ทริป Backpack ตะลุยทั่วกรุงโซล กินอยู่อย่างราชาแต่งบอย่างยางก 10วันด้วยเงินไม่ถึงหมื่น!!! 11-20 มกราคม ตอนที่4

เมื่อขึ้นไปถึงยอดแล้วพูดได้เลยคะว่าไม่ผิดหวังจริงๆ สวยและบรรยากาศดีมากจนน่าตกใจแต่ก็มีแอบผิดหวังนิดหน่อยเพราะมันไม่ใช่วัด
แต่เป็นศาลาที่พักไว้ในคนเฒ่าคนแก่ที่มาออกกำลังกันบนนี้ได้มานั่งพักผ่อนมากกว่า


          หลังจากเดินรอบเข้ากันหมดแล้วเราจึงตัดสินใจจะเข้าไปดูรูปปั้นประติมากรรมในมหาวิทยาลัยฮงอิกตามที่หนังสือได้แนะนำเราไว้
และเป็นรอการพวกพี่กานต์เลิกงานกันด้วย เพราะอยู่ใกล้กับบ้านพวกพี่เค้ากัน เรารีบนั่งSubwayไปลงสถานนี Hongik Univกัน

แต่เมื่อเข้าไปแล้วเดินหาแล้วหาอีกอยู่นานก็ไม่เจอรูปปั้นแบบในหนังสือสักที จึงเลิกเดินแล้วไปนั่งรอพี่อ๊ะกับพี่โอ๋ที่จะออกมารับพวกเราที่สวนตรงข้ามหน้ามหาวิทยาลัยฮงกิล และตอนนั้นแระเราก็เริ่มถ่ายอปป้าทั่วหลายหรือผู้หญิงน่ารักใสๆมาให้ดูกัน

สวนสาธารณะที่วัยรุ่นนิยมมาร่วมกลุ่มทำกิจกรรมกัน

นักศึกษาที่เจอตอนกำลังจะข้ามถนนหน้ามหาวิทยาลัย

เหล่าอปป้าแถวนั้นเป็นอปป้ากลุ่มแรกที่เราเริ่มถ่ายเลย

          หลังจากรอมาได้สักพักหนึ่งพวกพี่อ๊ะและพี่โอ๋มาได้มารับเราไปบ้าน เพื่อเลี้ยงข้าวพวกเรามีทั้งน้ำพริกกระปิ ไข่เจียว ไก่ทอดและอย่างอื่นอีกเยอะแยะ ถือว่าตั้งแต่มาเกาหลีอาหารที่นี้อร่อยสุดแระ การที่ได้กินอาหารไทยในต่างแดนมันมีความสุขสุดๆไป
หลังจากนั้นด้วยความที่ออมม่ากานต์ใจดีและชอบดื่มนิดหน่อย จึงหยิบเบีร์ยออกมาให้แฟนเราได้นั่งกินเล่นกัน


