จากรัฐสภา ถึงมหาเถรสมาคม
การเมืองขึ้นอยู่กับความเชื่อ ส่วนศาสนาขึ้นอยู่กับความศรัทธา
เมื่อความเชื่อของประชาชนต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์หมดไป เพราะได้ใจเอา "ร่างพรบ.นิรโทษกรรม" มาดัดแปลงดีเอ็นเอเข้าสู่สภา ฝ่ายตรงข้ามฉวยโอกาส "นาทีทอง" ปั่นกระแส "มวลมหาประชาชน" อันบริสุทธิ์เพื่อใช้เป็นประโยชน์กับตัวเอง
ถึงขั้นล้มการเลือกตั้ง ยึดสถานที่ราชการ อ้างการปฏิรูป บอกว่ามีการทุจริต คอรัปชั่น
โอกาสอันมีน้อยนิด ต้องรีบตีบท "เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" เมื่อสู้บนกระดานไม่ได้ ก็ต้องล้มกระดาน แล้วมานั่งนับหนึ่งกันใหม่
จากเรื่องการเมืองมาถึงเรื่องศาสนา
มหาเถรสมาคมประกอบด้วยพระชั้นผู้ใหญ่ มีกฎระเบียบวิถีทางของสงฆ์ เมื่อเกิดปัญหาธัมมชโย วัดธรรมกาย จะอาบัติหรือปราชิกก็แล้วแต่ ย่อมไม่สามารถใช้วิธีการข้างถนน อย่างที่พระนักเลงอย่างพุทธะอิสระเคยทำมาในอดีตสมัยการเมือง ที่ทั้งปิดถนน ไล่ทำร้ายผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา เพราะโลกของธรรมะย่อมแตกต่างจากโลกของการเมืองอย่างสิ้นเชิง
แต่พุทธะอิสระ "อวดอุตริ" ร่วมกับแก๊งขาประจำไม่ว่า นายไพบูลย์ นายเจิมศักดิ์ รับลูกกันใช้ความเสื่อมศรัทธามาขยายผลเหมือนที่เคยทำสำเร็จในทางการเมืองมาก่อน
พุทธศาสนิกชนลองตรองดูเถิด แต่ก่อนไฟการเมืองลามทุ่งเป็นกาฝากขึงพืดประเทศไทย จนถึงบัดนี้ ไฟกำลังจะลามเป็นกาฝากศาสนา
ผมไม่เชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ศรัทธาพุทธะอิสระ เพราะผมรู้ไส้รู้พุงจนถึงกระดูก
ผมจึงไม่ช่วย แต่ต้องออกมาขวาง หรือจะปล่อยให้ฉวยโอกาสกันอีก?
"ชูวิทย์"ซัดกลับ! พุทธะอิสระ "อวดอุตริ" เหน็บ ไม่เชื่อปชป.ไม่ศรัทธา
การเมืองขึ้นอยู่กับความเชื่อ ส่วนศาสนาขึ้นอยู่กับความศรัทธา
เมื่อความเชื่อของประชาชนต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์หมดไป เพราะได้ใจเอา "ร่างพรบ.นิรโทษกรรม" มาดัดแปลงดีเอ็นเอเข้าสู่สภา ฝ่ายตรงข้ามฉวยโอกาส "นาทีทอง" ปั่นกระแส "มวลมหาประชาชน" อันบริสุทธิ์เพื่อใช้เป็นประโยชน์กับตัวเอง
ถึงขั้นล้มการเลือกตั้ง ยึดสถานที่ราชการ อ้างการปฏิรูป บอกว่ามีการทุจริต คอรัปชั่น
โอกาสอันมีน้อยนิด ต้องรีบตีบท "เอาดีเข้าตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" เมื่อสู้บนกระดานไม่ได้ ก็ต้องล้มกระดาน แล้วมานั่งนับหนึ่งกันใหม่
จากเรื่องการเมืองมาถึงเรื่องศาสนา
มหาเถรสมาคมประกอบด้วยพระชั้นผู้ใหญ่ มีกฎระเบียบวิถีทางของสงฆ์ เมื่อเกิดปัญหาธัมมชโย วัดธรรมกาย จะอาบัติหรือปราชิกก็แล้วแต่ ย่อมไม่สามารถใช้วิธีการข้างถนน อย่างที่พระนักเลงอย่างพุทธะอิสระเคยทำมาในอดีตสมัยการเมือง ที่ทั้งปิดถนน ไล่ทำร้ายผู้คนที่สัญจรผ่านไปมา เพราะโลกของธรรมะย่อมแตกต่างจากโลกของการเมืองอย่างสิ้นเชิง
แต่พุทธะอิสระ "อวดอุตริ" ร่วมกับแก๊งขาประจำไม่ว่า นายไพบูลย์ นายเจิมศักดิ์ รับลูกกันใช้ความเสื่อมศรัทธามาขยายผลเหมือนที่เคยทำสำเร็จในทางการเมืองมาก่อน
พุทธศาสนิกชนลองตรองดูเถิด แต่ก่อนไฟการเมืองลามทุ่งเป็นกาฝากขึงพืดประเทศไทย จนถึงบัดนี้ ไฟกำลังจะลามเป็นกาฝากศาสนา
ผมไม่เชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ศรัทธาพุทธะอิสระ เพราะผมรู้ไส้รู้พุงจนถึงกระดูก
ผมจึงไม่ช่วย แต่ต้องออกมาขวาง หรือจะปล่อยให้ฉวยโอกาสกันอีก?