(1)
เรียน คนไข้ที่เคารพ!!!
หมอครับ!!! ไม่ใช่ "เทวดา" .....
นี่คือชีวิตจริง... ฮะ!!! ไม่ใช่หมอในหนังจีน ที่ แหมะมือลงไป... แล้วจะรู้ทันทีว่า "คุณป่วยเป็นโรคอะไร"
จะรักษาอย่างไร. ต้องรู้ว่าป่วยเป็นอะไรให้แน่ใจที่สุด!!!
เพราะ ฉนั้นจะต้องรอผลตรวจจากห้องแลบประกอบการพิจารณาด้วย. (คือ ที่หมอเขาสั่งเก็บเลือด เก็บฉี่ เก็บเสลด เก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าติดเชื้อ)
คือ โรคบางโรค... อาการที่แสดงออกอาจจะแค่เป็นไข้.. แต่เมื่อดูจากผลตรวจทางแลบแล้วจะรู้ว่า เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด/ตับ/ม้าม ฯลฯ แล้วก็ได้... แต่โรงพยาบาลชุมชนเครื่องมือในการตรวจยังมีไม่พอ หรือ ไม่มีสำหรับโรคบางโรค ก็ต้องส่งสารต่างๆ ไปตรวจในโรงพยาบาลศูนย์. ซึ่งก็ทำให้ต้องใช้เวลาค่อยข้างมาก....
เป็นอีกกรณี ที่อยากฝากไว้ให้บอกต่อๆ ลุงป้า น้า อา ฮะ!! คือ ไม่ควรขอหมอออกก่อนที่หมอจะประเมินแล้วว่าให้กลับบ้านได้ เพราะ บางทีผลการเพาะเชื้อยังไม่ขึ้น คนไข้ก็จะไม่ได้รับยาที่ถูกกับโรค ตายได้เหมือนกันฮะ^^
(2)
เชื่อว่า....
หลายคนคงเคยโมโห!!!.....
"หมอทำอะไรอยู่? ทำไมไม่มาสักที นั่งรอเป็นชั่วโมงๆๆๆ แล้วเนี๊ยะ!!!"
เอ่อ... คนไข้ที่เคารพฮะ!
หมอต้องขอโทษจริงๆ ฮะที่มาช้า....
ขอโทษที่ต้องออกตรวจคนไข้ที่ตึกตั้งแต่ 6 โมงเช้า....
ขอโทษที่พอดี ต้องปั๊มหัวใจคนไข้
ขอโทษที่หมอยังไม่มีเวลางีบ... เพราะต้องรีบมาตรวจผู้ป่วยที่ OPD ต่อ......
ขอโทษที่... ต้องให้คนไข้ "นั่งรอ" ตรวจเฉยๆๆ ฮะ
(3)
วัฏจักรชีวิตหมอ.....
เอ่อ.... นี่แค่ หนึ่งวันการทำงาน.....
....ต้องออกตรวจคนไข้ที่ตึก ตั้งแต่ โมงเช้า --> 09.30 น. วิ่งมาตรวจผู้ป่วยที่ OPD -----> บ่ายออกตรวจที่คลินิกเฉพาะโรค/ผ่าตัด /ออกหน่วย ----> เย็นอยู่เวรต่อ.... จนถึงเช้า..... -----> ขึ้นตึกตรวจคนไข้ต่อ.... =.=;
.......
อืมส์... มิน่า...
ทำไมประเทศไทยถึงขาดแคลน "หมอ" อืมส์...
คิดดูสิ!!! เวลากินข้าวยังไม่ค่อยมี.. แล้วเวลาซั่ม... ก็ยิ่งไม่มี หมอตัวน้อยๆๆๆ ก็เลยไม่เกิดสักที อิอิ^^
(อ่ะ.... ล้อเล่น คลายเครียดนร้าาาาา หมอนร้าาาา 5555+++)
(4)
มะ... หมอครับ!!!
ผมนั่งรอหมอมาตรวจตั้งแต่ตี 5 นะครับ!!!
พอเข้าตรวจจริงๆๆๆ. ทำไม ไม่ถึง 2 นาทีก็เสร็จแล้วคร้าบบบบบ
..................
