เล่าประสบการณ์ความรักครั้งที่เลวร้ายที่สุดที่เปลี่ยนชีวิตได้ถึงขนาดนี้

>>> สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าผมเป็นเกย์ ตอนนี้ผมอายุ23ปี เรื่องที่ผมจะเล่านี้เป็นเรื่องจริงนะครับที่เกิดขึ้นมากับตัวผม แทบไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ขนาดพ่อแม่ปัจจุบันก็ยังไม่รู้เลย ว่าลูกตัวเองไปเจออะไรมาหนักขนาดนี้ # ชีวิตของผมผ่านความรักมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยจะมีครั้งไหนที่สมหวัง
ผมมีแฟนครั้งแรกตอนม.6เป็นรักครั้งแรกแฟนคนแรกและครั้งแรกของผม แต่สุดท้ายก็เลิกกันเพราะว่าเขามีแฟนที่คบกันมานานแล้ว แต่ว่าเขามาหลอกผมว่า เขาไม่มีแฟน สุดท้ายเขาก็ต้องเลือกแฟนเขา หลังจากนั้นผมก็ผ่านชีวตรักมาหลายครั้ง ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน มีครั้งที่น่าจดจำและที่ไม่น่าจดจำบ้างปะปนกันไป   แต่มีครั้งหนึ่งที่ ทำให้ผมจดจำได้ตลอด และไม่มีวันลืมอดีตรักอันเลวร้ายนั้น แต่ก็เพราะความรักครั้งนั้นที่ทำให้ตัวผมเองเข้มแข็งได้ขนาดนี้ ต้องขอบคุณจริงๆ

เริ่มเลยนะครับ เรื่องมันเกิดขึ้นตอนสมัยผมเป็นนักศึกษาอยู่มหาลัยปี2 ผมอยู๋เด็กต่างอำเภอ เมื่อจบม.6ผมก็ย้ายเข้ามาเรียนมหาลัยในอำเภอเมือง ผมเป็นอินดี้ อยู่หอคนเดียวไม่ชอบอยู่กับใคร ผมเจอกับแฟนคนนี้ผ่านทางแคมฟรอก(ไม่ขอบอกชื่อเขานะครับ เอาเป็นว่าชื่อที่ผมใช้เรียกเขาหลังเลิกกับเขาจนถึงปัจจุบัน ผมเรียกแฟนคนนี้ว่า..."ไอ้ปีศาจ" เพราะว่าสำหรับผมแล้วเขาคือปีศาจที่น่ากลัวมากที่สุดในความทรงจำผม) เราได้นัดเจอ คุยกัน ออกเดทกัน และตกลงเป็นแฟนกันภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เขาทำงานเป็นเด็กนวดอยู่ร้านนวดเกย์ พักอยู่กับพี่ๆที่ทำงานที่ร้านนั้น ผมก็อยู๋หอคนเดียว เห็นว่าเป็นแฟนกัน เลยให้เขามาอยู่ด้วย ทุกวันก่อนที่ผมจะไปเรียน ผมต้องไปส่งเขาที่ทำงานทุกวัน เพราะว่าเขาขับรถมอไซด์ไม่เป็น และตอนดึกๆผมต้องไปรับเขากลับมาและหาอะไรทานก่อนกลับหอไปนอน เหตุการณ์เป็นอย่างนี้เหมือนเช่นทุกวัน เขาบอกผมว่าเขาเป็นโรคหัวใจ ผมคอยดูแลเอาใจใส่เขามาตลอดเลยครับ แต่แรกผมกับเขารักกันมาก เขารักผม ผมรักเขา วางแผนชีวิตด้วยกัน เพราะว่าเขาเป็นคนแรกและคนเดียวและคนสุดท้ายที่ได้อยู่หอด้วยกัน เพราะว่านับจากเลิกกับเขาผมไม่เคยใช้ชีวิตอยู่หอแบบแฟนกับใครคนไหนอีกเลย เดือนแรกความรักหวานชื่น ดำเนินไปได้ด้วยดีตลอด เขาบอกรักผมและร้องไห้ต่อหน้าผมทำซึ้งตลอด พอหลังจากนั้นเดือนที่สอง สาม และสี่ ที่คบกันมันคือความสุขปนทุกข์ชัดๆ
