ค่าสินสอด ค่าน้ำนม ในยุคสมัยนี้ยังจำเป็นต้องมีอีกเหรอ?

สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกของเรา หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ🙏🏻
 
 
หลังจากที่ได้อ่านกระทู้ของคนอื่นมาเยอะมากๆ ไม่คิดว่าวันนึงจะต้องมาเจอกับปัญหานี้กับตัวเอง
ใช่ค่ะ เรากำลังมีปัญหาเรื่องสินสอดที่ต้องเคลียร์กับทางพ่อแม่เราเองเนื่องจากพ่อแม่แฟนไม่อาจจ่ายไหวได้เท่าที่พ่อแม่เราต้องการซึ่งทางบ้านแฟนขอลดค่าสินสอดลงบ้าง แต่เรากับแฟนคิดเหมือนกันว่าเรารักกันเพราะความรักจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินทองหรือทรัพย์สมบัติอะไรของกันเลย เราพูดเพื่อแสดงความจริงใจให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่าถึงไม่มีสินสอดเราก็ไม่ซีเรียสเลย
 

แต่เรากลับโดนพ่อแม่ตราหน้าว่าหลงผู้ชายจนหน้ามืดตามัวกระทั่งยอมที่จะไม่เอาค่าสินสอดสักบาท และโดนต่อว่าสารพัด“อยากให้เขาเอาฟรีๆหรอ” “กะxรี่ยังได้ค่าตัว” “ไม่คิดจะอยากให้แม่ได้ค่าน้ำนมบ้างหรือไง” 
 

พอเราแย้งขึ้นบ้างว่าทำไมต้องเอาเราไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่เขาทำอาชีพนั้น(ถ้าอยากได้เงินจากแบบนั้นไปเอาดีทางอาชีพอย่างว่าไม่ดีกว่าเหรอ?) แล้วก็แย้งที่ว่าลูกชายเขาก็โตมาจากนมแม่เหมือนกัน มีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูมาเหมือนกันแล้วแม่ก็โมโหใหญ่เลยค่ะ ทั้งร้องไห้ออกมาทั้งพูดเสียงดังต่อว่าเรา “ผู้ชายมันมี x-ำ แต่เรามี xี ยังไงก็เสียเปรียบ ไม่อยากให้แม่ได้เงินใช่มั้ย!” 
 

คือเราอึ้งคำพูดแม่มากๆ ไม่มีเหตุมีผลมาอธิบายให้เข้าใจได้ก็พ่นแต่คำพูดหยาบคายออกมา เราเสียใจมาก ใครๆก็อยากให้พ่อแม่ได้เงิน มีเงินกันทั้งนั้น
แต่สำหรับเราอยากให้พ่อแม่โดยไม่ใช่วิธีแบบนี้ เราอยากตอบแทนค่าน้ำนมให้พ่อแม่ด้วยเงินเดือนที่เราหามาได้เอง ไม่ใช่เรียกร้องจากฝ่ายชายที่เขาก็เลี้ยงลูกมาดี มีค่าใช้จ่าย มีค่าน้ำนมเหมือนกัน เราเครียดมาก ควรทำยังไงต่อไปดีคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
แม่เราเรียกเป็นเงิน 4แสน ทอง 4บาทค่ะ ค่าจัดงานก็จะให้ฝ่ายชายออกทั้งหมด ซึ่งทางบ้านแฟนขอลดลงบ้างแต่แม่เรามองว่าเขาดูถูกเราที่กล้ามาขอลด เราก็เหนื่อยใจกับความคิดหัวโบราณของแม่มากๆ คือเราคิดว่าอย่างน้อยบ้านแฟนเขายังให้เกียรติมีสินสอดให้ตามธรรมเนียม(อันคร่ำครึ)ที่พ่อแม่เราต้องการ
และเราคุยกับแฟนแล้วว่าถ้าแต่งกันแล้วจะแยกไปอยู่กัน 2คน ไม่ได้อยู่บ้านฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราเลยคิดว่าจริงๆมันไม่น่าจะมีสินสอดก็ได้เพราะไม่ได้แต่งเข้าบ้านแฟนไปดูแลทางบ้านฝ่ายชายค่ะ

ที่จริงเงินเดือนเราทั้งคู่ยังไม่ถึง 17,000 เลย หักค่าเดินทางไปทำงาน ค่ากินแต่ละวัน และให้พ่อแม่เดือนละ 4,000+  ก็อาจจะใช้เวลาพอสมควรในการเก็บ


