ศาลฎีกาพิพากษาให้กรุงเทพมหานครจ่ายเงินชดเชยญาติผู้เสียชีวิต 12 คนจากเหตุโป๊ะของท่าเรือพรานนกล่ม พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2539 รวมเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท

คดีอุบัติเหตุโป๊ะของท่าเรือพรานนกล่ม โดยนางไสว ภู่สุวรรณ พร้อมพวกรวม 12 คน ซึ่งเป็นญาติผู้เสียชีวิตเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท สุภัทรา จำกัด, บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา, กรุงเทพมหานคร และกรมเจ้าท่า เป็นจำเลยที่ 1 ถึง 4 ว่ากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้ บริษัทเอกชนผู้ถูกฟ้องได้ชดใช้ให้กับผู้เสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่งจนมีการถอนฟ้อง ขณะที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องกรมเจ้าท่า จึงเหลือเพียงกรุงเทพมหานครที่ต่อสู้คดีมาจนถึงชั้นศาลฎีกา วันนี้ (18 ก.พ.2558) ศาลฎีกาพิพากษาให้กรุงเทพมหานครต้องจ่ายเงินชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 12 คน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,616,241 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ฟ้องเมื่อปี 2539 ซึ่งเมื่อรวมดอกเบี้ยแล้วเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท

โดยศาลให้เหตุผลว่า เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีหน้าที่ควบคุมดูแลท่าเรือให้เกิดความปลอดภัย แต่ประมาทเลินเล่อ ไม่ดูแล จนเกิดอุบัติเหตุมีประชาชนบาดเจ็บและเสียชีวิต ถือเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของจำเลย

เหตุการณ์โป๊ะล่มที่พรานนกเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 14 มิถุนายน 2538 ขณะเรือด่วนเข้าเทียบท่าที่ท่าน้ำพรานนกในชั่วโมงเร่งด่วน โป๊ะได้เกิดล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 29 คน
http://news.sanook.com/1750753/
ที่สงสัยคือ ศาลฎีกาพิพากษาให้กรุงเทพมหานครต้องจ่ายเงินชดใช้เงินแก่ผู้เสียหาย 12 คน แต่ในเหตุการณ์โป๊ะล่มมีผู้เสียชีวิต 29 คน แล้วญาติผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 17 คน ทำไมไม่ได้ค่าเสียหายด้วยครับ หรือไม่ได้ร่วมฟ้องคดีด้วย เลยไม่ใช่ผู้เสียหาย หรือยังไงครับ ใครรู้ช่วยอธิบายหน่อยครับ