กลับมาแล้วช้าหน่อยครับ ต่อจากกระทู้ที่แล้ว ขออภัยอย่างแรง งานเยอะทีเดียวครับ
เพราะต้องตัดต่อวีดีโอด้วย จะได้ทั้งบรรยากาศภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวกันเลยทีเดียวครับ
เอาละครับมาเริ่มกันต่อเลย
http://ppantip.com/topic/33055461 (ลิ้งค์ep1)
เราก็เดินทางสู่เชียงใหม่ ไม่ลืมที่จะแวะหาอาหารอร่อยกินกัน
เราเลือกที่จะไปกินอาหารเหนือที่ใครๆก็รู้จักคือ ข้าวซอย
ร้านที่จะไปคือข้าวซอยฟ้าฮ่าม ข้างวัดฟ้าฮ้ามนั้นเอง แต่ก็มีหลายร้านนะ
ที่ร้าน แม่เจ้า คนเยอะมาก รอ รอ รอ แต่ก็ยังไม่ได้สั่ง น้องในกลุ่มทนหิวไม่ไหว
เดินออกไปตามบูธที่มีวางอาหารหลากหลาย หยิบมากินทุกอย่างที่หยิบได้
พอเริ่มกินกันได้ 3-4 จานก็มีเด็กมารับออเด้อร์แล้ว เราก็สั่งๆๆๆ
เราก็กินกันอย่างสนุกสนานจนเวลาผ่านไปครึ่งชัวโมงได้ ข้าวซอยไม่มา
ในเมื่อไม่มา ไม่กินละ อิ่มแล้ว อาหารที่นี่ส่วนตัวพวกเราคิดว่าไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่
ไม่ว่าหมูสะเต๊ะ ที่เค็ม และแข็ง แต่ก็มีบางอย่างที่อร่อย ที่นี่เค้าดังข้าวซอยแต่ไม่ได้กิน5555
เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เอ๊ย หน้าหน้าตึง เพราะเราต้องเดินทางรับลม แดด กันต่อ
เรามุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงราย ผ่านเส้นทางสวยผ่านภูเขา น้ำพุร้อน หมู่บ้าน ชุมชน ระยะทางเกือบ 200 กม.
เป็นร้อยกว่ากิโลที่ร้อน และอยากหาที่พักมาก และแล้วเราก็ผ่าน วังเจ้า พวกเราหิวน้ำมากเส้นนี้จะไม่มีปั๊มใหญ่เลย
เราอยากเติมความสดชื่นด้วยกาแฟ ให้ขมคอกันหน่อย มาถึงถิ่นกาแฟดีแล้วนี่ แล้วเราก็เจอครับ
ดอยช้างร้านนนี้เป็นสาขา 2 ของดอยช้างเลยครับ
เมื่อถึงถึงเชียงราย เราก็เดินทางสู่ที่พักที่เราจองเอาไว้ ผ่าน agoda เชมัวร์ แฮนดิคราฟ แอนด์ โฮมสเตย์ ขออนุญาติเอาลิงค์มาแปะ
http://www.agoda.com/th-th/chezmoi-handicraft-homestay/hotel/chiang-rai-th.html
ตรงนี้มีการผิดพลาดในการเก็บไฟล์ภาพ หรือหายนั้นเอง
เอาเป็นว่าชอบที่พักที่นี่ครับ สะอาด อาหารเช้าอร่อย เป็นสไตล์เกสเฮ้าส์ ห้องน้ำรวม
แต่งที่พักสวย เจ้าของน่าจะเรียนศิลปะมานะ อันนี้คาดเดาจากการที่ตัวเองเรียนเหมือนกัน
เช้าเราออกเดินทางสู่พระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยใช้ทางหลวงสาย1016