แต่!! เท่าที่เราสังเกตดู แม่เราเหมือนจะอยากให้แต่งกันเร็วๆด้วยซ้ำ (อาจเพราะกลัวเราไปมีอะไรกันก่อนจนทำให้เสียราคาแหละ)
ทั้งที่ก็ไม่อยากจะลดสินสอดด้วย (หัวจะปวดไปอีก)  คือเรากับแฟนคบกันมาจะ 4ปีแล้วค่ะ เราทั้งคู่ก็ไปมาหาสู่ครอบครัวทั้ง2ฝ่ายอยู่บ่อยๆในช่วงปีหลังๆมานี้ ซึ่งกว่าแม่เราจะปล่อยให้ไปบ้านแฟนครั้งแรกก็ตอนคบกันได้ 2ปีแล้ว


ช่วงวันหยุดเรากับแฟนก็จะนัดกันออกไปเที่ยวเล่น ทานข้าวกันข้างนอก แถวๆสยามคือไปกันบ่อยมากเพราะเป็นที่ระหว่างกลางที่เราทั้งคู่จะเจอกันได้สะดวกเพราะบ้านเรากับบ้านแฟนอยู่ไกลกันพอสมควรเลย


แล้วตลอดที่คบกันมาจะ 4ปีเราเที่ยวจนเบื่อเที่ยวจนอิ่มแล้วในบริเวณกรุงเทพ ก็อยากออกเที่ยวต่างจังหวัดกันบ้างแบบที่เพื่อนๆเราหลายๆคู่ไปเที่ยวกับแฟน ซึ่งแน่นอนว่าพ่อแม่เราไม่ให้ไปกัน 2 ต่อ 2 เด็ดขาด เหตุผลก็คือกลัวเราไปมีอะไรกันนั่นแหละ


แต่ยอมรับว่าพ่อแม่ก็เลี้ยงมาแบบประคบประหงมมาก ตั้งแต่ม.ต้น ม.ปลาย มหาวิทยาลัย พ่อแม่จะคอยมารับมาส่งอยู่บ่อยๆ หากเขามีเวลา
เราเองก็เป็นเด็กตั้งใจเรียน เรียนดีมาโดยตลอดพ่อแม่บอกอะไรเชื่อฟังทุกอย่าง เขากำชับอยู่เสมอว่ายังไม่ต้องมีแฟนและห้ามแอบไปมีอะไรกับใครเด็ดขาด เราฟังประโยคนี้จนจำขึ้นใจเพราะรู้ว่าเขาก็เป็นห่วงและซีเรียสเรื่องนี้มากๆ


จนตอนเรียนใกล้จะจบเราถึงได้คบกับแฟนค่ะ ถึงตอนนี้ก็ทำงานกันแล้ว คิดว่าพอรับผิดชอบตัวเองได้ในระดับนึง และเราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกันที่พอรักกันแล้วก็อยากมีอะไรกันตามสัญชาตญาณมนุษย์


เรากับแฟนมีอะไรกันครั้งแรกหลังจากที่คบกันได้ 2ปี (ตอนนั้นอายุ 23) เราก็นับถือใจแฟนในระดับนึงที่รอได้จนเราพร้อม และรับผิดชอบตัวเองได้ในระดับนึงแล้ว แต่มันเป็นความลับกับพ่อแม่เรามาโดยตลอด เราไม่กล้าสารภาพค่ะ


จากที่เราพูดถึงในย่อหน้าก่อนหน้านี้ที่พ่อแม่เราห้ามเด็ดขาดที่จะให้เรากับแฟนไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน 2คนเพราะกลัวเราไปมีอะไรกัน เราก็คิดภาพไม่ออกว่ามันจะออกมาเป็นยังไงถ้าเราบอกพ่อแม่ว่าเรากับแฟนมีอะไรกันแล้วนะ อาจจะดีตรงที่บ้านแฟนต่อรองค่าสินสอดได้ หรือถ้าเป็นอีกทางนึงคือพ่อแม่ไม่ให้เราคบกันต่อ คิดแล้วก็เครียดมาก ไม่กล้าบอกเลยค่ะ


แล้วก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดีว่าการแต่งงานกับเรื่อง sex มันเกี่ยวกันตรงไหนคะ? เสียหายยังไงถ้ามีอะไรกันก่อนแต่งในเมื่อรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว? นอกซะจากว่าเอาแค่เรื่องความบริสุทธิ์มาเกร็งกำไรในรูปแบบของสินสอด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่