เรื่องมีงี้เว้ย สมัยปวช.เป็นเด็กช่างธรรมดา ๆ คนนึงที่ใช้ชีวิต ลุยๆ เฮฮากะแกงค์เพื่อนผู้ชายปกติ ทุกรูปแบบของเด็กช่างเว้ย มีโอกาสได้มาอยู่บ้านเช่ากะครอบครัวนึง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนของพ่อ เรียกแทนเค้าว่าลุงละกันนะ ลุงมีลูก 3 คน มีผู้ชายคนโตกะคนกลาง 2 คน น้องสาวสุดท้องอีก 1 คน ด้วยความที่ลูกบ้านนี้ หน้าตาดีทั้งบ้านเลยว่ะ มันทำให้ผมอดใจไม่ไหวเว้ยที่จะจีบน้องสาวคนสุดท้อง ผมเรียนเทคนิค เค้าเรียนพาณิชย์ มันเป็นอะไรที่เป๊ะมากเลยว่าป่ะ แถมยังอยู่บ้านเดียวกันอีก ความหวังเริ่มมาแล้วเว้ย พร้อมกันนั้นเอง ในบ้านไม่ได้มีแค่เราสองคนมันดันมีพี่ชายคนโตตัวแสบ ที่คอยยุให้เราจีบน้องสาวเค้าเว้ย พี่ชายคนโตเรียนสถาปัตถ์ อายุห่างกัน 3 ปี คนนี้หล่อสุด นึกภาพตามนะ ขาว ตาคม ปากแดงๆ จอนหนาๆ หน้าใสๆ ไม่มีสิว มีรอยสักบนตัว หุ่นดี สูงประมาณ 178 m ที่สำคัญผมต้องเป็นเบ้พี่ชายคนโตตลอด ไม่ว่าจะรีดผ้า ทำกับข้าวให้กิน ซักผ้าให้ ทำ
เกือบทุกอย่างอ่ะ เอาใจสารพัดเผื่อว่าจะมีผลกะการจีบน้องสาวเค้า ที่สำคัญผมต้องนอนร่วมห้องกะพี่ชายคนโตทุกวันบนเตียง 3 ฟุตครึ่ง ทุกคืน โคตรอึดอัดเลยว่าป่ะ บางวันผมไปกินเหล้ากะเพื่อนเมามาก็ใส่บ๊อกเซอร์นอน บางวันพี่ชายไปเมากะเพื่อนมาก็ถอดๆ โยนแล้วก็นอน ผมกะพี่ชายใช้ชีวิตแบบเดิมๆ เป็นปกติ จนเวลาผ่านไปเกือบๆ 2 ปี เราก็ยังนอนด้วยกันเป็นปกติ จนวันนึง น้องสาวคนเล็กพาเพื่อนมานอนที่บ้านเป็นสาวสวยเซ็กส์ซี่ ตัวเล็กๆ ขาวๆ สวย หุ่นดี มาอยู่ด้วยอาทิตย์นึงเว้ย ผมตัดสินใจเขียนจดหมายบอกความในใจกะ น้องสาว(วิธีจีบสาวสุดห่วย เชย บรรลัย) ฝากให้กับสาวสวยคนนั้น สุดท้ายผมได้คำตอบจากน้องสาวว่า เค้าเป็นทอมแล้วสาวสวยคนนั้นก็เป็นแฟนเค้าคบกันมาหลายเดือนแล้ว ผมนี่ สตั้นเลยคับ และแล้วไอ้พี่ชายตัวดีก็รู้เรื่อง ที่รู้เรื่องนี่คือรู้ว่าน้องสาวตัวเองเป็นทอมนานแล้วเว้ย ผมโดนหัวเราะเยาะเป็นตัวตลกอยู่สักพักใหญ่ สุดท้ายกะน้องสาวคนเล็กเรายิ่งสนิทกันกว่าเดิม แถมโดนน้องสาวคนเล็กล้อตลอด เรื่องของพี่ชายคนโตว่า นอนด้วยกัน ดูแลกันขนาดนี้ทำไมไม่ชอบกันแล้วเป็นแฟนกันว่ะ ผมเองก็ไม่มีใครแถมเราสองคนใกล้ชิดกันทุกวัน ผมไม่รู้เลยว่าผมแอบหวั่นไหวไปตอนไหน แล้วก็เมื่อไหร่ ผมเคยขอกอดพี่ชายเค้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร แถมเค้ายังกอดเราตอบเว้ย ความรู้สึกตอนนั้นแบบว่าอบอุ่นสุดๆไปเลยว่ะ หลังจากนั้น ผมขอพี่ชายนอนหนุนแขน ซุกหัวใต้แขน เกือบทุกคืน เราสองคนไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลยไปจากคำว่าพี่น้องจริงๆเว้ย หลังจากนั้นพี่ชายก็เรียนจบปวส.