ผมนอนกับเขา บางทีเขาก็ไม่นอน เขาชอบมานั่งที่ปลายเตียงและร้องไห้ เขาบอกว่าเขาคิดมาก เรื่องอะไรก็ไม่รู้ ผมต้องคอยปลอบใจเขา ตี1ตี2ก็ยังไม่นอนกัน พอหนักๆเข้า เขาคิดจะฆ่าตัวตาย โดยการเอาผงซักฟอกเข้าไปกินในห้องน้ำบ้าง กินยาพาราเป็นกระปุกบ้าง ผมไม่รู้ว่าเขา เรียกร้องความสนใจ หรือว่าเขาเป็นโรคจิตอ่อนๆรึป่าว พอหนักๆมากเข้าเขาเดินกลับบ้านคนละจังหวัด ผมก็ต้อขับรถไปตามเขากลับมาเพราะว่ากลัวเขาจะเป็นอันตรายระหว่างทาง  แต่ที่ยอมทำทุกอย่างก็เพราะรักเขามาก บางทีเขาจะไป ผมยังเคยกอดขาเขาร้องไห้ แล้วบอกว่า .. "อย่าไป!! ไหนบอกจะไม่ทิ้งกันไง"ร้องไห้ไม่ร็ตอนนั้นทำไปได้ยังไง เหมือนในหนังน้ำเน่าเลย แต่อันนี้ชีวิตจริงนะ) บ้างก็จะกัดลิ้นหรือว่าบีบคอตัวเองตาย ผมต้องคอยจับเอามืออก และคอยเอามือผมแหย่เข้าไปในปากเพื่อไม่ให้เขากัดลิ้น บางทีเขาเป็นหนักมากถึงขนาดฉีกเสื้อตัวเอง แล้วเอาดินสอแทง เลือดไหลซิบๆต่อหน้าผมเลย แล้วก็บอกว่า"ไม่เชื่อใช่มั้ยว่าผมรักคุณมากแค่ไหน" ช่วงนี้มันทำให้ผมไม่ได้หลับได้นอนเลยครับ ทะเลาะกันเสียงดังมาก จนเจ้าของหอแทบจะให้ย้ายหอออกเลย เพียงเพราะว่าเราต้องห้ามคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายแทบทุกวัน บางทีถึงขนาดเอามีดจะปาดคอตัวเอง ผมห้ามเขา เขานั่งค่อมผม แล้วเอามีดใส่มือผมให้แทงเขา แต่ผมไม่ทำ ผมบอกเขาว่า "พ่อแม่ผมไม่เคยสั่งสอนให้ทำร้ายใคร" แต่ข้อดีของเขาก็มีนะครับเวลาที่เขาทำงานได้เงินมาเขาจะให้ผมตลอด อยากได้อะไรหาให้ทุกครั้ง  เขาบอกว่ารักผมคนเดียว แต่แล้วเขาก็ไม่ได้มีผมคนเดียวจริงๆ วันนั้นก่อนผมไปเรียนผมนั่งเล่นคอมอยู่ ผมเหลือบไปเห็นโทรศัพท์เขา เขียนว่า ครั้งนึง ณ สถานีรถไฟ เราก็งง เอ๊ะ! มันคืออะไร ผมกวาดสวยตาไปที่เบอร์โทร แล้วก็เมมใส่สมองไว้ พอผมไปมหาลัย ผมแอบโทรหาคนนั้นว่าเขาคือใคร ผมแกล้งบอกว่าเป็นเพื่อนเขา เขาบอกว่า "เขาเคยนัดเจอกันแล้ว เมื่อกี้เขาบอกว่าแฟนผมยังโทรไปบอกรักเขาแล้วร้องไห้อยู่เลย" พอคุยเสร็จผมวางหู แล้วโทรไปเคลียร์กับเขา เขาเลือกผมและบอกเเลิกกับคนนั้นไป แต่ความรู้สึกผมสิ มันดันไม้เหมือนเดิมแล้ว จากเหตุการณ์นี้บวกกับเหตุการณ์ที่ผมเจอมา มันทำให้ผมเริ่มหมดรักเขา และเวลาที่เขาจะทำอะไรเริ่มไม่ค่อยสนใจ **และเหตุการณ์ที่ทำให้ผมตาสว่างคือ ครั้งสุดท้ายที่เขาจะเอามีดแทงตัวเอง เหมือนอย่างเช่นครั้งที่แล้ว เขานั่งค่อมผม และจะเอามีดแทงเขาเอง ครั้งนี้ผมไม่ห้าม อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ผมหลับตาและหันหัวหนี สรุปว่า เขาไม่แทง จากเหตุการณ์นี้มันทำให้ผมตาสว่างขึ้นมาเลย ภาพทุกอย่างมันแว๊บขึ้นมาในหัว ทั้งที่ตอน เอายาพาราหรือว่าผงซักฟอกเข้าไปกินในห้องน้ำ แสดงว่าว่าก็ไม่ทำจริงสิ ทุกอย่างมันคือการหลอกลวง เรียกร้องความสนใจทั้งนั้น มันทำให้ผมไม่ได้รักเขาอีกแล้ว คิดว่าจะเลิกกับเขายังไง มันมีแต่ความกลัวและระแวงเข้ามาแทน
***เหตุการณ์ช่วงสุดท้ายก่อนจะเลิกกัน เขาบอกผมว่าเขาจะไปหาญาติที่หัวหิน ช่วงนั้นช่วงปิดเทอม ผมไปทำงานร้านอาหาร เขาโทรบอกผมว่าจะกลับแล้ว ผมคุยและตอบเขาด้วยเสียงเย็นชา พอผทเลิกงานกลับห้อง เขางัดหน้าต่างเข้าไปนั่งรอผมที่ห้องแล้ว
>> เขาถามผมว่า "จะเลิกกับกูจริงๆใช่มั้ย" (ขอโทษที่ใช้สภาษาไม่สุภาพนะครับ มันได้ฟีลนั้นดี)ผมพูดคำเดียวสั้นๆว่า "อึม" มันบอกว่า "ได้ งั้นถ้าจะเลิกกับกู