[SR] พาสาวเยอร์มัน น่าขี่น่าถีบ ในเมืองมาแนะนำครับ Schindelhauer ThinBike

กระทู้รีวิว
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ผมชอบเปรียบจักรยานเป็นเหมือนผู้หญิง เพราะมีทั้งความน่าขี่และน่าถีบ อยู่ในคนคนเดียวกัน เหมือนสาวเยอร์มันคันนี้ที่มาอยู่ในห้องนอนผมกว่า 2 สัปดาห์ เราใช้เวลาร่วมกันอย่างเต็มอิ่ม เดินทางไปทุกที่ที่เราอยากไป เธอชื่อ ThinBike และก็สมชื่อของเธอจริงๆ เพราะเวลาที่เราเดินจับมือกันฝ่าฝูงชน ความเป็นสาวร่างใหญ่กว่า Mini Velo ที่เราคนไทยเคยเห็นกันทั่วไป ไม่ได้เกะกะขวางทางใคร หรือไปคว้ากระเป๋าหรือเกี่ยวแขนใคร ทำให้เค้ารำคาญเลย  เพราะสเต็มแบบ Turn Stems ที่สามารถพับหมุนกลับมาขนานกับเฟรม และบันไดที่สามารถพับเก็บได้ ทำให้ ThinBike ในมุมมองจากด้านหน้า เป็นจักรยานที่ไม่มีอะไรยื่นออกมาด้านข้างเลย



ที่สำคัญสาวเยอร์มันคันนี้ ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ยังมาพร้อมสายสะพายติดตัวมาด้วยถึง 2 รางวัล ทั้ง reddot award 2014 และ iF product design award 2014 ที่ผมบอกว่า ThinBike เป็น Mini Velo ร่างใหญ่ในแบบที่คนไทยไม่คุ้นตานั้น เพราะปกติจักรยาน Mini velo ทั่วไปจะมาพร้อมขนาดล้อ 20 นิ้ว แต่ว่า ThinBike มาพร้อมกับล้อ 24 (Schwalbe Kojak 24“ 40-507) หน้ายางกว้าง 1.50 หนักราวๆ 350 กรัม รับน้ำหนักได้สูงสุด 85 กิโลกรัม มาพร้อมโลโก้สะท้อนแสงที่แก้มยางทั้งสองด้าน วัสดุ Frame ของ ThinBike เป็น Aluminium แบบ AL6061-T6 ระบบขับเคลื่อนแบบสายพาน ใช้เทคโนโลยี Carbon Drive ของ Gates โดยตัวสายพานทำจาก Cabon Fiber ผสมกับ Polyurethane ซึ่งรับประกันความทนทานถึง 20,000 กิโลเมตร


ชุดเกียร์จะเป็นเกียร์ดุมแบบ Automatix 2 Speed ของ Sram ที่มาพร้อม Coaster Break ซึ่งทำให้ล้อหลังไม่มีสายเบรกลากโยงมายุ่งให้กวนใจ เบรกได้นุ่มสบายเพียง กดบันไดลงด้านหลัง ส่วนด้านหน้า เป็นดิสเบรก ที่ให้น้ำหนักเบรกนุ่มนวล ทำให้มั่นใจในการหยุดหรือชลอรถได้อย่างไม่ต้องกังวล ที่หลักอานใช้หลักอานของ Light Skin ติดตั้งไฟท้ายมาให้เสร็จสับ  ทำให้ ThinBike คันนี้เป็นจักรยานที่สวยเรียบเฉียบคมแบบไม่มีอะไรให้เกะกะเลย



