กราบสวัสดีเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน เป็นกระทู้แรกขาดตกบกพร่องสิ่งใดขออภัยด้วยครับ(รูปจากมือถือสามเครื่อง อาจสะดุดอารมณ์หน่อยนะครับ)
เกริ่นนำ
น่าน จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือถูกพูดถึงในวงสนทนาทางโปรแกรมแชทไลน์ของกลุ่มผมอย่างต่อเนื่องมาเกือบปี พวกเราส่ง-แปะ เรื่องราวที่เพื่อนๆคนอื่นใน pantip ได้เดินทางไปสัมผัสมาโดยหลากหลายวิธีการ จนในที่สุดแรงบันดาลใจที่ถาโถมเข้ามาเป็นสิบๆกระทู้ก็เกิดเป็นผลสำเร็จเรารวบรวมสมาชิกที่พร้อมเดินทางไปด้วยกันได้มากถึง 3 คน กับมอเตอร์ไซค์ 2 คัน โดยทริปนี้ใช้ช่วงวันหยุดในเดือนกุมภาพันธ์ บวกกับพักร้อนทำให้เรามีเวลาเที่ยว 4 วัน 3 คืน 19-22 กพ. 2559
พาหนะเราสำหรับทริปนี้ Versys 650 โดยผมและภรรยา และ CB500X น้องในกลุ่ม


เริ่มกันเลย
19 กพ. 2559
วันแรกสุดสดชื่น
เราเริ่มเดินทางกันจากฉะเชิงเทรากันตั้งแต่ตีห้าโดยหวังใจว่าจะไม่เจอรถติดเนื่องจากเป็นวันทำงานโดยมีจุดหมายปลายทางสำหรับวันแรกที่ดอยเสมอดาว โดยเราแวะจุดแรกคือร้านเฮียเล็ก สิงห์บุรี เติมอาหารเช้าใส่ท้องกันหน่อย
ข้าวขาหมูละกัน

จุดแวะต่อไป วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เพื่อกราบขอพรพระพุทธชินราช ให้เดินทางโดยปลอดภัย


หลังจากนั้นเราก็เดินเรียบริมน้ำน่านเพื่อไปกินมื้อเที่ยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา


ท้องอิ่มก็มุ่งหน้าสู่หมู่บ้านประมงปากนายเพื่อขึ้นแพข้ามไปยังฝั่งน่าน เราเสียเวลากับทางนี้ค่อนข้างมากเนื่องจากบริเวณ ถนนที่แยกจากบ้านน้ำปาดไปหมู่บ้านประมงปากนายช่วงประมาณ กิโลเมตรที่ 30 กว่าเป็นต้นไปมีการทำถนนแบบเทหินไว้แล้วยังไม่บด คือแบบว่าค่อยๆย่องกันเลย ใครไปช่วงนี้ระมัดระวังกันหน่อยนะครับ เรามาถึงจุดขึ้นแพปาเข้าไป 16.30 น. มืดแน่555 โชคดีที่เรารอแพไม่นาน
เหมาแพเลยจร้าป้าบอก VIP สองคันไปโลด

ป้าลากไปเรื่อยสู่ความเวิ้งว้าง

อันนี้เบอร์ป้าเผื่อมีประโยชน์

ขึ้นจากแพเราก็มุ่งหน้าสู่ดอยเสมอดาว เราจองเต้นท์อุทยานไว้เย็นแล้วเจ้าหน้าที่พยายามโทรหาเพื่อเช็คว่ามามั้ย เราถึงยอดดอยกันก่อนค่ำนิดหน่อยจ่ายค่าบำรุงสถานที่ 100บาท พูดคุยกับพี่ๆเจ้าหน้าที่ได้ความว่าตอนเช้าไม่มีหมอกมาหลายวันแล้ว กลางคืนก็ไม่เห็นดาวเนื่องจากเดือนหงาย เห่อๆๆๆ กินหมูกระทะกันก็ได้ว้า ระหว่างกินก็สนทนากับคุณพี่เจ้าของร้านไปพลางเพื่อสอบถามที่ท่องเที่ยวแถวๆนี้ ได้ความว่าให้ลองไป "แก่งหลวง" อยู่เลยเข้าไป 15 กม. เขาเล่าว่าสวยพรุ่งนี้ว่ากัน กินๆๆ
ดอยเสมอดาวในคืนที่ไร้ซึ่งดวงดาว แต่มีหมูกระทะและปลาเผา