และออมม่ากานต์ยังได้คิดค้นสูตรใหม่ของไวน์สูตรใหม่ คือการนำโซจูมาผสมกับน้ำองุ่น ผลออกมาคือร่อยคะยิ้ม พี่กานต์นะอร่อยอยู่คนเดียว
คนอื่นที่ได้ลองกินลองครั้งเดียวถึงกับพอกันเลย บวกกับวันนั้นเราไปถูกจังหวะอีกพอดีที่พวกพี่เค้าจะไปเที่ยวที่บาร์ Tuesday's partyอีก
พวกเราจึงตามไปด้วย แต่เพราะพี่เค้ามีธุระด่วนจึงต้องรีบกลับกันเร็วหน่อย แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเกือบตี3แล้วรถไฟไม่มีพี่เค้าจึงให้เรานอนต่อที่บ้าน
เรารู้สึกขอบคุณพี่เค้ามากๆเลย คิดว่าการได้เจอคนไทยดีๆในต่างแดนนี่มันดีมากเลยจริงๆ
ไม่คิดว่าการมาเที่ยวเองครั้งแรกของเราจะออกมาดีมากขนาดนี้เลย  ถ้าพวกพี่ได้เข้ามาอ่านกัน อยากบอกว่า "ขอบคุณมากคะพี่ถ้าไม่ได้พวกพี่พวกเราคงไม่ได้เที่ยวสนุกกันขนาดนี้ ไม่ได้กินของอร่อยและดีขนาดนี้แน่ พี่เลี้ยงข้าวพวกเราต้องหลายมื้อแถมยังให้เรานอนที่บ้านอีกด้วย
ทั้งที่เราพึ่งเจอกันแท้ๆแต่พี่กลับไว้ใจและให้พวกเราในทุกๆอย่าง พาไปทุกๆที่ที่พี่รู้จัก แนะนำสิ่งต่างมากมาย เป็นห่วงพวกเราในทุกๆเรื่อง ถึงแม้เราจะกลับแล้วพี่ก็ยังคิดถึงเราและยังนึกถึงเราทุกครั้งที่ไปบาร์ ฮ่าๆ ๆ  ขอบคุณคะร้องไห้ และยังคิดถึงพวกพี่เสมอนะ หัวใจ "

          หลังจากได้นอนค้างที่บ้านพวกพี่หนึ่งคืน เช้าวันต่อมาหิมะแรกของพวกเราก็ตกลงมาคะ หิมะที่เรารอมาตลอดและคิดว่าจะไม่ได้เจอหิมะแน่ๆเลย แต่ก็ตกไม่หนักแปบเดียวก็หยุดตกแล้ว
          หลังจากนั้นเราก็ได้ออกไปเดินเล่นกับพวกพี่ๆกันที่ฮงแด แถวนี้มีของกินน่ารักๆเยอะมาก ไหนจะเสื้อผ้าสวย ร้านดังต่างอีกเยอะ


แล้วก็เด็กน้อยแก้มแดงๆน่ารักกก

พอเดินเสร็จพี่อ๊ะก็พาพวกเราไปกินน้ำแข็งใส่ ตอนแรกเราก็ งง หนาวแบบนี้มีขายกันด้วยหรอ แต่พอไปถึงร้านเท่านั้นแระ
น่ากินมากกกก มีหลายรสชาติให้เลือกมากมาย ไอเราก็เลือกไม่ถูกเพราะไม่เคยไปกินเลยให้พี่อ๊ะเป็นคนเลือกแทน จ่ายเงินแล้วก็นั่งรอ
และเราจะได้เครื่องแจ้งเตือนมาด้วย ทุกครั้งที่น้ำแข็งใสเสร็จแล้วเครื่องจะสั่นเพื่อบอกให้เราไปรับได้

ส่วนผลออกมาคือ.......น้ำแข็งใสหน้าชีส!! ชีสเน้นๆเต็มๆคำ นี้มันสวรรค์ของคนรักชีสเลยก็ว่าได้


ต้องขอบอกเลยว่าอร่อยมากกก แถมได้เยอะอีกตั้งตากส่วนเรื่องราคาพี่อ๊ะจะเลี้ยงแต่เราเกรงใจมากเลยของหารกับพี่เค้าแทน
ตกละคน2000วอน

ส่วนร้านก็อยู่แถวฮงแดนั้นเอง คนที่จะไปสามารถเข้าไปลองกินได้นะคะ

          หลังจากบอกลากับพวกพี่ๆในตอนเย็นเพื่อกลับหอ เราก็ได้เดินไปแวะกันที่ถนนฮงแดอีกครั้ง วันนี้ที่นี้จะมีวัยรุ่นเยอะมากด้วยความที่เป็นวันศุกร์ทำให้ได้เจอพวกศิลปินข้างมันร้อง เต้นโชว์ความสามารถกันมากในวันนี้