แต่ก่อนเดินทางเราก็ไม่ลืม ไปนมัสการเจ้าเมือง หรือพ่อขุนเมงราย
วันนี้ท้องฟ้าเปิด ร้อนทีเดียวครับ แต่เราก็บ่ยั่น ลุยกันต่อระยะทาง แค่ 64 กิโลกว่าแค่นั้นเอง
วัดพระธาตุผาเงาด้านล่างเป็นวัด และหินรูปบาตรคว่ำมีเจดีย์อยู่ด้านบน
มองแล้วเหมือน พระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ
ขี่รถขึ้นข้างบนไม่ถึง 2 นาทีก็จะมีพระธาตุด้านบน ซึ่งจุดนี้จะเห็นวิวน้ำโขง
มองไกลไปถึง สามเหลี่ยมทองคำ อากาศข้างบนนี้สบายมีร่มเงาไม้และลมที่โชยมาเบาๆ
เราลงมาแล้วเดินทางต่อเส้นทางที่เราไปนั้น เลาะริมโขง ด้วยเส้นทาง 1129
เส้นทางสวยมาก แต่ก็มีจุดทำทางบ้างเป็นช่วงๆ
ขี่มาครึ่ง ช.ม. แวะพักหาน้ำท่ากินซะหน่อยเพราะแดดแรงจริงๆ
ร้านข้างทางเป็นชาวเขานี่ละ จุดนี้เรียกว่าโอเอซิสเลยก็ว่าได้
และก็เดินทางต่อผ่านเชียงของ แต่ไม่ได้แวะเพราะเกือบ 4 โมงเย็นแล้วกลัวจะขึ้นเขาดึกเกินไป
หาข้าวเที่ยงกินกันตายข้างทางแล้วลุยต่อ GPS นำไป และแล้วก็ถึงทางขึ้น
เจอป้ายบอกว่า ระวังทางชัน เราก็คิดว่า ชันแค่ไหนกัน เส้นที่เรามานั้น ไม่ใช่เส้นธรรมดา
คนอื่นเค้าไม่ใช้กัน(มารู้ทีหลัง) เพราะทางชันมากถึงมากที่สุด (ชันแค่ไหนหลายคนถาม ก็ขี่ได้แค่เกียร์ 1 เท่านั้นครับ)
ทั้งขึ้นแล้วพับซ้ายและขวา ลงยังพับอีก ใครขี่รถคงจะเข้าใจว่าการขี่รถขึ้นหรือลงเขานั้น
ต้องเลี้ยงรอบ และควบคุมรถ เปิดและปิดคันเร่งไปด้วย ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เสียวตกเขาบ้าง
คือพอพ้นจุดดังกล่าว ต้องถอนหายใจกันเลยทีเดียว
จุดพักแรกสวยทีเดียว ฝั่งตรงข้ามคือภูชี้ฟ้าครับ ดูสภาพคนซ้อน ตากล้อง ถึงกับนั่งหมดสภาพ
เดินทางต่อ พอดู GPS แค่ 14 กม.เอง สบายละ แต่มันขึ้นว่าใช้เวลาเกือบ 50 นาที
บ้าไปแล้ว เพื่อนร่วมทางทุกคนงงกันเป็นไก่ตาแตกแล้วก็มีคนบอก ดาวเทียมโหม่งโลกหรอพี่
มันถึงบอกพี่แบบนี้55555 เออจริง แล้วเราก็ได้คำตอบ
เพราะเมื่อกี้ที่ผ่านมาเป็นทางขึ้น ตอนนี้คือทางลง พับซ้าย พับขาว ขี่ปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าใครเคยไปภูทับเบิก เจอที่นี่ถึงกับเงิบละครับ
แล้วก็ถึงเนินที่ต้องขอจอดถ่ายรูปเพราะสวยจริงๆ เป็นที่ที่ชาวเขามาปอกเปลือกข้าวโพด
