เติมฝัน กับแสงเหนือที่นอร์เวย์

สวัสดีครับ

โพสนี้เกิดขึ้นจากการรีวิวทริปในเฟสบุ้คส่วนตัว แล้วก็มีคนเชียร์ให้นำมาแบ่งปันใน pantip แต่เนื่องด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ก็เลยตัดสินใจขอยืมไอดีของเพื่อนมาเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ครับ แน่นอนครับ เป็นเรื่องตามหัวข้อเลย... ไปตามแสงเหนือที่นอร์เวย์ (Tromsø, Norway) ภาพประกอบ คำบรรยายภาพต่างๆ ผมเขียนเองและปรับนิดหน่อยจากเฟสบุ้คเพราะที่นี่เป็นที่สาธารณะ เลยขอปรับภาษานิดหน่อยครับ

เริ่มเลยละกัน....

เรื่องของเรื่องก็คือตอนเด็กๆ เคยดูวีดีโอวิทยาศาสตร์ที่พ่อ (เป็นครูสอนวิทยาศาสตร์) เอามาให้ดูเกี่ยวกับแสงเหนือ และก็อ่านหนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์บ่อยๆ ตั้งใจว่าวันหนึ่งจะต้องเห็นด้วยตาตัวเองให้ได้ -- ผ่านมาเกือบสามสิบปี พอมีวันว่างนิดหน่อยหลังสอบเสร็จ (จขกท อยู่อิตาลีครับ) เลยตัดสินใจเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าจะมาทำความฝันสมัยเด็กๆ ให้เป็นจริง ตอนนั่งเครื่องมายังคิดว่า "นี่ตรูบ้าหรือบ้าฟระเนี่ย คิดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มาอาทิตย์นี้เลย"  // ทริปนี้หลายโอกาสครับทั้งเปิดปี 2015 ฉลองวันเกิดตัวเองล่วงหน้า และเติมเต็มความฝันสมัยเด็กๆ ให้เป็นจริง



ผมตัดสินใจเพียงอาทิตย์กว่าๆ ก่อนเดินทาง เช็คราคาทุกสิ่งอย่างเห็นว่าสู้ไหว ไม่แพงมากและเป็นเวลาที่เหมาะจะได้เห็นแสงเหนือด้วย ตัดสินใจไปแค่สามวันเพราะข้อจำกัดเรื่องปัจจัย 5555 เพราะทุกคนทราบดีว่าประเทศแถบนี้ค่าครองชีพสูงมาก

เมื่อสอบเสร็จก็ออกเดินทางทันที เป็นการเดินทางไกลคนเดียวครั้งแรก ไม่ได้ศึกษาอะไรมากมายนัก เพราะหวังว่าการเผชิญกับสถานการณ์จริงน่าจะทำให้เราเจออะไรดีๆ หลายอย่าง

การเดินทางของผม FCO > AMS > OSL > TOS ออกหกโมงเช้า ถึงสี่โมงเย็นครับ (นานตอนเปลี่ยนเครื่อง บินไม่เท่าไรหรอกครับ)

ทำไมต้องทรอมโซ นอร์เวย์? จริงๆ ทีแรกผมอยากไปฟินแลนด์เพราะถูกกว่า แต่เมื่อเทียบราคาเครื่องบิน (ซึ่งแพงว่าไปทรอมโซ) กับเวลาเดินทาง (ฟินแลนด์ไกลกว่ามาก) นอกจากนี้ยังเทียบกับไอซ์แลนด์ที่เพื่อนๆ หลายคนรีวิวไว้ด้วย แต่ก็ไม่สะดวก เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้ว เลยตัดสินใจมาที่นี่ครับ ทรอมโซเป็นเมืองท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในช่วงนี้ก็มาดูแสงเหนือนี่ละ