กูจะไม่ไปไหนจนกว่าจะเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ที่กูให้คืนมา รวมทั้งของด้วย"  ผมเป็นคนตัวเล็กๆคงไม่มีทางสู้เขาได้แน่นอน แถมเขายังขู่ว่าจะบอกเรื่องนี้กับที่บ้านผมด้วย  ผมเครียดมากเลยครับ ด้วยความที่ผมอยากเลิก ผมไปกดเงินเก็บในบัญชีทั้งหมดมาให้เขาในคืนนั้น เพื่อนที่จะให้ไอ้ปีศาจตัวนี้ไปจากชีวิตซะที ผมเอาโทรศัพท์ที่เขาซื้อให้คืนเขาไป ทั้งที่โทรศัพท์เครื่องเก่าที่ใช้มันพัง เขาเอาเงินผมและโทรศัพท์แล้วจากไป แถมผลักหัวจนล้มและตบหน้าอีกด้วย แล้วเขาก็เดินจากไป ผมได้แต่ร้องไห้ และไม่เงินติดตัว มีแต่เหรีญที่หยอดออมสินไว้ เอาไงดี? เล่าให้พ่อแม่ฟังก็ไม่ได้ มืดแปดด้าน ผมขับรถไปร้องไห้ไป เขานั่งTaxiแถมยังชโงกหัวออกมาด่าผมซ้ำอีกด้วย ผมขับรถไฟนั่งร้องไห้ที่ริมแม่น้ำ(สวนสารธารณะ) จนเกือบเช้า ที่ร้องไห้เสียใจไม่ใช่เพราะว่าเลิกกันนะ เพราะว่ามันเสียใจที่ คนที่เรารักและดูแลเขามาตลอด สุดท้ายแล้วเผยธาตุแท้มันร้ายมากกว่าที่เราคิดไว้ซะอีก ใครจะไปคิดว่าคนที่มาแต่ตัวกับกระเป๋าใบเดียว อย่างอื่นอาศัยเราทุกอย่าง สุดท้ายแล้วจะทำกับเราได้ไม่ไยดีได้ถึงเพียงนี้ # พอเสร็จผมขับรถกลับ แล้วไปเอาตังค์เหรืชรีญในกระปุ๊กออมสิน หยอดตู้โทรศัพท์โทรหาแม่ และขอเงินมาซ่อมโทรศัพท์ ผมเครียดกลัวว่าเขาจะฟ้องที่บ้านและที่บ้านจะรู้เรื่องถึงขนาดเรียนไม่ได้เหม่อลอยอยู่พักนึง แล้วก็ตัดสินใจกลับไปพักใจที่บ้าน มันก็ไม่ได้มีอะไไรเลวร้ายอย่างที่คิดไว้นี่ แล้วกลับมาเรียนและเวลาที่อยู่กับเพื่อนๆตอนเรียนมันก็ทำให้เราหายเครียด พอนานๆไปก็หายดีขึ้น และสุดท้ายแผลก็หายสนิท และทำให้ผมเป็นคนเข็มแข็ง ไม่เสียใจร้องไห้เพราะความรัก ไม่มีน้ำตา จนถึงปัจจุบัน เพราะว่าร้องหมดกับวันนั้นแล้ว
หลังจากนั้นเกือบปีผมได้มาเจอกับผ็ชายคนนึง ผมรักเขามาก เรารักกัน สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน เพราะว่าผมบอกเเลิกเขา เหตุผล เพราะว่า เขาเป็นเสือไบ เขาไปทำผู้หญิงท้อง ผมก็ไม่อยากไปพากลูกพากพ่อจากใคร อีกอย่างเด็กก็ต้องการพ่อ และตัดสินใจบอกเลิก ทั้งๆที่ยังรัก แต่แปลกครั้งนี้รักมากแต่ไม่ร้องไห้เลย เรื่องผมกับผู้ชายคนนี้ก็มีอีกเยอะและยาวนะครับเดี๋ยววันหลังมาเล่าอีกนะ

นับตั้งแต่ที่ผมเลิกกับไอ้ปีศาจ ผมไม่เคยร้องไห้ให้ความรักเพราะใครคนไหนอีกเลย แม้กระทั่งคนที่คบกันมาที่รักมากกว่าไอ้ปีศาจ ผมยังไม่ร้องไห้เลย ต้องขอบคุณความรักครั้งนั้นจริงๆที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้จนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณที่เขามาอ่านเรื่องงี้เง่าๆของผมนะครับ เรื่องจริง ประสบการณ์จริง ครับไม่แต่ง สาบานได้ ,อยากจะเอามาแชร์ให้เพื่อนๆพี่ฟัง ว่าความรักครั้งที่เลวร้ายที่ทำให้เราเกือบจะคิดฆ่าตัวตาย แต่เราก็ผ่านมันมาได้ และตอนนี้เข็มแข็งมากอีกด้วย ทุกคนที่เจอเหตุกันเลวร้ายๆก็ต้องผ่านมันมาได้เช่นกันนะครับ.....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่