เรียน คนไข้ที่เคารพโปรดทราบบบบบ......
คนไข้นั่งรอตรวจที่ OPD เฉลี่ยแล้ววันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 100 คน!!!
กว่าหมอจะตรวจคนไข้ที่ตึกเสร็จ ก็ปาไป 09.30 น. แล้ววววว
เอ้า!!!...
สมมุติว่าหมอเป็น ซูปเปอร์แมน...
ข้าวไม่ต้องกิน!!! ปวดฉี่ก็ห้ามไป! ปวดหนักก็อั้นไว้... หายตัวปิ๊งแวบมาที่ OPD เลย...
จะมีเวลาตรวจคนไข้ ประมาณ 150 นาที (จาก เก้าโมงครึ่งจนถึงเที่ยง. เพราะตอนบ่ายต้องออกตรวจที่หน่วย)
100 คน ตรวจให้เสร็จภายใน 150 นาที
ตกคนละ 1.5 นาที เองคร้าบบบบบ..... พี่น้องชาวไทยคร้าบบบบ!!!!
เพราะหากตรวจนานเกินกว่านั้น... วันทั้งวันก็ไม่มีวันตรวจเสร็จครับ!!!
......โปรดเข้าใจหมอด้วยครับ!!!......
(5)
เอ่อ.....
ผู้ปกครองที่เคารพ!!!
อาชีพหมอไม่ได้สบายอย่างที่คิดฮะ....
วันนึงของการทำงาน... คือ 36 ชม. ทนยิ่งกว่าหลอดไฟฟิลลิปซะอีก
ปีใหม่ /สงกรานต์ / ตรุษจีน / เข้าพรรษา ฯลฯ. ไม่เคยได้หยุด!!! เวลาจะกลับไปเยี่ยมบ้าน..... เที่ยวกับแฟน... ปาร์ตี้กับเพื่อน.. ยากมากกกกกกก
พ่อแม่ป่วยไม่มีเวลากลับไปดูแล..... เพราะต้องทำหน้าที่รักษาคนอื่น
เงินที่ได้เยอะจริง!! แต่มันต้องแลกกับ " เวลากิน เวลาขรี้. เวลาปรี้...เวลานอน.."
คือ ไม่ว่าคุณจะอาชีพไหน
ถ้าคุณขยัน! อดทน! และอดตาหลับขับตานอน แล้วตะบี้ตะบันทำงานเหมือนหมอ... รับรอง!!! รวยยิ่งกว่าหมอ!!!
.... ฟันธง!!!!......
เพราะฉะนั้น... อย่าบังคับลูกเรียนหมอเลยฮะ... ควรจะเรียนเพราะรัก... รักที่จะรักษา ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์
(6)
คนที่จะเป็นหมอได้..... ต้อง -แข็ง-!!! ฮะ
......
อะ... แอ่ม!!!! แข็งในที่นี้หมายถึง....
มีจิตใจที่เข้มแข็ง...
มีร่างกายที่แข็งแรงงงงงงงง......
อย่าคิดลึกฮะ. อย่าคิด... อิอิ ^^
.....
ที่ว่า "จิตใจเข้มแข็ง" คือ สามารถทนต่อแรงกดดันทั้งจากตัวคนไข้เอง และบรรดาญาติๆ ทั้งหลาย..... ต้องเข้มแข็งพอที่จะทำใจได้ เมื่อเราช่วยเหลือคนไข้ไม่ได้ (ตาย) และต้องใจแข็งพอที่จะเห็นแผลเหวอะหวะ... แขนขาดขาขาด...
ที่ว่า "ร่างกายแข็งแรง" คือ. ต้องมีร่างกายที่สามารถทำงานต่อเนื่องได้ถึง 36 ชม. ทนต่อความหิว. ทนต่อความง่วง ฯลฯ
สู้ๆๆๆ. ต่อไปฮะ คุณหมอที่รักทั้งหลาย
(7)
www.facebook.com/pages/หมอฮะ-เฮฮา/1457344274520883
คนไข้ที่เคารพ!..... โปรดเข้าใจหมอด้วยครับ!!!