เบื่ออ่านแล้วใช่ไหม??? ตัดฉากไปที่ TOS เลยละกันครับ 5555



เดินทางถึงทรอมโซก็สี่โมงกว่าแล้ว มืดตื๋อเลย รีบเอากระเป๋าโหลดแล้วก็วิ่งมาที่ท่ารถ รอรถสาย 40 ไปที่พัก เดินขึ้นเนินนิดหน่อย โชคดีโหลดแผนที่ไว้ในมือถือเลยไม่ลำบาก ผมพักที่ ABC Hotel ครับ (จองผ่าน Booking.com) รีบไปเช็คอิน เก็บกระเป๋า แล้วก็เปลี่ยนชุดรอไกด์ที่นัดไว้ อยู่ในห้องนั่งๆ นอนๆ ไม่ถึง 15 นาที ที่ฟรอนท์ก็โทรมาตามบอกว่าไกด์มารับแล้ว

ผมจองทัวร์กับ Arctic Explorer ไว้ครับ ไกด์ที่มารับผมเป็นชาวอิตาเลียนที่ทำงานในนอร์เวย์ พูดได้หลายภาษา พอรู้ว่าผมอยู่อิตาลีก็เปลี่ยนโมดภาษาทันที 5555 วันนี้ไปกับรถแวน แต่มีแค่ไกด์ ตัวผม และสามีภรรยาชาวญี่ปุ่นเท่านั้น  ไกด์บอกว่าลูกค้ายกเลิกทัวร์หลายคนเพราะอากาศอาทิตย์นี้ไม่สู้ดีนัก แต่วันนี้ผมโชคดีมากๆ เพราะอากาศดีตั้งแต่บ่าย ไม่มีเมฆเลย

ก่อนออกเดินทางไปตามล่าแสงเหนือ ก็ไปยังจุดพักแรกเพื่อรับชุดกันหนาว รองเท้าบู้ท และอุปกรณ์อื่นๆ ผมจองขาตั้งกล้องไว้ด้วยเพราะอยากจะมาฝึกถ่ายรูปที่นี่ครับ แล้วเราก็ออกเดินทางไปทางตะวันออก นั่งรถประมาณ 1.30 ชม ระหว่างทางไกด์ก็อธิบายสถานที่และความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับแสงเหนือไปเรื่อยๆ ผมไม่พิมพ์นะครับ ตามอ่านจากพี่กูหรือไม่ก็กระทู้เก่าๆ เอา 5555

แล้วก็มาถึงสถานที่ที่จะดูแสงเหนือครับ เป็นเนินเล็กๆ ริมทะเลสาบ ฉากหลังเป็นภูเขา วันนี้พระจันทร์เต็มดวง อาจจะทำให้ดูแสงเหนือไม่ชัด แต่เวลาถ่ายภาพก็จะมีฉากหลังที่ชัดขึ้น



รอเพียงแค่ไม่ถึงห้านาที แสงเหนือก็ค่อยๆ โผล่มาให้เราเห็น นี่เป็นภาพแรกของผมครับ พอเห็นมันโผล่มานี่ ผมดีใจจนมือสั่นเลยครับ ตั้งค่ากล้องไม่ถูกเลยทีเดียว (ไม่ใช่อะไร มันหนาว 555) เคยเห็นแต่ที่คนอื่นโพสให้ดู วันนี้เห็นด้วยตาตัวเองเสียที มีโมเมนต์นึงที่ผมน้ำตาไหล ไม่ใช่เพราะหนาวหรือลม แต่เพราะดีใจจริงๆ ที่ได้เห็นความมหัศจรรย์ของสิ่งสร้างของพระเจ้าอันนี้

อ้อ สำหรับเพื่อนช่างภาพนะครับ ผมใช้กล้อง Canon 700D + 10-12 mm F4.0-5.6 ครับ เลยได้มุมไม่กว้างเท่าไร ส่วน F ก็ไม่กว้าง จึงต้องอาศัยเปิดหน้ากล้องนานๆ + ดัน ISO เลยได้ noise แถมมาพอสมควร 555