คนนี้เป็นอปป้าที่น่ารักมากกก ได้ยืนข้างๆเรานี่เงยหน้ามองตาไม่กระพริบเลย >///<



คนเดินอินซาดงแหล่งช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยว ขายของพื้นบ้านกันเป็นส่วนใหญ่ แต่เราดันไปวันธรรมดาร้านจึงไม่เปิดมากนัก

          ก่อนกลับหอด้วยความหิวและเบื่อขนมปังที่หอเราเลยแวะซื้อนมกับขนมปังรสหวานกันเพราะลดราคาอยู่

ขนมปังหวานซื้อ1แถม1 ในราคา900วอน

นมรสช็อคโกแลตกำลังลดราคา ซื้อมาในราคา1000วอน แล้วก็กลับหอนอนสิ้นสุดวันแสนพิเศษไปอีกหนึ่งวัน.....

          เช้าวันนี้เราวางแผนจะไปโซลทาวเวอร์หลังจากเราเลื่อนวันที่จะไปมาหลายวัน วันนี้จึงตัดสินใจจะไปให้ได้!!
เริ่มด้วยออกไปกินของทอดร้านมาเฟียใจดีรองท้องก่อนและระหว่างทางเราก็ได้เจอเด็กน้อยน่ารักเพิ่มอีกคน

เดินไปอีกนิดเราก็ยังได้เจอร้านอาหารร้านหนึ่งซึ่งถูกมาก!แถมลดราคา ของแบบนี้จะปล่อยผ่านได้ไงพวกเราเลยเข้าทันที

ร้านนี่พวกเราเรียกกันว่า"ร้านอปป้าหน้าหล่อ" เพราะลูกชายร้านนี้เค้าหล่อจริงๆ แถมใจดีและน่ารักด้วย
ส่วนอาหารเราก็สั่งตามเมนูที่ได้ลดราคากันอยู่ รวมค่าเสียหายทั้งหมดก็ไม่เกิน6000วอน ซึ่งราคาถูกกว่าซื้อข้าวกล่องเซเว่นอีก

          และแล้วก็ถึงเวลาการเที่ยวเอ็น โซลทาวเวอร์หรือนัมซานทาวเวอร์เริ่มด้วยการนั่ง Subway ไปลงสถานนี Myeongdong ทางออกที่3
แล้วเดินบนไปถึงกระเช้าแต่เรามาแบบประหยัดต้องไม่ขึ้น เราจึงเดินขึ้นกันซึ่งมันจะไปบรรยากาศมากกว่าและเหนื่อยมากกว่า


คนที่ไปโซลถ้ามีเวลาแนะนำเลยให้ลองเดินทางไปเอง คุณจะได้บรรยากาศที่หาไม่ได้จากการนั่งกระเช้าเลย


เมื่อเดินขึ้นไปได้สักครึ่งทางมองลงมาคุณจะเห็นรอบๆเมืองของกรุงโซล ภูเขารอบๆซึ่งสวยมากคะบอกเลย

ตามทางที่เดินขึ้นมาคุณจะเห็นคู้รักส่วนใหญ่ทั้งหนุ่มและแก่พากันเดินขึ้นมากันตามทางหลายคู่มาก บางคู่ก็ดูแลกันจนเราอิจฉามากเลย

เมื่อเดินมาสักพักเงยหน้ามองขึ้นไป ห่ะ!!เราใกล้ถึงกันแล้วว ตื่นเต้นมากนะยิ้มยิ้ม แถมเหนื่อยไหมเหนื่อยคะ แต่ก็สนุกมากกว่าด้วย

หลังจากเราพยายามอยู่นานมาก ในที่สุดเราก็ขึ้นมาอยู่กันแล้วและได้เห็นที่ล็อคกุญแจอีกที่ที่มีชื่อเสียงคะ