เรียน คนไข้ที่เคารพ!!!
หมอครับ!!! ไม่ใช่ "เทวดา" .....
นี่คือชีวิตจริง... ฮะ!!! ไม่ใช่หมอในหนังจีน ที่ แหมะมือลงไป... แล้วจะรู้ทันทีว่า "คุณป่วยเป็นโรคอะไร"
จะรักษาอย่างไร. ต้องรู้ว่าป่วยเป็นอะไรให้แน่ใจที่สุด!!!
เพราะ ฉนั้นจะต้องรอผลตรวจจากห้องแลบประกอบการพิจารณาด้วย. (คือ ที่หมอเขาสั่งเก็บเลือด เก็บฉี่ เก็บเสลด เก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าติดเชื้อ)
คือ โรคบางโรค... อาการที่แสดงออกอาจจะแค่เป็นไข้.. แต่เมื่อดูจากผลตรวจทางแลบแล้วจะรู้ว่า เชื้อโรคเข้าสู่กระแสเลือด/ตับ/ม้าม ฯลฯ แล้วก็ได้... แต่โรงพยาบาลชุมชนเครื่องมือในการตรวจยังมีไม่พอ หรือ ไม่มีสำหรับโรคบางโรค ก็ต้องส่งสารต่างๆ ไปตรวจในโรงพยาบาลศูนย์. ซึ่งก็ทำให้ต้องใช้เวลาค่อยข้างมาก....
เป็นอีกกรณี ที่อยากฝากไว้ให้บอกต่อๆ ลุงป้า น้า อา ฮะ!! คือ ไม่ควรขอหมอออกก่อนที่หมอจะประเมินแล้วว่าให้กลับบ้านได้ เพราะ บางทีผลการเพาะเชื้อยังไม่ขึ้น คนไข้ก็จะไม่ได้รับยาที่ถูกกับโรค ตายได้เหมือนกันฮะ^^
(2)
เชื่อว่า....
หลายคนคงเคยโมโห!!!.....
"หมอทำอะไรอยู่? ทำไมไม่มาสักที นั่งรอเป็นชั่วโมงๆๆๆ แล้วเนี๊ยะ!!!"
เอ่อ... คนไข้ที่เคารพฮะ!
หมอต้องขอโทษจริงๆ ฮะที่มาช้า....
ขอโทษที่ต้องออกตรวจคนไข้ที่ตึกตั้งแต่ 6 โมงเช้า....
ขอโทษที่พอดี ต้องปั๊มหัวใจคนไข้
ขอโทษที่หมอยังไม่มีเวลางีบ... เพราะต้องรีบมาตรวจผู้ป่วยที่ OPD ต่อ......
ขอโทษที่... ต้องให้คนไข้ "นั่งรอ" ตรวจเฉยๆๆ ฮะ
(3)
วัฏจักรชีวิตหมอ.....
เอ่อ.... นี่แค่ หนึ่งวันการทำงาน.....
....ต้องออกตรวจคนไข้ที่ตึก ตั้งแต่ โมงเช้า --> 09.30 น. วิ่งมาตรวจผู้ป่วยที่ OPD -----> บ่ายออกตรวจที่คลินิกเฉพาะโรค/ผ่าตัด /ออกหน่วย ----> เย็นอยู่เวรต่อ.... จนถึงเช้า..... -----> ขึ้นตึกตรวจคนไข้ต่อ.... =.=;
.......
อืมส์... มิน่า...
ทำไมประเทศไทยถึงขาดแคลน "หมอ" อืมส์...
คิดดูสิ!!! เวลากินข้าวยังไม่ค่อยมี.. แล้วเวลาซั่ม... ก็ยิ่งไม่มี หมอตัวน้อยๆๆๆ ก็เลยไม่เกิดสักที อิอิ^^
(อ่ะ.... ล้อเล่น คลายเครียดนร้าาาาา หมอนร้าาาา 5555+++)
(4)
มะ... หมอครับ!!!
ผมนั่งรอหมอมาตรวจตั้งแต่ตี 5 นะครับ!!!