น้องในกลุ่มทนไม่ไหว กระโดดลงไปนอนบนเปลือกข้าวโพดเลยทีเดียว
เดินทางต่อเพราะเริ่มมืด เรามองเห็นแค่แสงไฟจากรถของเราและรถสวนที่ลงมาเท่านั้น
หลุมเยอะมาก คือถ้าวิ่งเร็วลงหลุมไปนี่ลงพื้นเอาง่ายๆเลยครับ
แต่ทริปนี้พวกเราได้ซื้อบลูธูทมาใช้กัน ใช้ดีมากเพราะไม่ต้องใช้สัญญาณมือกันเลย
คันหน้าบอกทางคันหลัง ว่ามีหลุม หรือมีรถสวนลงมา สร้างความปลอดภัยให้พวกเราอย่างมาก
และเราก็ถึงจุดหมาย แต่จะแบกของลงไปนอนคงไม่ไหวเพราะต้องเดินลงเขา และมีอุปกรณ์ที่อยู่บนรถมากมาย
จึงตัดสินใจลงมาหาที่พักข้างล่าง เราได้ที่พักของอุทยานกางเต๊นฟรี แต่วันนี้อากาศเย็นมากเจ้าหน้าที่เดินมาถามจุดกองไฟไหม ไม้ 2 ชุด 100
เอาน่าถือเป็นการจ่ายค่าที่พักราคาถูกแถมไฟละกัน เลยจัดมา 1 ชุด
ที่พักเรามีห้องน้ำรวม แยกชายหญิง วันนั้นขอบอกว่าอาบน้ำนะครับแม้จะหนาวสุดทน
แต่ทนไม่ได้ถ้าไม่อาบ เรียกว่าวิ่งผ่านน้ำดีกว่า 5555
กองทัพต้องนอนด้วยท้อง จะนอนหลับได้ยังไงถ้าหิว จัดแจงออกไปหาอะไรกินที่ถนนคนเดิน
มีของที่ระลึก และอาหารขาย เราแวะกินข้าวร้านนึงดูร้านแล้วไม่น่าเชื่อว่าอาหารธรรมดาจะถูกปากพวกเราเป็นอันมาก
อิ่มแล้วก็กลับมานอนในเต๊นอันแสนอบอุ่น
ตี 5 ตื่นมาเพื่อจะขึ้นไปดูทะเลหมอกที่จุดชมวิวภูชี้ฟ้า ขี่รถขึ้นไปขอบอกว่าหนาวมากกก
ใส่ขาสั้นหนีบอีแตะอีกต่างหาก ขี่รถขึ้นไปเกือบกิโล ก็ถึงจุดที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีก 1 กม.
เดินยากมากเพราะมืด แต่ก็ค่อยๆเดินแบกอุปกรณ์ขึ้นไป และแล้วก็ถึงจุดที่ถ่ายทำ
คนเยอะมาก ทุกคนรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะหมอกหนามาก
แต่รอไปก็เห็นเพราะหมอกเริ่มซา เกือบ 8 โมงเลยกว่าจะเห็น เอาน่าเริ่มวันใหม่ที่สวยงามครับ
ระหว่างทางจะมีเด็กชาวดอยมาทำกิจกรรมใส่ชุดชาวเขาน่ารัก
ถ่ายรูปกับน้องๆแล้วก็ให้ค่าขนมคนละ 10 20 บาท
วิวสวยๆ สังเกตุเห็นต้นสนสามใบแบบนี้มักจะอยู่บนภูเขาและอากาศเย็น
เราเจอเพื่อนๆพี่น้องขี่รถมาเที่ยวเยอะมาก ทักทายกันแถมแจกของเล็กๆน้อยๆ โปรโมทเพจพวกเรากันหน่อย 55555
เดินทางต่อเอาอุปกรณ์ขึ้รถกระบะ เอ้ย รถมอเตอร์ไซค์ และแล้วก็ถึงเวลาของเรา แปะครับ แปะ กลับรถแล้วพื้นลื่นมาก เพราะของที่หนักทำให้หน้าลอย สบายไป 5555
เดินทางต่อสู่จังหวัดน่าน ดอยเสมอดาว ต่อตอนหน้าจ้า
VDO ทริปep2
