลงนอน เราก็ไหว้พระ บอกเจ้าที่เจ้าทางเหมือนทุกครั้งที่ไปนอนที่อื่นๆ
เราจะใส่พระติดตัวตลอด คือ หลวงปู่ทวด ที่เรานับถือมากๆตั้งแต่เด็ก เราหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ก็ต้องรู้สึกตัวตื่นมาเพราะ หนาวมากๆ
หนาวจนสั่น หันไปดูไอ่เปรี้ยว มันเอาผ้าห่มคลุมหน้ามันเหลือแค่จมูก แต่ยกแขนขึ้นพาดกับหมอน หลับแบบไม่รู้สึกหนาวอะไร
เรากวาดสายตาไปที่แอร์ ที่ห้อยติดอยู่ฝั่งเตียงไอ้เปรี้ยว แต่หางตาเราเหลือบไปเห็นใครยืนอยู่ปลายเท้าไอ้เปรี้ยวไม่รู้..
(เขาเป็นผู้.ญ ผมยาว ดำยืนก้มหน้าผมปิดหน้าเรามองไม่เห็นหน้าเขาเลย ) เราเห็นก็ตกใจดิ่ !!! นอนค้างอยู่ในท่านอนตะแคง
ไม่ทันตั้งตัว ผู้.ญ คนนั้นกระโดดมาหาเราด้วยความเร็วสูงมาก มาทับที่ส่วนเอวเรา มันจับไหล่เราทั้งสองข้างพลิกตัวเราให้หงายขึ้น
ซึ่งตอนนั้นเราหายใจไม่ออกสุดๆ เรานอนอยู่ในท่ากึ่งตะแคง คือ ช่วงสะโพกจนถึงเท้าตะแคงหันไปทางไอ้เปรี้ยว แต่ช่วงบนกำลังหงาย
และโดนกดไหล่อยู่ ... ผู้.ญ คนนั้นเสื้อผ้าหายไปตอนไหนไม่รู้ ภาพที่เราเห็นอยู่ตรงหน้า คือ ปีศาจที่มันมีฟันหลายๆซี่แหลมๆ
ขู่เราแห่ๆ ห่างจากหน้าเราไม่เกินคืบแน่นอน เสื้อผ้าไม่มี นมยาน ผอมแห้งเหลือแต่ซี่โครง
เราสู้กับแรงมันไม่ได้เลย พยายามสวดมนต์ก็ไม่ไป มันก้มหน้ามาเรื่อยๆ ตาถลนกับปากที่มีฝันแหลมหลายซี่ ยิ่งทำให้เราสติแตกสุดๆ
เรานึกถึงหลวงปู่ทวดที่ใส่ไว้ เรารีบคว้าหลวงปู่ทวดละท่องบทสวด นาทีที่เริ่มนะโม ผีตนนั้นก็โดดพุ่งไปยืนที่ประตูหลังระเบียงที่แรกที่มันมายืนดูเรา
เราก็ยังสวดมนต์บทหลวงปู่ทวดยังไม่จบดี มันก็โดดทะลุประตูระเบียงหลังห้องออกไปเลย มันเร็วมาก !!!
เราสะดุ้งตื่น ใช่ สะดุ้งตื่น !! ตื่นมาในท่าที่ อีผีตัวนั้นนั่งทับ มือกำสร้อยสร้อยพระหลวงปู่ทวด ร้องไห้จริง
และ ไอ้เปรี้ยว นอนท่าเดียวกับในฝันเด๊ะ คือผ้าห่มคลุมจนถึงปากเหลือ แต่ช่วงจมูกขึ้นไป เอาแขนก่ายหมอน นอนเหมือนไม่ได้หนาวอะไร
เรารีบมองไปที่ประตูหลังระเบียง มันแง้มเปิดออก เรายิ่งตกใจไปใหญ่ เพราะเราเป็นคนล๊อคเองกับมือ มันไม่มีทางเปิดได้
นาทีนั้นเราเรียกไอ้เปรี้ยวให้ตื่นเลย เล่าความฝันให้มันฟังทั้งหมด ไอ้เปรี้ยวบอกว่า กูไม่หนาวเลย นอนสบายมาก ไม่ฝันไม่รู้สึกอะไร
เราตกใจจนไม่ได้ดูนาฬิกาเลยด้วยซ้ำว่ากี่โมงตอนเกิดเหตุการณ์ ... แต่พอเล่าอะไรให้ไอ้เปรี้ยวฟังเสร็จหมดแล้ว ก็ ตี 5.30 พอดี
เรากับไอ้เปรี้ยวเลยตัดสินใจไม่นอนแล้ว และพรุ่งนี้จะเล่าให้คนอื่นๆฟัง เปลี่ยนแผนเข้ากรุงเทพกันเลยดีกว่า 7.30 เราเดินออกมานอกห้อง
เห็นเพื่อนหลายคนนั่งกินอาหารเช้าที่ทางที่พักเขาจัดให้ เพื่อนผู้.ญคนนึงทักเรา ไอ้ บ. นอนสบายมั้ย (ขอแทนชื่อมันว่า เกี้ยว)
เรา. ไม่สบายว่ะ คิดงัยถามวะ ฮ่าๆ
เกี้ยว. กูว่าถ้ากูเจอก็ต้องเจอ ใครๆก็รุ้มีสัมผัสที่ 6
เรา. เห้ยยยยยย !!! เอ่อ กูเจอจริง กูกำลังจะมาเล่าให้ทุกคนฟังนี้แหล่ะ
ไอ้เกี้ยว เรียกทุกคนให้มานั่งรวมใกล้ๆกัน ละบอกเพื่อนๆว่าเรากะมันเจอผี เหมือนกัน เราเริ่มเล่าก่อน ทุกคนเงียบกริ่บ..
