ก็สงสัยมานานแล้วล่ะครับ
นั่นคือเรื่อง
ตัวเลขปิดปัญชีโครงการจำนำข้าว
คุณกิตติรัตน์โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "
ปิดบัญชีฯ โครงการก็ยังทำกันไม่ถูกต้องเรียบร้อย"
https://www.facebook.com/kittiratt.naranong.1/posts/840262322699361
ผมเลยสงสัยว่า ไอ้หลักฐานอย่างนี้ ป.ป.ช. นำมาเป็นหลักฐานการกล่าวหา ชี้มูล และส่งฟ้องได้ยังไง
อัยการสูงสุด เห็นดีเห็นงามได้ด้วยยังไง
มันหลุดโลกเกินไป
อย่างที่รู้กันนะครับ ประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการนี่ คือ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง
ปิดบัญชีที ก็ให้ข่าวโจมตีโครงการที จนรัฐบาลเขารำคาญ เอาออกจากประธาน
แล้วก็เป็นข่าวว่า เพราะแฉการทุจริต เลยโดนรังแก
ความจริงแล้ว ผมว่า น.ส.สุภา นั่นแหละน่าจะรู้ตัวดีที่สุด ว่าตัวเองทำงานอย่างไร
ตัวเลขปิดปัญชีไม่ตรงกัน แค่นี้มันก็ชัดแล้วว่า เป็นการทำบัญชีที่ไม่ปกติ หมกเม็ด
พอ ป.ป.ช. ไต่สวน คุณสุภาก็ไปเป็นพยานเล่นงานรัฐบาล
บัญชีที่ตัวเลขพิการ ป.ป.ช. ก็ยังหน้ามึนเอาไปเป็นหลักฐาน
แปลกนะครับ ตัวเลขพิการ คนให้ปากคำให้ปากคำยังไง ป.ป.ช.เชื่อได้ไง
เพราะถึงจะให้การดีอย่างไร แต่เมื่อตัวเลขมันพิการ มันก็เชื่อไม่ได้แล้ว แต่ยังเชื่อกัน ยังมึนเอาเป็นหลักฐานเอาผิด
เรื่องตัวเลขพิการนี่ คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เคยทำหนังสือทักท้วง ป.ป.ช. ว่าไม่น่าใช้หลักฐานได้
แต่ ป.ป.ช. เฉย
และวันนี้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ก็ไปนั่งชูคอเป็น ป.ป.ช.
ไม่รู้เป็นการตบรางวัลกันหรือเปล่า เกษียณแล้ว มีบำนาญกิน
ยังได้เป็น ป.ป.ช. เดือนแสนกว่าบาท ตั้งที่ปรึกษา มีเลขาฯ มีรถประจำตำแหน่ง มีสวัสดิการ มีอำนาจ
เป็นรางวัลก้อนโตเลยล่ะครับ
วาระการดำรงตำแหน่ง ป.ป.ช. 9 ปี เชียวนะครับ
(หากอายุถึง 70 ก่อน 9 ปี ก็หมดวาระก่อน)
คุณสุภานี่ จะเป็น ป.ป.ช. ไปอีก 9 ปีเต็ม ๆ
สบายแฮ
ที่ผมสงสัยก็คือ เมื่อตัวเลขมันพิการ ถึงชั้นศาลแล้วจะเป็นอย่างไร
อย่าลืมนะครับ ตามหลักนั้น มีข้อเคลือบแคลงแม้เพียงนิด ยกประโยชน์ให้จำเลย
แล้วทำไม ป.ป.ช. ถึงกล้านำหลักฐานอย่างนี้เข้าไปในสำนวนฟ้อง
แล้วทำไม อัยการสูงสุดเห็นดีเห็นงามด้วย
นี่คงเพราะ คำพิพากษาถูกเขียนไว้แล้วนั่นเอง
ฟันทอม !!!