7 วันทริปเหนือ ไม่ขี่ไปอีกแล้ว (มอเตอร์ไซค์) ep 2
เพราะต้องตัดต่อวีดีโอด้วย จะได้ทั้งบรรยากาศภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวกันเลยทีเดียวครับ
เอาละครับมาเริ่มกันต่อเลย
http://ppantip.com/topic/33055461 (ลิ้งค์ep1)
เราก็เดินทางสู่เชียงใหม่ ไม่ลืมที่จะแวะหาอาหารอร่อยกินกัน
เราเลือกที่จะไปกินอาหารเหนือที่ใครๆก็รู้จักคือ ข้าวซอย
ร้านที่จะไปคือข้าวซอยฟ้าฮ่าม ข้างวัดฟ้าฮ้ามนั้นเอง แต่ก็มีหลายร้านนะ
ที่ร้าน แม่เจ้า คนเยอะมาก รอ รอ รอ แต่ก็ยังไม่ได้สั่ง น้องในกลุ่มทนหิวไม่ไหว
เดินออกไปตามบูธที่มีวางอาหารหลากหลาย หยิบมากินทุกอย่างที่หยิบได้
พอเริ่มกินกันได้ 3-4 จานก็มีเด็กมารับออเด้อร์แล้ว เราก็สั่งๆๆๆ
เราก็กินกันอย่างสนุกสนานจนเวลาผ่านไปครึ่งชัวโมงได้ ข้าวซอยไม่มา
ในเมื่อไม่มา ไม่กินละ อิ่มแล้ว อาหารที่นี่ส่วนตัวพวกเราคิดว่าไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่
ไม่ว่าหมูสะเต๊ะ ที่เค็ม และแข็ง แต่ก็มีบางอย่างที่อร่อย ที่นี่เค้าดังข้าวซอยแต่ไม่ได้กิน5555
เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน เอ๊ย หน้าหน้าตึง เพราะเราต้องเดินทางรับลม แดด กันต่อ
เรามุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงราย ผ่านเส้นทางสวยผ่านภูเขา น้ำพุร้อน หมู่บ้าน ชุมชน ระยะทางเกือบ 200 กม.
เป็นร้อยกว่ากิโลที่ร้อน และอยากหาที่พักมาก และแล้วเราก็ผ่าน วังเจ้า พวกเราหิวน้ำมากเส้นนี้จะไม่มีปั๊มใหญ่เลย
เราอยากเติมความสดชื่นด้วยกาแฟ ให้ขมคอกันหน่อย มาถึงถิ่นกาแฟดีแล้วนี่ แล้วเราก็เจอครับ
ดอยช้างร้านนนี้เป็นสาขา 2 ของดอยช้างเลยครับ
เมื่อถึงถึงเชียงราย เราก็เดินทางสู่ที่พักที่เราจองเอาไว้ ผ่าน agoda เชมัวร์ แฮนดิคราฟ แอนด์ โฮมสเตย์ ขออนุญาติเอาลิงค์มาแปะ
http://www.agoda.com/th-th/chezmoi-handicraft-homestay/hotel/chiang-rai-th.html
ตรงนี้มีการผิดพลาดในการเก็บไฟล์ภาพ หรือหายนั้นเอง
เอาเป็นว่าชอบที่พักที่นี่ครับ สะอาด อาหารเช้าอร่อย เป็นสไตล์เกสเฮ้าส์ ห้องน้ำรวม
แต่งที่พักสวย เจ้าของน่าจะเรียนศิลปะมานะ อันนี้คาดเดาจากการที่ตัวเองเรียนเหมือนกัน
เช้าเราออกเดินทางสู่พระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย โดยใช้ทางหลวงสาย1016