จนถึงคราวไอ้เกี้ยวเล่าบ้าง เหตุการณ์ทุกอย่าง เป็นเหมือนเรื่องของเราเด๊ะ เราเลยคิดว่าเป็นผีตัวเดียวกันแน่นอน
แต่เกี้ยวมันเห็นในสภาพที่ดีกว่าเรา โดนทับท่าเดียวกับเรา แต่ไม่เห็นหน้าผีตัวนั้น
เราถามไอ้เกี้ยวว่าห้อยพระมั้ย ไอ้เกี้ยวบอก กูมีเป็นถุงนุ้น !! เราถามต่อว่า ละมันหลุดไปได้งัย ไอ้เกี้ยวว่า มันหลุดไปเอง
แต่วิ่งทะลุมาห้องของเรา แปลว่า ไอ้เกี้ยวเจออำก่อนเรา !! เราถามเกี้ยวว่าตอนนั้นกี่โมง มันบอกว่า ตี 3 กว่าๆ
ครั้งแรกที่เห็นผีตัวนั้นคือไอ้เกี้ยวสะดุ้งตื่นเพราะหนาวมาก มันเห็นคนเดินเข้าห้องน้ำ ไอ้เกี้ยวคิดว่าเป็นไอ้กุ้ง ที่นอนด้วยอีกคน
แต่ไอ้เกี้ยวคิดว่ามันโดนหลอกแน่ๆเพราะไอ้กุ้ง นอนกรนอยู่เลย หลังจากที่มันคิดว่าโดนผีหลอก ผีตัวนั้นมันก็โดดขึ้นมาทับไอ้เกี้ยวทันที
หลังจากที่เล่ากันจบ ทุกคนไปเก็บของอย่างเร็ว เพื่อนที่เป็นคนติดต่อที่พักก็ไปขอเช็คเอ้าท์ออกก่อน 1 วัน เราเห็น ไอ้กาน (คนที่ติดต่อที่พัก)
ยืนคุยกะพนักงานอยู่นานเลยเดินเข้าไปหา ได้ยินมันถามพนักงานเรื่องผี พนักงานว่า เคยมีคนเจอเหมือนกัน
แต่ไม่ได้ร้ายแรงเท่ากรณีของเรา ไอ้กานเลยแอบเดือดนิดหน่อย ว่าทำไมไม่มาทำพิธีไล่ หรือ จัดการอะไรซักอย่าง
พนักงานก็ทำหน้าหงอยๆ พูดเสียงเล็กๆว่า แต่ไม่เคยมีใครตายในนี้นะคะ
เราเลยบอกให้เขาพาพระมาสวด มาทำบุญซะ แต่เราคิดว่าเขาคงเป็นผี ที่อยู่ในป่าข้างๆมากกว่า ไม่ใช่ผีในที่พักนี้
เราเดินทางออกจากที่พักตอน 11 โมง ทุกคนในรถ ไม่พูดอะไรเลยเพราะกลัวในสิ่งที่เรากะไอ้เกี้ยวเจอ ฮ่าๆ
ประสบการณ์ครั้งนี้ คือ การโดนผีอำครั้งแรกในชีวิตเรา ที่หลอนที่สุด ครั้งแรกก็จัดเต็มกันเลยทีเดียว
*แม้ว่าจะเจอสิ่งเล้นลับมามากกว่าครึ่งชีวิต แต่ก็ไม่เคยชินเลยนะ ฮ่าๆ
ไว้จะมาแชร์เรื่อง การเดินทางในป่าหิมพานต์ ของพ่อ อีกนะ