แล้วอยู่ดีๆ แสงเหนือก็ระเบิดเต็มฟ้าเลยครับ!! จริงๆ มันเขียวทั้งฟ้าเลย เต้นให้ดูด้วย (เหมือนในฉากหนังเรื่อง Frozen แต่มากกว่านั้นครับ) มันขยับได้จริงๆ แต่ผมไม่ได้ถ่ายเพราะตะลึงกับความมหัศจรรย์ของมัน

(กล้องผมมุมไม่กว้างพอ เลยถ่ายได้ไม่เต็มฟ้า ดูแปลกๆ ใช่ไหมครับ?) ภาพนี้คือหลังจากที่การแสดงมหัศจรรย์นี้จะจบแล้ว แสงหายไปมากแล้ว



นอกจาก Solar Activities ที่ทำให้เกิดแสงเหนือแล้ว อากาศก็เป็นปัจจัยสำคัญครับ โชคดีมากที่วันนี้ฟ้าเปิด ไม่มีเมฆเลย พระจันทร์เต็มดวงด้วย เลยทำให้เห็นฉากพอสมควร และแสงเหนือวันนี้ก็แรงพอที่จะสู้กับพระจันทร์

แสงเหนือเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ บางทีก็ทิ้งช่วงห้านาทีบ้าง สิบนาทีบ้าง แต่ก็มาให้เราชมจนเต็มอิ่ม

ส่วนใหญ่เราจะเห็นออโรร่าเป็นสีเขียว นั่นเพราะกล้องถ่ายรูปจะไวต่อแสงออโรราประเภทนี้มากที่สุดครับ ด้วยตาเปล่าเราจะเห็นสีไม่ชัดเหมือนในรูป แต่ก็พอมองออกว่าเป็นสีอะไร วันนี้เราเห็นทั้งเขียว ม่วง และฟ้าครับ



ปกติออโรราจะปรากฎช่วงประมาณ 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืนครับ ดังนั้นพอเริ่มดึก ก็จะค่อยๆ น้อยลง

อ้อ เกือบลืม เครดิตของทริปนี้ขอมอบให้น้องคนหนึ่งที่รู้จักกันเมื่อนานมาแล้วให้ข้อมูลต่างๆ ที่ช่วยผมอย่างมากครับ น้องแกเรียนอยู่อังกฤษและมาดูแสงเหนือเมื่อปีที่แล้ว ผมเห็นภาพก็เลยถามข้อมูลต่างๆ จนได้มาดูด้วยตาตัวเองเนี่ยละ


พอช่วงที่ออโรราไปพัก (ไม่มี Activity) เราก็มาพักบ้าง ก่อไฟแล้วกินชอคโกแลตร้อนๆ ฟินสุดๆ

ไกด์เตรียมอาหารมาให้เราด้วย วันนี้เป็นซุปเนื้อกวางเรนเดียร์ ก็อร่อยดีเหมือนกัน สงสัยผมจะหิว ซัดไปหมดเลย 5555 แล้วเราก็เดินทางกลับบ้านตอนเที่งคืนกว่าๆ ปกติทัวร์นี้จะมีสถานที่ชมแสงเหนือหลายจุด แต่ชาวญี่ปุ่นที่มาด้วยค่อนข้างมีอายุแล้ว และเราก็เห็นแสงเหนือจนเต็มอิ่มแล้วก็เลยตัดสินใจกลับไปพัก ระหว่างทางสองสามีภรรยาชาวญี่ปุ่นหลับ (คงจะเหนื่อย) ส่วนผมก็เพลียจากการเดินทาง แต่ไม่หลับ นั่งคุยกับไกด์ไปจนถึงที่ที่เราต้องคืนชุดและอุปกรณ์ แล้วไกด์ก็มาส่งพวกเราตามที่พักครับ

//จบวันที่ 1 เดี๋ยวจะต่อวันที่ 2-3 ให้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่