แต่ก่อนเดินทางเราก็ไม่ลืม ไปนมัสการเจ้าเมือง หรือพ่อขุนเมงราย
วันนี้ท้องฟ้าเปิด ร้อนทีเดียวครับ แต่เราก็บ่ยั่น ลุยกันต่อระยะทาง แค่ 64 กิโลกว่าแค่นั้นเอง
วัดพระธาตุผาเงาด้านล่างเป็นวัด และหินรูปบาตรคว่ำมีเจดีย์อยู่ด้านบน
มองแล้วเหมือน พระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ
ขี่รถขึ้นข้างบนไม่ถึง 2 นาทีก็จะมีพระธาตุด้านบน ซึ่งจุดนี้จะเห็นวิวน้ำโขง
มองไกลไปถึง สามเหลี่ยมทองคำ อากาศข้างบนนี้สบายมีร่มเงาไม้และลมที่โชยมาเบาๆ
เราลงมาแล้วเดินทางต่อเส้นทางที่เราไปนั้น เลาะริมโขง ด้วยเส้นทาง 1129
เส้นทางสวยมาก แต่ก็มีจุดทำทางบ้างเป็นช่วงๆ
ขี่มาครึ่ง ช.ม. แวะพักหาน้ำท่ากินซะหน่อยเพราะแดดแรงจริงๆ
ร้านข้างทางเป็นชาวเขานี่ละ จุดนี้เรียกว่าโอเอซิสเลยก็ว่าได้
และก็เดินทางต่อผ่านเชียงของ แต่ไม่ได้แวะเพราะเกือบ 4 โมงเย็นแล้วกลัวจะขึ้นเขาดึกเกินไป
หาข้าวเที่ยงกินกันตายข้างทางแล้วลุยต่อ GPS นำไป และแล้วก็ถึงทางขึ้น
เจอป้ายบอกว่า ระวังทางชัน เราก็คิดว่า ชันแค่ไหนกัน เส้นที่เรามานั้น ไม่ใช่เส้นธรรมดา
คนอื่นเค้าไม่ใช้กัน(มารู้ทีหลัง) เพราะทางชันมากถึงมากที่สุด (ชันแค่ไหนหลายคนถาม ก็ขี่ได้แค่เกียร์ 1 เท่านั้นครับ)
ทั้งขึ้นแล้วพับซ้ายและขวา ลงยังพับอีก ใครขี่รถคงจะเข้าใจว่าการขี่รถขึ้นหรือลงเขานั้น
ต้องเลี้ยงรอบ และควบคุมรถ เปิดและปิดคันเร่งไปด้วย ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง เสียวตกเขาบ้าง
คือพอพ้นจุดดังกล่าว ต้องถอนหายใจกันเลยทีเดียว
จุดพักแรกสวยทีเดียว ฝั่งตรงข้ามคือภูชี้ฟ้าครับ ดูสภาพคนซ้อน ตากล้อง ถึงกับนั่งหมดสภาพ
เดินทางต่อ พอดู GPS แค่ 14 กม.เอง สบายละ แต่มันขึ้นว่าใช้เวลาเกือบ 50 นาที
บ้าไปแล้ว เพื่อนร่วมทางทุกคนงงกันเป็นไก่ตาแตกแล้วก็มีคนบอก ดาวเทียมโหม่งโลกหรอพี่
มันถึงบอกพี่แบบนี้55555 เออจริง แล้วเราก็ได้คำตอบ
เพราะเมื่อกี้ที่ผ่านมาเป็นทางขึ้น ตอนนี้คือทางลง พับซ้าย พับขาว ขี่ปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว เอาเป็นว่าใครเคยไปภูทับเบิก เจอที่นี่ถึงกับเงิบละครับ
แล้วก็ถึงเนินที่ต้องขอจอดถ่ายรูปเพราะสวยจริงๆ เป็นที่ที่ชาวเขามาปอกเปลือกข้าวโพด
น้องในกลุ่มทนไม่ไหว กระโดดลงไปนอนบนเปลือกข้าวโพดเลยทีเดียว