ประสบการณ์จาการใช้งาน

ตลอดเวลา 2 สัปดาห์ที่อยู่กับจักรยานคันนี้ผมได้มีโอกาสใช้งานในรูปแบบที่หลากหลายมาก เริ่มจากการเอาขึ้นคอนโดของผมที่ลิฟมีขนาดค่อนข้างเล็ก ซึ่งปกติจักรยานส่วนตัวที่ผมใช้มีขนาดที่เรียกว่าเล็กแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าเอาเข้าไปก็เต็มลิฟแล้ว แต่เมื่อลองเอา ThinBike ถอยหลังเข้าไป พับแฮนด์สักหน่อย ก็ยังเข้าได้สบาย แถมยังเหลือพื้นที่สำหรับคนอื่นอีกด้วย ซึ่งการที่พับสเต็มเข้ามาขนาดกับตัวรถได้นั้นก็ช่วยให้สะดวกมากขึ้น ในหลายๆ แง่มุม อย่างเช่นตอนที่ไปตลาดนัด หรืองานต่างๆ ที่มีคนจำนวนมาก ซึ่งปกติผมเป็นคนไม่ทิ้งจักรยานไว้ลำพัง จะเอาไปด้วยทุกที่ ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีปัญหาเรื่อง กระเป๋าคนอื่นมาเกี่ยวแฮนด์ หรือบันไดไปโดนขาคนอื่น แต่กับ ThinBike ไม่มีปัญหาเหล่านั้นเลย ยิ่งตอนที่ขึ้นไปเบียดอยู่บน BTS สามารถเดินออกมาได้สบายๆ อย่างไม่น่าเชื่อ

และเมื่อต้องแบกเจ้า ThinBike ขึ้น-ลง สะพานลอย มีสิ่งที่น่าประหลาดใจอีกอย่าง คือ เฟรมของ ThinBike จะต่างจากจักรยานทั่วไป คือตรงบริเวณท่อนอนใกล้กับท่อหลักอาน เฟรมบริเวณนี้จะสโลบลง ตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นแค่ดีไซน์เก๋ๆ แต่ถึงบางอ้อตอนที่แบกขึ้นลงสะพานลอย พบว่าการจับบริเวณนี้แล้วยกทำให้เราสามารถแบกมันได้ง่ายดายมากขึ้น ใครที่แบกจักรยานขึ้น-ลงสะพานลอยบ่อยๆ จะรู้ดีกว่า การจับที่จุดต่ำของจักรยาน จะทำให้เราแบกมันได้เบาและง่ายขึ้น

ในส่วนของการขับขี่ ผมชื่นชอบจักรยานที่มาพร้อมกับเกียร์ออโต้ และคอสเตอร์เบรก มาตั้งแต่ตอนที่เริ่มปั่นจักรยานมาทำงานใหม่ๆ เมื่อ 2 ปีก่อน ตอนที่พบกับจักรยานคันที่ 3 ของผม ซึ่งข้อดีของมันคือ มันเป็นจักรยานที่ไม่ต้องมีสายเบรก เพราะว่าเบรกอยู่ที่เท้าวิธีการเบรกก็คล้ายกับการ สคิทของจักรยานฟิกส์เกียร์ แต่ข้อดีคือ เราไม่ต้องปั่นตลอดเวลาเหมืนอฟิกส์เกียร์ เราสามารถพักขาได้ ท่าปั่นที่ปลอดภัยในการใช้จักรยานที่มีระบบเบรกแบบคอสเตอร์เบรกนี้ คือควรควบคุมจักรยานขาเวลาที่เราพักเท้าให้อยู่ในลักษณะขนานกับพื้น ให้บันไดที่อยู่ที่ขาข้างที่เราถนัดอยู่ด้านหลังและด้านที่เราไม่ถนัดอยู่ด้านหน้า อย่างเช่นผมถนัดขึ้นจักรยานทางฝั่งซ้าย ก่อนปั่นขาซ้ายผมจะอยู่บนพื้น เวลาลงจากรถขาซ้ายจะถึงพื้นก่อน เวลาออกตัวก็จะปรับบันไดทางด้านขวาให้อยู่ด้านหน้า ทำให้เราออกตัวได้ง่ายขึ้น และในขณะปั่นหรือเบรกบันไดทางฝั่งซ้ายจะอยู่ด้านหลังซึ่งเป็นฝั่งที่เราถนัดทำให้เราควบคุมน้ำหนักเบรกได้ดี และหากจะลงจากรถขาซ้ายก็สามารถลงถึงพื้นได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะโดนบันได และขาขวาก็จะอยู่ในตำแหน่งพร้อมออกตัวได้เสมอ ถ้าเข้าใจหลักพื้นฐานนี้การใช้จักรยานเกียร์ออโต้ คอสเตอร์เบรกก็จะสนุกมากยิ่งขึ้น