ซึ่งคนไทยนั้นก็เป็นคนที่เกรียนไม่แพ้ชาติใดในโลก เราจึงจะเห็นภาษาไทยที่เขียนตามราวบันไดเยอะแยะมากมาย

ส่วนบรรยากาศด้านบนหรอ ไม่ต้องพูดถึงเลยสวยมากๆคะ ยิ่งตอนที่เราขึ้นไปถึงอยู่ในช่วงบ่ายๆใกล้เย็นแล้ว บรรยากาศเลยดีตามไปดี


เมื่อเดินกันทั่วแล้วก็รอพระอาทิตย์ตกอีกหน่อย เพราะตอนนั้นก็ใกล้ที่จะตกแล้วพี่คนว่ามันสวยมากๆเลย
ด้วยความที่รอแล้วไม่มีอะไรทำเราเลยนั่งถ่ายรูปเด็กที่อยู่บริเวณ ซึ่งบอกได้เลยว่าน่ารักมากกก



3พี่น้อง3ใบเถา แต่เหมือนคนน้อยจะถูกแม่บังคับให้ถ่ายรูป ยิ้ม


ต่อด้วยเด็กน้อยขวัญใจเราเอง แถมได้เจออปป้าน่ารักๆบนนั้นด้วย

          และแล้วเวลาที่เรารอก็มาถึง เวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกเป็นภาพที่สวยงามมากคะ สักครั้งของคนที่ได้ไปต้องดูให้เห็นกับตาให้ได้นะ


หลังจากดูพระอาทิตย์ตกเสร็จเราก็เดินลงกันคะ ซึ่งตอนนั้นหนาวมากขาก็ปวดเพราะด้วยความหนาว รู้สึกเหมือนกระดูกจะหักเลยแต่ก็ต้องยอมเดินลงไม่ลงกระเช้า เพราะอยากเก็บบรรยากาศตอนกลางคืนให้มากที่สุด

หลังกลับจากเที่ยวเราแวะกินข้าวกันที่ร้านบริเวณหอพักกัน ร้านนี้เราให้ชื่อว่า "ร้านหมูทอดหนาว" เราตัดสินใจเข้าเพราะเห็นหมูทอดชิ้นใหญ่และหนาวเพราะเราได้นั่งติดประตู เวลาคนเข้าหรือออกนี่มันหนาวมากจริงๆคะ


ส่วนอาหารเป็นลองจัปป้งและสตูกิมจิมากินด้วย ด้วยความที่ประหยัดมาตลอดทั้งทริปทำให้เราพอเหลือเงินกันบางก็เลยจะกินของที่อยากกิน
แต่ก็ต้องอยู่ในราคาที่ประหยัดกันอีกด้วย

          หลังจากกินเสร็จเราก็ไปต่อกันที่ Emart ไม่ได้ไปซื้อของนะคะแต่ไปเล่น wifi ฟรี เราไปแบบไม่ได้เช่า wifi เพราะราคาแพงแน่เราอยู่หลายวันนี่ เลยตัดสินใจไปหาเล่นฟรีตามสถานที่ Subway ห้างหรือตามสถานที่ต่างๆที่มีให้เล่นฟรี
          ถามว่าเร็วไหม เร็วมากคะ ประหยัดมากอีกตั้งหาก เราเลือกไปเล่นที่ห้างเพราะมีที่นั่งให้นั่งสบายๆ มีฮิตเตอร์ให้ สบายกว่านั่งเล่นใน Subway แน่นอนคะ

>>>>>>>>>สามารถติดตามอ่านความสนุกในการใช้ชีวิตแบบงบน้อยได้ต่อตอนที่5ได้นะคะ อาจเยอะไปหน่อยเพราะรูปมันเยอะมาก
อยากให้ทุกคนที่กำลังจะไปได้ศึกษาสถานที่ท่องเที่ยว ภาพความสวยงามต่างกันไปด้วยอ่ะคะ http://ppantip.com/topic/33280777
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่