เดินทางต่อเพราะเริ่มมืด เรามองเห็นแค่แสงไฟจากรถของเราและรถสวนที่ลงมาเท่านั้น
หลุมเยอะมาก คือถ้าวิ่งเร็วลงหลุมไปนี่ลงพื้นเอาง่ายๆเลยครับ
แต่ทริปนี้พวกเราได้ซื้อบลูธูทมาใช้กัน ใช้ดีมากเพราะไม่ต้องใช้สัญญาณมือกันเลย
คันหน้าบอกทางคันหลัง ว่ามีหลุม หรือมีรถสวนลงมา สร้างความปลอดภัยให้พวกเราอย่างมาก
และเราก็ถึงจุดหมาย แต่จะแบกของลงไปนอนคงไม่ไหวเพราะต้องเดินลงเขา และมีอุปกรณ์ที่อยู่บนรถมากมาย
จึงตัดสินใจลงมาหาที่พักข้างล่าง เราได้ที่พักของอุทยานกางเต๊นฟรี แต่วันนี้อากาศเย็นมากเจ้าหน้าที่เดินมาถามจุดกองไฟไหม ไม้ 2 ชุด 100
เอาน่าถือเป็นการจ่ายค่าที่พักราคาถูกแถมไฟละกัน เลยจัดมา 1 ชุด
ที่พักเรามีห้องน้ำรวม แยกชายหญิง วันนั้นขอบอกว่าอาบน้ำนะครับแม้จะหนาวสุดทน
แต่ทนไม่ได้ถ้าไม่อาบ เรียกว่าวิ่งผ่านน้ำดีกว่า 5555
กองทัพต้องนอนด้วยท้อง จะนอนหลับได้ยังไงถ้าหิว จัดแจงออกไปหาอะไรกินที่ถนนคนเดิน
มีของที่ระลึก และอาหารขาย เราแวะกินข้าวร้านนึงดูร้านแล้วไม่น่าเชื่อว่าอาหารธรรมดาจะถูกปากพวกเราเป็นอันมาก
อิ่มแล้วก็กลับมานอนในเต๊นอันแสนอบอุ่น
ตี 5 ตื่นมาเพื่อจะขึ้นไปดูทะเลหมอกที่จุดชมวิวภูชี้ฟ้า ขี่รถขึ้นไปขอบอกว่าหนาวมากกก
ใส่ขาสั้นหนีบอีแตะอีกต่างหาก ขี่รถขึ้นไปเกือบกิโล ก็ถึงจุดที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีก 1 กม.
เดินยากมากเพราะมืด แต่ก็ค่อยๆเดินแบกอุปกรณ์ขึ้นไป และแล้วก็ถึงจุดที่ถ่ายทำ
คนเยอะมาก ทุกคนรอดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะหมอกหนามาก
แต่รอไปก็เห็นเพราะหมอกเริ่มซา เกือบ 8 โมงเลยกว่าจะเห็น เอาน่าเริ่มวันใหม่ที่สวยงามครับ
ระหว่างทางจะมีเด็กชาวดอยมาทำกิจกรรมใส่ชุดชาวเขาน่ารัก
ถ่ายรูปกับน้องๆแล้วก็ให้ค่าขนมคนละ 10 20 บาท
วิวสวยๆ สังเกตุเห็นต้นสนสามใบแบบนี้มักจะอยู่บนภูเขาและอากาศเย็น
เราเจอเพื่อนๆพี่น้องขี่รถมาเที่ยวเยอะมาก ทักทายกันแถมแจกของเล็กๆน้อยๆ โปรโมทเพจพวกเรากันหน่อย 55555
เดินทางต่อเอาอุปกรณ์ขึ้รถกระบะ เอ้ย รถมอเตอร์ไซค์ และแล้วก็ถึงเวลาของเรา แปะครับ แปะ กลับรถแล้วพื้นลื่นมาก เพราะของที่หนักทำให้หน้าลอย สบายไป 5555
เดินทางต่อสู่จังหวัดน่าน ดอยเสมอดาว ต่อตอนหน้าจ้า
VDO ทริปep2