พอเข้าตรวจจริงๆๆๆ. ทำไม ไม่ถึง 2 นาทีก็เสร็จแล้วคร้าบบบบบ
..................
เรียน คนไข้ที่เคารพโปรดทราบบบบบ......
คนไข้นั่งรอตรวจที่ OPD เฉลี่ยแล้ววันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 100 คน!!!
กว่าหมอจะตรวจคนไข้ที่ตึกเสร็จ ก็ปาไป 09.30 น. แล้ววววว
เอ้า!!!...
สมมุติว่าหมอเป็น ซูปเปอร์แมน...
ข้าวไม่ต้องกิน!!! ปวดฉี่ก็ห้ามไป! ปวดหนักก็อั้นไว้... หายตัวปิ๊งแวบมาที่ OPD เลย...
จะมีเวลาตรวจคนไข้ ประมาณ 150 นาที (จาก เก้าโมงครึ่งจนถึงเที่ยง. เพราะตอนบ่ายต้องออกตรวจที่หน่วย)
100 คน ตรวจให้เสร็จภายใน 150 นาที
ตกคนละ 1.5 นาที เองคร้าบบบบบ..... พี่น้องชาวไทยคร้าบบบบ!!!!
เพราะหากตรวจนานเกินกว่านั้น... วันทั้งวันก็ไม่มีวันตรวจเสร็จครับ!!!
......โปรดเข้าใจหมอด้วยครับ!!!......
(5)
เอ่อ.....
ผู้ปกครองที่เคารพ!!!
อาชีพหมอไม่ได้สบายอย่างที่คิดฮะ....
วันนึงของการทำงาน... คือ 36 ชม. ทนยิ่งกว่าหลอดไฟฟิลลิปซะอีก
ปีใหม่ /สงกรานต์ / ตรุษจีน / เข้าพรรษา ฯลฯ. ไม่เคยได้หยุด!!! เวลาจะกลับไปเยี่ยมบ้าน..... เที่ยวกับแฟน... ปาร์ตี้กับเพื่อน.. ยากมากกกกกกก
พ่อแม่ป่วยไม่มีเวลากลับไปดูแล..... เพราะต้องทำหน้าที่รักษาคนอื่น
เงินที่ได้เยอะจริง!! แต่มันต้องแลกกับ " เวลากิน เวลาขรี้. เวลาปรี้...เวลานอน.."
คือ ไม่ว่าคุณจะอาชีพไหน
ถ้าคุณขยัน! อดทน! และอดตาหลับขับตานอน แล้วตะบี้ตะบันทำงานเหมือนหมอ... รับรอง!!! รวยยิ่งกว่าหมอ!!!
.... ฟันธง!!!!......
เพราะฉะนั้น... อย่าบังคับลูกเรียนหมอเลยฮะ... ควรจะเรียนเพราะรัก... รักที่จะรักษา ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์
(6)
คนที่จะเป็นหมอได้..... ต้อง -แข็ง-!!! ฮะ
......
อะ... แอ่ม!!!! แข็งในที่นี้หมายถึง....
มีจิตใจที่เข้มแข็ง...
มีร่างกายที่แข็งแรงงงงงงงง......
อย่าคิดลึกฮะ. อย่าคิด... อิอิ ^^
.....
ที่ว่า "จิตใจเข้มแข็ง" คือ สามารถทนต่อแรงกดดันทั้งจากตัวคนไข้เอง และบรรดาญาติๆ ทั้งหลาย..... ต้องเข้มแข็งพอที่จะทำใจได้ เมื่อเราช่วยเหลือคนไข้ไม่ได้ (ตาย) และต้องใจแข็งพอที่จะเห็นแผลเหวอะหวะ... แขนขาดขาขาด...
ที่ว่า "ร่างกายแข็งแรง" คือ. ต้องมีร่างกายที่สามารถทำงานต่อเนื่องได้ถึง 36 ชม. ทนต่อความหิว. ทนต่อความง่วง ฯลฯ
สู้ๆๆๆ. ต่อไปฮะ คุณหมอที่รักทั้งหลาย
(7)
www.facebook.com/pages/หมอฮะ-เฮฮา/1457344274520883