อ่านข่าวข้างล่างนี้แล้ว ยอมรับว่า กรูงง
http://www.thairath.co.th/clip/13268
ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในช่วงขาลงหลังจากที่ EIA ของสหรัฐรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์ที่แล้วสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนราคาทองคำร่วงลงไปบาทละ 150 บาท
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือ EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 425.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล ถือว่าเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ EIA เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1982
ข้อมูลนี้กดดันให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดที่ 51 ดอลลาร์ 16 เซนต์ ร่วงลงไป 98 เซนต์ น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 32 เซนต์ อยู่ที่ 60 ดอลลาร์ 21 เซนต์ ส่วนน้ำมันดิบดูไบ ปิดทำการ เช่นเดียวกับตลาดน้ำมันสำเร็จรูปที่ประเทศสิงคโปร์ ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีน ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันในบ้านเรายังอยู่ในระดับต่ำ
ส่วนราคาทองคำวันนี้ปรับราคา 2 ครั้งแล้ว ร่วงลงไปบาทละ 150 บาท ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 18,550 บาท ขายออกบาทละ 18,650 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 18,282 บาท 96 สตางค์ ขายออกบาทละ 19,050 บาท
ค่าเงินบาทเปิดตลาดยังทรงตัว เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ที่น่าสนใจ แม้จะมีข่าวว่าเยอรมนีขวางกรีซขอขยายระยะเวลาเงินกู้ในข้อตกลงความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ออกไปอีก 6 เดือน เงินดอลลาร์สหรัฐขาย 32 บาท 17 สตางค์ รับซื้อ 32 บาท 79 สตางค์ เงินเยนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ขาย 28 บาท 17 สตางค์ ต่อ100 เยน รับซื้อ 27 บาท 1 สตางค์ต่อ 100 เยน
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการ โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้ายืนอยู่ในแดนบวก ดัชนียังคงเคลื่อนไหวที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าเพิ่มขึ้น 58.38 จุด หรือเพิ่มร้อยละ 0.32 แตะที่ 18,323.17 จุด
ราคาสินค้าเกษตรวันนี้ น้ำมันปาล์มลดต่อเนื่องลงมาเป็นวันที่ 4 ซึ่งวันนี้ลดลงมาอีก 2 สตางค์ ราคาล่าสุดบริษัท แสงศิริน้ำมันปาล์มสุราษฏร์ธานีอยู่ที่ 5 บาท 50 สตางค์ ส่วนราคาสินค้าเกษตรอื่นๆอยู่ในระดับเดิม
โลกราคาน้ำมันร่วงต่อเนื่อง - ไทยขึ้นต่อเนื่อง
http://www.thairath.co.th/clip/13268
ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในช่วงขาลงหลังจากที่ EIA ของสหรัฐรายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์ที่แล้วสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนราคาทองคำร่วงลงไปบาทละ 150 บาท
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือ EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบคงคลัง ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 7.7 ล้านบาร์เรล อยู่ที่ 425.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล ถือว่าเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ EIA เริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1982
ข้อมูลนี้กดดันให้ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดที่ 51 ดอลลาร์ 16 เซนต์ ร่วงลงไป 98 เซนต์ น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 32 เซนต์ อยู่ที่ 60 ดอลลาร์ 21 เซนต์ ส่วนน้ำมันดิบดูไบ ปิดทำการ เช่นเดียวกับตลาดน้ำมันสำเร็จรูปที่ประเทศสิงคโปร์ ปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีน ขณะที่ค่าการตลาดน้ำมันในบ้านเรายังอยู่ในระดับต่ำ
ส่วนราคาทองคำวันนี้ปรับราคา 2 ครั้งแล้ว ร่วงลงไปบาทละ 150 บาท ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 18,550 บาท ขายออกบาทละ 18,650 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อที่บาทละ 18,282 บาท 96 สตางค์ ขายออกบาทละ 19,050 บาท
ค่าเงินบาทเปิดตลาดยังทรงตัว เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ที่น่าสนใจ แม้จะมีข่าวว่าเยอรมนีขวางกรีซขอขยายระยะเวลาเงินกู้ในข้อตกลงความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ออกไปอีก 6 เดือน เงินดอลลาร์สหรัฐขาย 32 บาท 17 สตางค์ รับซื้อ 32 บาท 79 สตางค์ เงินเยนเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ขาย 28 บาท 17 สตางค์ ต่อ100 เยน รับซื้อ 27 บาท 1 สตางค์ต่อ 100 เยน
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดทำการ โดยดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้ายืนอยู่ในแดนบวก ดัชนียังคงเคลื่อนไหวที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าเพิ่มขึ้น 58.38 จุด หรือเพิ่มร้อยละ 0.32 แตะที่ 18,323.17 จุด
ราคาสินค้าเกษตรวันนี้ น้ำมันปาล์มลดต่อเนื่องลงมาเป็นวันที่ 4 ซึ่งวันนี้ลดลงมาอีก 2 สตางค์ ราคาล่าสุดบริษัท แสงศิริน้ำมันปาล์มสุราษฏร์ธานีอยู่ที่ 5 บาท 50 สตางค์ ส่วนราคาสินค้าเกษตรอื่นๆอยู่ในระดับเดิม