**นิราศแม่สะเรียง** ภาค ๘
**นิราศแม่สะเรียง** ภาค ๘ ( สถานวัดจอมกิตติ )
(๑๖๐) ๐ ราตรีนั้นหลับเช้า คาหมอน
เกิดนิมิตบังอร สุขแท้
ชวนกันแอ่วตะลอน ลอยล่อง แพนา
แพจอดแวะชะแง้ ม่วนแท้เปรมปรีดิ์ฯ
(๑๖๑) ๐ เดินกระซิกเกี่ยวก้อย รอยรัก
สนุกสุขพิทักษ์ พร่างพร้อย
สุคันธชาติลักษณ์ เนรมิต ปานฦา
ยลดอกรักเร่ย้อย เหี่ยวแห้งแรงหายฯ
(๑๖๒) ๐ โอ้ดอกรักเร่แพ้ พลัดพราก
รักเร่เล่ห์ปราศจาก ชิดใกล้
โพยมสิกระชาก ยุพเรศ จากพี่
ดังแหวกฤทัยให้ รักร้าวฤาไฉนฯ
(๑๖๓) ๐ อาดูรอกหมกไหม้ ใจสะ- ท้านเฮย
เศร้าอกตรมปลงละ มิได้
เนตรชลเอ่อท้นสระ ปลาคาร์ฟ ครวญแฮ
มีนปลอบมนให้ ห่อนร้องเศร้าหมองฯ
(๑๖๔) ๐ มีนากล่าวสะดุ้ง สองนาน
อัมพุชาสงสาร พี่นั้น
โอ้ชีวิตคืบคลาน สานต่อ ตื่นเฮย
โศกสลดหมดครั้น ครู่เช้าเพลาหายฯ
(๑๖๕) ๐ ยามตีห้ากิ่วท้อง ร้องหา
ขับรถดิ่งพารา กาดเช้า
เหม่อมองโจ๊กหน้าชา ช้าหมด อดเอย
หมูกรอบบ่เหลือเค้า เรียบเกลี้ยงคาตาฯ
(๑๖๖) ๐ จรบุรีรี่ข้าว ส้มกิน
ยวนอดอยากปากถวิล พรากพร้อง
หมูปิ้งไก่ปักษิน หายสาบ สูญแฮ
เหลือแต่หมี่เส้นซร้อง อีกข้าวนึ่งไสวฯ
(๑๖๗) ๐ เอาก็เอาพะโล้ เครื่องใน
ช้าอาจหมดเร็วไว จบสิ้น
เหนียวสังขยาใส ใส่ห่อ ตองเนอ
ดูดดื่มเต้าหู้ลิ้น ผ่อนร้อนลมสลายฯ
(๑๖๘) ๐ รุ่งอรุณนัดแล้ว จรวัด
จอมกิตติธาตุจรัส เจิดจร้า
ตะวันตกทิวทัศน์ แม่สะ- เรียงเนอ
เร็วรี่ยนต์ขย่มหล้า ถ่อขึ้นเนินสถานฯ
(๑๖๙) ๐ บ้านจอมกิตตินี้ หมู่สิบ สามเฮย
คับแคบจรรอนลิบ ล่วงล้ำ
ใจคิดฮอดดวงทิพย์ ทำข่ม ใจแฮ
ว้าเหว่อัสสชลช้ำ สะอื้นขืนทรวงฯ
(๑๗๐) ๐ ยาตราผ่านค่อนหล้า พาชัน
เปรียบสู่สรวงสวรรค์ หลั่นฟ้า
สายทิวหมอกไพรสัณฑ์ ราภพ ไศลแฮ
มวลแมกไม้พรรณกล้า รื่นน้ำค้างโรยฯ
(๑๗๑) ๐ เผอิญปะหลวงพี่หน้า กุฏิ
สถานวัดจอมกิตติ ใหญ่กว้าง
แปดสิบไร่ใจผลิ บานเบ่ง ไสวแฮ
หนาวยะเยือกเคว้งคว้าง คู่หล้ามหัศจรรย์ฯ
(๑๗๒) ๐ หลวงพี่ชี้แนะห้วง พัสถาน
ทางหริ่งลงบันดาล พร่างพริ้ม
บันไดเด่นปูนงาน ประหลาด แปลกแฮ
ทรงเด่นศาลายิ้ม ย่านล้านนาเหนือฯ