20 กพ. 2559
ตามล่าหาหมอก
เราตื่นขึ้นมาเพื่อรอชมพระอาทิตย์ที่จะขึ้นมากันตั้งแต่หกโมงเช้ากว่าจะได้เห็นก็ปาเข้าไป 7 โมงโน่น เราบันทึกภาพความทรงจำกันพักใหญ่แล้วก็ได้เวลาจากดอยเสมอดาวไป โดยปลายทางเราวันนี้ ภูลังการีสอร์ท
ดอยเสมอดาวในเช้าที่ไร้ทะเลหมอก


คนเพียบเลย


แก่งหลวง
เราตัดสินใจกันว่าจะแวะไปแก่งหลวงตามคำบอกเล่าของพี่เจ้าของร้านหมูกระทะ โดยเราออกจากดอยเสมอดาวเลี้ยวซ้ายตามเส้นทาง 1083 ไปประมาณ 18 กิโลเมตร ผ่านอากาศเย็นสดชื่นข้ามสะพานข้ามแม่น้ำที่ตั้งของแก่งหลวงอยู่ทางซ้ายมือ โดยลักษณะที่ตั้งของแก่งเป็นโขดหินน้อยใหญ่กระจายในแม่น้ำน่าน ซึ่งมีด้วยกันหลายแก่งเล็กใหญ่สลับกันไป พี่ๆเจ้าหน้าที่บอกว่ามีบริการล่องแก่งด้วยเรือยางด้วยนะ พวกผมไม่ได้เตรียมใจมาเลยขอผ่าน ชมความงามของธรรมชาติอย่างเดียวแล้วกัน พี่เจ้าหน้าที่ฝากประชาสัมพันธ์สถานที่ แวะมาเที่ยวกันนะครับ สวยงามในแบบของธรรมชาติ
มีฝูงน้องควายเล่นน้ำกันแต่เช้าเลย



เจ๊ๆโน่นไปเล่นตรงนู้นเลย

ท้องฟ้า ภูเขา ต้นไม้ หาดทราย สายน้ำ มารวมตัวกัน


ติดต่อได้จ้าใครอยากล่องเรือยาง

เราชื่นชมอยู่พักใหญ่ก็ได้เวลาออกเดินทางต่อโดยเราจะแวะกันที่
เสาดินนาน้อย
เรามุ่งหน้าสู่ตัวเมืองนาน้อยโดยใช้เส้นทางเดิมประมาณ 28 กม. ถึงทางเข้าเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 6 กม.ก็ถึง เสาดินนาน้อย มีลักษณะเป็นหุบผาดินผสมลูกลังแดงๆ รูปทรงแปลกตา กระจายตัวอยู่เป็นบริเวณกว้างเราสามารถเดินชมได้ทั่ว โดยทางอุทยานได้จัดทางเดินไว้ให้ แต่ที่เห็นคือนักท่องเที่ยวปีนป่ายไปยืนข้างๆเอาเท้าเยียบ เรียงหิน โอยเห็นแล้วก็เสียดายธรรมชาติ แบบนี้พังหมด เดินสำรวจถ่ายรูปประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ได้เวลาเคลื่อนที่สู่ตัวเมืองน่านเพื่อแวะชิมข้าวซอยที่ร้านข้าวซอยต้นน้ำต่อไป