จากที่คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง โพสต์เฟซบุคด่า ป.ป.ช. (ด่าแบบผู้ดี ผู้ร้ายหน้าด้านคงไม่รู้สึก) ผมก็สงสัยเรื่องหนึ่งครับ
ก็สงสัยมานานแล้วล่ะครับ
นั่นคือเรื่อง ตัวเลขปิดปัญชีโครงการจำนำข้าว
คุณกิตติรัตน์โพสต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ปิดบัญชีฯ โครงการก็ยังทำกันไม่ถูกต้องเรียบร้อย"
https://www.facebook.com/kittiratt.naranong.1/posts/840262322699361
ผมเลยสงสัยว่า ไอ้หลักฐานอย่างนี้ ป.ป.ช. นำมาเป็นหลักฐานการกล่าวหา ชี้มูล และส่งฟ้องได้ยังไง
อัยการสูงสุด เห็นดีเห็นงามได้ด้วยยังไง
มันหลุดโลกเกินไป
อย่างที่รู้กันนะครับ ประธานคณะกรรมการปิดบัญชีโครงการนี่ คือ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง
ปิดบัญชีที ก็ให้ข่าวโจมตีโครงการที จนรัฐบาลเขารำคาญ เอาออกจากประธาน
แล้วก็เป็นข่าวว่า เพราะแฉการทุจริต เลยโดนรังแก
ความจริงแล้ว ผมว่า น.ส.สุภา นั่นแหละน่าจะรู้ตัวดีที่สุด ว่าตัวเองทำงานอย่างไร
ตัวเลขปิดปัญชีไม่ตรงกัน แค่นี้มันก็ชัดแล้วว่า เป็นการทำบัญชีที่ไม่ปกติ หมกเม็ด
พอ ป.ป.ช. ไต่สวน คุณสุภาก็ไปเป็นพยานเล่นงานรัฐบาล
บัญชีที่ตัวเลขพิการ ป.ป.ช. ก็ยังหน้ามึนเอาไปเป็นหลักฐาน
แปลกนะครับ ตัวเลขพิการ คนให้ปากคำให้ปากคำยังไง ป.ป.ช.เชื่อได้ไง
เพราะถึงจะให้การดีอย่างไร แต่เมื่อตัวเลขมันพิการ มันก็เชื่อไม่ได้แล้ว แต่ยังเชื่อกัน ยังมึนเอาเป็นหลักฐานเอาผิด
เรื่องตัวเลขพิการนี่ คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เคยทำหนังสือทักท้วง ป.ป.ช. ว่าไม่น่าใช้หลักฐานได้
แต่ ป.ป.ช. เฉย
และวันนี้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ก็ไปนั่งชูคอเป็น ป.ป.ช.
ไม่รู้เป็นการตบรางวัลกันหรือเปล่า เกษียณแล้ว มีบำนาญกิน
ยังได้เป็น ป.ป.ช. เดือนแสนกว่าบาท ตั้งที่ปรึกษา มีเลขาฯ มีรถประจำตำแหน่ง มีสวัสดิการ มีอำนาจ
เป็นรางวัลก้อนโตเลยล่ะครับ
วาระการดำรงตำแหน่ง ป.ป.ช. 9 ปี เชียวนะครับ (หากอายุถึง 70 ก่อน 9 ปี ก็หมดวาระก่อน)
คุณสุภานี่ จะเป็น ป.ป.ช. ไปอีก 9 ปีเต็ม ๆ
สบายแฮ
ที่ผมสงสัยก็คือ เมื่อตัวเลขมันพิการ ถึงชั้นศาลแล้วจะเป็นอย่างไร
อย่าลืมนะครับ ตามหลักนั้น มีข้อเคลือบแคลงแม้เพียงนิด ยกประโยชน์ให้จำเลย
แล้วทำไม ป.ป.ช. ถึงกล้านำหลักฐานอย่างนี้เข้าไปในสำนวนฟ้อง
แล้วทำไม อัยการสูงสุดเห็นดีเห็นงามด้วย
นี่คงเพราะ คำพิพากษาถูกเขียนไว้แล้วนั่นเอง
ฟันทอม !!!