ThinBike สามารถทำความเร็วในช่วงออกตัวได้รวดเร็ว โดยที่ความเร็วระดับ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสามารถขึ้นได้ภายใน 2 วินาที ซึ่งเป็นจังหวะที่คุณสปิ้นท์ข้ามแยกได้สบายๆ ส่วนความเร็วคงที่ในแบบที่ผมสามารถปั่น ThinBike ได้แบบไม่เหนื่อยจะอยู่ที่ราวๆ 29 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่รอบขาประมาณ 90 รอบต่อนาที แต่ถ้ายืนโหมสปินท์ก็สามารถทำความเร็วได้ราวๆ 36 – 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ (แต่จะเหนื่อยมาก) ให้ความรู้สึกไหลค่อนข้างดี เสียงเงียบ เพราะขับเคลื่อนด้วยสายพาน ระบบเบรกหน้าหลังทำงานประสานกันได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะปั่นเร็วแค่ไหน ถ้าใช้ร่วมกันก็สามารถเบรกได้อย่างนุ่มนวล

ถึงแม้ว่า ThinBike จะมาพร้อมกับยางหน้ากว้าง แต่ก็เป็นยางแบบทำความเร็ว หน้าเกลี้ยงไม่มีดอกยางแต่ยึดเกาะถนนได้ดี และด้วยความที่เป็นเฟรมอลู จึงทำให้ค่อนข้างกระด้างพอสมควร เวลาที่ปั่นลุยท่อหรือทางหลุ่มบ่อต่าง ผิวถนนแย่ๆ ที่เราพบเจอกันในกรุงเทพฯ ก็อาจจะรู้สึกสะเทือนพอสมควร


สรุป ThinBike เหมาะกับใคร

โดยส่วนตัวผมว่า ThinBike เป็นจักรยานที่เหมาะกับคนเมือง ในหลากหลายไลฟ์สไตล์ ไม่ต้องดูแลรักษามาก เพราะด้วยระบบสายพานคุณก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการหยอดโซ่ หรือล้างเฟือง อีกทั้งระบบเบรกแบบคอสเตอร์เบรกเองก็ยังเป็นพวกไม่ต้องดูแลรักษากันบ่อยๆ ด้วย น้ำหนัก 10 กิโลถือว่าอยู่ในเกณฑ์เบาที่สามารถแบกได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ดีไซน์หรุหราแบบเรียบๆ ถ้าจะใช้ปั่นเดินทางในเมืองเพื่อไปทำงาน หรือในชีวิตประจำวันก็เหมาะ แต่คงไม่ใช่เพื่อการออกกำลังกาย หรือการแข่งขัน เพราะจัดได้ว่าผิดประเภท


มาพร้อมที่จอดแบบแขวนติดผนังด้วย
Thinbike Schindelhauer Specification

frame: aluminum (Al6061), horizontal drop outs with crocodile-belt-tensioning-system and Schindelhauer belt-port, smooth welded

fork: aluminum

headset: Tange Seiki semi integrated

power transmission: Gates Carbon Drive™, front 55 / rear 24 teeth

gear shift: SRAM Automatix 2-gear

pedals: aluminum with folding mechanism

stem: Schindelhauer with folding mechanism

handlebar: aluminum riser

saddle: Schindelhauer

seat post: LightSKIN with integrated LED rear-light

wheels: FW hub disc / SRAM Automatix 2-gear with coster brake, 24“ alloy rims black, DB spokes, FW / RW 2-cross

brakes: FW Tektro Lyra disc brake / RW coster brake

tires: Schwalbe Kojak 24“ 40- 507

weight: 10,0 kg

ราคา 48,000 บาท

ที่มา [url]http://goo.gl/ksYtmi
ชื่อสินค้า:   schindelhauer thinbike
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่