ดูพวกมือบอนเรียงหินไว้แล้วขัดตามากๆ

ร้านข้าวซอยต้นน้ำ คนจะเยอะไปไหน

ถ่ายรูปแค่หนึ่งแต่เบิ้ลสองเลยทีเดียว

โอ้เอ้บวกรอคิวกินข้าวซอยกันอยู่พักใหญ่มองนาฬิกา ตายๆๆบ่ายโมงกว่าแล้วไปภูลังกากันเหอะเหลืออีกเป็นร้อยกิโลเมตร โค้งอีกเพียบ ย้ายตูดกันได้แล้ว
เรามุ่งหน้าภูลังการีสอร์ทกันโดยใช้ถนน 101 ต่อด้วย 1148 ท่าวังผา-ภูลังการีสอร์ท
1148 เป็นถนนที่คนชอบขับมอเตอร์ไซค์ควรมาลอง มีโค้งให้เล่นจนเอียนกันไปเลย

แวะร้านในหมู่บ้านเติมน้ำหน่อยร้อนจัง




ขับแล้วก็แวะแล้วก็ขับมาเรื่อยๆก็ถึงจนได้


ภูลังการีสอร์ท
ตั้งอยู่ในอำเภอปง จังหวัดพะเยา ไฮไลท์ของที่นี่คือชมพระอาทิตย์สาดแสงท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า
แต่ตอนนี้หกโมงเย็นแล้วกินข้าวก่อน อาหารที่นี่อร่อยมากครับ

21 กพ. 2559
น่านเมืองหมื่นโค้ง
เราตื่นกันแต่เช้านั่งชิลรอพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งก็อีกเช่นเคย ผมพลาดไม่มีทะเลหมอกและพระอาทิตย์ถูกบดบังด้วยเมฆเหมือนฝนจะตก แต่ผมปลอบใจตัวเองด้วยคำพูดของใครหลายๆคน "ปลายทางนั้นหาสำคัญไม่ สองข้างทางและมิตรภาพที่สวยงามและสำคัญกว่า"

7.00 น. รับประทานอาหารเช้าถ่ายรูปดื่มด่ำบรรยากาศกันอยู่พักใหญ่ก่อนจะเก็บสัมภาระเพื่อเตรียมเดินทางสู่จุดหมายต่อไปในวันนี้ "บ่อเกลือ" นั่นเอง
เราออกเดินทางโดยใช้เส้นทาง 1148 ถึงแยกท่าวังผาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทาง 101 ขับตรงมา 16 กิโลเมตร ถึงอำเภอปัว กลับรถหน้าเทสโก้โลตัสเข้าเส้นทาง 1081 ผ่านอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ผ่านมาแวะถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยสูงชันเหลือเกินสำหรับเส้นทางนี้



ระหว่างทางไปบ่อเกลือมีทำถนนอยู่ระมัดระวังกันด้วยนะครับ

มุ่งหน้าต่อสู่บ่อเกลือ ถึงแล้วๆๆ


น้องกำลังเล่าประวัติความเป็นมาของที่นี่เป็นคำเมือง

มาแล้วต้องลอง ไข่ต้ม

ต้นน้ำน่านอยู่นี่นะ

หลังจากเดินสำรวจบ่อเกลือจนหนำใจแล้ว บ่ายแล้วเราก็เคลื่อนทัพกันต่อที่นอนของเราวันนี้ "เมืองน่าน" ใช้เส้นทาง บ่อเกลือ-สันติสุข-น่าน ผ่านเส้นทางหมายเลข 1081-1257-1169 โผล่กลางเมืองน่านพอดี เส้นนี้ส่วนตัวผมคิดว่าสวยกว่าเส้น 1148 เสียอีกเหมือนล่องลอยบนฟ้า โค้งไปโค้งมา เมาโค้งกันเลยที่เดียว

บ่ายสามโมงครึ่งเราถึงที่พักที่จองไว้ผ่านอินเตอร์เน็ต The One House พี่เจ้าของใจดีมาก โทรถามตั้งแต่อยู่บ่อเกลือช่วงก่อนเที่ยง สงสัยกลัวไม่ไปพักมั้ง555 เราจองไว้แบบห้องแฟมิลี่ สองเตียงนอน 600 บาท ห้องใหญ่แอร์เย็นฉ่ำอยากจะนอนเสียเลย ใครไปน่านฝากไว้พิจารณาด้วยแล้วกันครับ เก็บของอาบน้ำแต่งตัวไปเดินเที่ยวตัวเมืองน่านกัน