(๑๗๓) ๐ รอบศาลาเจิดจ้า ธรรมชาติ
ห้อมป่าพนาดาษ- ดื่นถ้วน
หมอกเอื่อยเอื่อยละลาด ฟันฝ่า แลเนอ
มารุตเนินเหิรห้วน ห่างร้อนหาหนาวฯ
(๑๗๔) ๐ จรจรัลแกร่วหน้า นำสบาย
ชมประวัติวัดหลาย หลากข้อง
ประวัติศาสตร์มากมาย มวลปราชญ์ อ้างเอย
ความกล่าวสี่พี่น้อง เวทย์ล้ำฤาษีฯ
(๑๗๕) ๐ นักพรตทั้งสี่ล้วน ร่ำเรียน
อิทธิฤทธิ์พากเพียร แก่กล้า
อาจารย์วัดเหง้าเขียน สาสน์กล่าว เล่าเนอ
ตนพี่นำธาตุฟ้า พุทธหล้าครอบองค์ฯ
(๑๗๖) ๐ สรรสถิตธาตุใต้ เจดีย์
เคารพนบทวี คู่แคว้น
สมเป็นมิ่งขวัญศรี สักการะ
ไร้ยากจนค่นแค้น หมู่บ้านเวียงไสวฯ
(๑๗๗) ๐ วิวทิวทัศน์เด่นหล้า ฤาสวรรค์
สูงเหยียดเมฆายัน ยอดฟ้า
องค์พระพุทธรูปสรรค์ สมสง่า งามแฮ
ราพณ์แสยะยิ้มทนต์หน้า ผลัดเฝ้าไล่มารฯ
(๑๗๘) ๐ ด้วยศรัทธากราบก้ม องค์ธาตุ
พระพุทธเจ้าบรรพชาติ ทาสน้อม
จรรโลงรื่นเบื้องบาท ตถาคต
ระลึกชินวรพร้อม หมั่นห้อมกรรมดีฯ
(๑๗๙) ๐ อันกิตติตินั้น ว่าแตะ
พุทธบารมีแยะ แตะต้อง
ม่อนจ๋อมกิตติ์ควรแวะ แนะเที่ยว นะเฮย
แม่สะเรียงแซ่ซ้อง ทั่วหล้านคราฯ ...
**นิราศแม่สะเรียง** ภาค ๘
เกิดนิมิตบังอร สุขแท้
ชวนกันแอ่วตะลอน ลอยล่อง แพนา
แพจอดแวะชะแง้ ม่วนแท้เปรมปรีดิ์ฯ
(๑๖๑) ๐ เดินกระซิกเกี่ยวก้อย รอยรัก
สนุกสุขพิทักษ์ พร่างพร้อย
สุคันธชาติลักษณ์ เนรมิต ปานฦา
ยลดอกรักเร่ย้อย เหี่ยวแห้งแรงหายฯ
(๑๖๒) ๐ โอ้ดอกรักเร่แพ้ พลัดพราก
รักเร่เล่ห์ปราศจาก ชิดใกล้
โพยมสิกระชาก ยุพเรศ จากพี่
ดังแหวกฤทัยให้ รักร้าวฤาไฉนฯ
(๑๖๓) ๐ อาดูรอกหมกไหม้ ใจสะ- ท้านเฮย
เศร้าอกตรมปลงละ มิได้
เนตรชลเอ่อท้นสระ ปลาคาร์ฟ ครวญแฮ
มีนปลอบมนให้ ห่อนร้องเศร้าหมองฯ
(๑๖๔) ๐ มีนากล่าวสะดุ้ง สองนาน
อัมพุชาสงสาร พี่นั้น
โอ้ชีวิตคืบคลาน สานต่อ ตื่นเฮย
โศกสลดหมดครั้น ครู่เช้าเพลาหายฯ
(๑๖๕) ๐ ยามตีห้ากิ่วท้อง ร้องหา
ขับรถดิ่งพารา กาดเช้า
เหม่อมองโจ๊กหน้าชา ช้าหมด อดเอย
หมูกรอบบ่เหลือเค้า เรียบเกลี้ยงคาตาฯ
(๑๖๖) ๐ จรบุรีรี่ข้าว ส้มกิน
ยวนอดอยากปากถวิล พรากพร้อง
หมูปิ้งไก่ปักษิน หายสาบ สูญแฮ