เราต้องแยกย้ายกันไปอยู่ที่อื่น ผมเองต้องย้ายไปอยู่หอพักกะแกงค์เพื่อนๆ เทคนิค ซึ่งเป็นบ้านเช่าชั้นเดียว มีหลายห้องเราอยู่กัน 7 คน แยกเป็นห้องเป็นส่วนไป ช่วงนั้นชีวิตโคตรสนุกเลย เราเที่ยวหลีหญิงพาณิชย์ตามห้าง เตะบอล เตะตะกร้อ ซ้อมดนตรีกันเป็นวง ผมเองเป็นนักร้องนำเพราะเล่นดนตรีไม่เป็น
ไรเลย และเล้วจุดเปลี่ยนก็มาถึง ทุกวันศุกร์เพื่อน ๆ ก็จะ แยกย้ายกลับบ้าน ช่วงนั้นเป็นช่วงฝึกงานผมไม่กลับบ้านเพราะวันเสาร์ผมต้องฝึกงาน แต่ยังดีที่มีเพื่อนอีกคนที่ไม่กลับเหมือนกัน ไอ้เพื่อนคนนี้เนี่ยบ้านเราอยู่อำเภอเดียวกันห่างกัน 8 กิโลเมตร มันเป็นมือเบสในวงของเรา แล้วมันก็มาเที่ยวที่บ้านผมประจำผมไม่ได้คิดอะไรกะมันเกินคำว่าเพื่อนปกติคนนึงเลย คืนนั้นมันมาเคาะประตูห้องผมถามผมว่าเมิงมีบุหรี่มั้ยเอาบุหรี่ไว้ไหนผมบอกให้มันหาแถวโต๊ะเขียนแบบ แล้วมันก็ตะโกนมาว่าหาไม่เจอออกมาหาให้มันหน่อย ผมก็ลุกขึ้นทั้งๆ งัวเงีย ไปหาบุหรี่ให้มัน แล้วเหตุการที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยนก็เกิดขึ้น ผมโดนเพื่อนมือเบสคนนั้น ล๊อคคอปิดปาก ลากผมเข้าห้องกระซิบข้างหูผมอย่าโวยวายกุขอคุยด้วยแป๊บเดียว ด้วยความที่ผมตัวเล็ก แล้วมันตัวใหญ่ อาการงัวเงีย ทำให้ผมหมดแรงจะต้านกำลังมันและแล้วผมโดนเพื่อนสนิทในวง เปิดชิงทางประตูหลังจนได้ ด้วยความเจ็บและแค้นที่โดนกระทำผมไม่คุยกะเพื่อนคนนั้นเกือบ 2 สัปดาห์ จนถึงเวลาใกล้สอบเพื่อนๆ นัดกันมาติวที่หอพัก แล้วไอ้มือเบสคนนั้น ก็เข้ามาชวนคุยพร้อมกับน้ำอัดลมแล้วก็ขนม ขอให้ผมช่วยติวให้ หลังจากนั้นมันก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเราก็ใช้ชีวิตปกติตามประสาเด็กช่าง แต่ผมดิว่ะ
ความรู้สึกเปลี่ยนไปแล้ว ผมรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนมือเบสคนนั้นแบบบอกไม่ถูกว่ะ ได้แต่แอบดูมันเรื่อยๆ ไม่เคยคุยกันเรื่องคืนนั้นอีกเลย จนเราจบ ปวช.ต้องแยกย้ายกันไปเรียนที่อื่น เอาเป็นว่าผมคงต้องเก็บเรื่องราวไว้แค่นี้ แต่ถ้ามีเวลา ผมจะกลับมาเขียนประสบการณ์ที่ได้เจอมาให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันอีกนะคับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม เอาไว้อ่านแล้วช่วยกันคอมเม้นท์กันหน่อยนะคับ
ตามจีบทอม แต่ตัวเองดันมาเป็นเกย์ซะงั้น