จากมติชนออนไลน์
เรื่องราวของเจ้ากลูต้า และกอลลั่ม 2 สุนัขจรพันธุ์ไทย ที่นายสรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ เก็บมาเลี้ยงและภายหลังพบว่าเจ้ากลูต้าป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกทำให้ต้องพาไปรักษา จนหายขาด กลายเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนจำนวนมากหลังเจ้าของเรียบเรียงเรื่องราวและภาพการใช้ชีวิตร่วมกับสุนัขมาเล่าผ่านโลกออนไลน์หลายเดือนที่ผ่านมา สื่อต่างชาติกว่า 20 ประเทศ นำเรื่องราวของกลูต้าและกอลลั่ม ไปเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ยิ่งทำให้กลูต้า และกอลลั่ม เป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก
นายสรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ เจ้าของสุนัข เล่าว่า หลังจากกลูต้าผ่านเรื่องลำบากมา รู้สึกมีความสุขที่มีคนชอบกลูต้า และกอลลั่ม เหมือนกับตัวเอง และเชื่อว่าเหตุผลที่ทำให้สื่อต่างชาติสนใจและชื่นชอบสุนัขทั้ง 2 ตัว น่าจะมาจากภาพในแฟนเพจ ซึ่งส่วนใหญ่มักสื่อถึง "ความสุข" ผ่านใบหน้าของกลูต้า
ที่ผ่านมา มีเจ้าของนำสัตว์เลี้ยงมาสร้างเพจในสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก กรณีนี้นายสรศาสตร์ ยอมรับว่า ผู้เลี้ยงมักมองว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการหารายได้ แต่ต้องแยกแยะกัน เพราะในส่วนธุรกิจ เจ้าของเป็นคนทำและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุนัขแต่อย่างใด อีกทั้งยังส่งผลดีต่อทั้งตัวกลูต้า และกอลลั่มมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
นายสรศาสตร์ ยังเล่าต่อว่า ด้วยนิสัยชอบถ่ายรูปหรืออัดวิดีโอมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้กิจวัตรในแต่ละวันมักรวมถึงการพาสุนัขออกไปทำกิจกรรมในสถานที่ต่างๆ ซึ่งช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกับสุนัข 2 ตัวนี้ ถือเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด
การดูแลเอาใจใส่ และวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกันระหว่างเจ้าของกับสุนัขทั้ง 2 ตัวนี้ ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ เจ้ากลูต้า และกอลลั่ม กลายเป็นหมาที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมองว่าเป็นหมาที่มีความสุขที่สุดในโลก
"กลูต้า-กอลลั่ม" สุนัขที่ว่ากันว่า"มีความสุข"ที่สุดในโลก กับตัวตนของสัตว์เลี้ยงในโลกสมัยใหม่
เรื่องราวของเจ้ากลูต้า และกอลลั่ม 2 สุนัขจรพันธุ์ไทย ที่นายสรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ เก็บมาเลี้ยงและภายหลังพบว่าเจ้ากลูต้าป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกทำให้ต้องพาไปรักษา จนหายขาด กลายเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนจำนวนมากหลังเจ้าของเรียบเรียงเรื่องราวและภาพการใช้ชีวิตร่วมกับสุนัขมาเล่าผ่านโลกออนไลน์หลายเดือนที่ผ่านมา สื่อต่างชาติกว่า 20 ประเทศ นำเรื่องราวของกลูต้าและกอลลั่ม ไปเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ ยิ่งทำให้กลูต้า และกอลลั่ม เป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก
นายสรศาสตร์ วิเศษสินธุ์ เจ้าของสุนัข เล่าว่า หลังจากกลูต้าผ่านเรื่องลำบากมา รู้สึกมีความสุขที่มีคนชอบกลูต้า และกอลลั่ม เหมือนกับตัวเอง และเชื่อว่าเหตุผลที่ทำให้สื่อต่างชาติสนใจและชื่นชอบสุนัขทั้ง 2 ตัว น่าจะมาจากภาพในแฟนเพจ ซึ่งส่วนใหญ่มักสื่อถึง "ความสุข" ผ่านใบหน้าของกลูต้า
ที่ผ่านมา มีเจ้าของนำสัตว์เลี้ยงมาสร้างเพจในสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก กรณีนี้นายสรศาสตร์ ยอมรับว่า ผู้เลี้ยงมักมองว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการหารายได้ แต่ต้องแยกแยะกัน เพราะในส่วนธุรกิจ เจ้าของเป็นคนทำและไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสุนัขแต่อย่างใด อีกทั้งยังส่งผลดีต่อทั้งตัวกลูต้า และกอลลั่มมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
นายสรศาสตร์ ยังเล่าต่อว่า ด้วยนิสัยชอบถ่ายรูปหรืออัดวิดีโอมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้กิจวัตรในแต่ละวันมักรวมถึงการพาสุนัขออกไปทำกิจกรรมในสถานที่ต่างๆ ซึ่งช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกับสุนัข 2 ตัวนี้ ถือเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด
การดูแลเอาใจใส่ และวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกันระหว่างเจ้าของกับสุนัขทั้ง 2 ตัวนี้ ถือเป็นปัจจัยที่ทำให้ เจ้ากลูต้า และกอลลั่ม กลายเป็นหมาที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมองว่าเป็นหมาที่มีความสุขที่สุดในโลก