เหลือแต่หมี่เส้นซร้อง อีกข้าวนึ่งไสวฯ
(๑๖๗) ๐ เอาก็เอาพะโล้ เครื่องใน
ช้าอาจหมดเร็วไว จบสิ้น
เหนียวสังขยาใส ใส่ห่อ ตองเนอ
ดูดดื่มเต้าหู้ลิ้น ผ่อนร้อนลมสลายฯ
(๑๖๘) ๐ รุ่งอรุณนัดแล้ว จรวัด
จอมกิตติธาตุจรัส เจิดจร้า
ตะวันตกทิวทัศน์ แม่สะ- เรียงเนอ
เร็วรี่ยนต์ขย่มหล้า ถ่อขึ้นเนินสถานฯ
(๑๖๙) ๐ บ้านจอมกิตตินี้ หมู่สิบ สามเฮย
คับแคบจรรอนลิบ ล่วงล้ำ
ใจคิดฮอดดวงทิพย์ ทำข่ม ใจแฮ
ว้าเหว่อัสสชลช้ำ สะอื้นขืนทรวงฯ
(๑๗๐) ๐ ยาตราผ่านค่อนหล้า พาชัน
เปรียบสู่สรวงสวรรค์ หลั่นฟ้า
สายทิวหมอกไพรสัณฑ์ ราภพ ไศลแฮ
มวลแมกไม้พรรณกล้า รื่นน้ำค้างโรยฯ
(๑๗๑) ๐ เผอิญปะหลวงพี่หน้า กุฏิ
สถานวัดจอมกิตติ ใหญ่กว้าง
แปดสิบไร่ใจผลิ บานเบ่ง ไสวแฮ
หนาวยะเยือกเคว้งคว้าง คู่หล้ามหัศจรรย์ฯ
(๑๗๒) ๐ หลวงพี่ชี้แนะห้วง พัสถาน
ทางหริ่งลงบันดาล พร่างพริ้ม
บันไดเด่นปูนงาน ประหลาด แปลกแฮ
ทรงเด่นศาลายิ้ม ย่านล้านนาเหนือฯ
(๑๗๓) ๐ รอบศาลาเจิดจ้า ธรรมชาติ
ห้อมป่าพนาดาษ- ดื่นถ้วน
หมอกเอื่อยเอื่อยละลาด ฟันฝ่า แลเนอ
มารุตเนินเหิรห้วน ห่างร้อนหาหนาวฯ
(๑๗๔) ๐ จรจรัลแกร่วหน้า นำสบาย
ชมประวัติวัดหลาย หลากข้อง
ประวัติศาสตร์มากมาย มวลปราชญ์ อ้างเอย
ความกล่าวสี่พี่น้อง เวทย์ล้ำฤาษีฯ
(๑๗๕) ๐ นักพรตทั้งสี่ล้วน ร่ำเรียน
อิทธิฤทธิ์พากเพียร แก่กล้า
อาจารย์วัดเหง้าเขียน สาสน์กล่าว เล่าเนอ
ตนพี่นำธาตุฟ้า พุทธหล้าครอบองค์ฯ
(๑๗๖) ๐ สรรสถิตธาตุใต้ เจดีย์
เคารพนบทวี คู่แคว้น
สมเป็นมิ่งขวัญศรี สักการะ
ไร้ยากจนค่นแค้น หมู่บ้านเวียงไสวฯ
(๑๗๗) ๐ วิวทิวทัศน์เด่นหล้า ฤาสวรรค์
สูงเหยียดเมฆายัน ยอดฟ้า
องค์พระพุทธรูปสรรค์ สมสง่า งามแฮ
ราพณ์แสยะยิ้มทนต์หน้า ผลัดเฝ้าไล่มารฯ
(๑๗๘) ๐ ด้วยศรัทธากราบก้ม องค์ธาตุ
พระพุทธเจ้าบรรพชาติ ทาสน้อม
จรรโลงรื่นเบื้องบาท ตถาคต
ระลึกชินวรพร้อม หมั่นห้อมกรรมดีฯ
(๑๗๙) ๐ อันกิตติตินั้น ว่าแตะ
พุทธบารมีแยะ แตะต้อง
ม่อนจ๋อมกิตติ์ควรแวะ แนะเที่ยว นะเฮย
แม่สะเรียงแซ่ซ้อง ทั่วหล้านคราฯ ...