**นิราศแม่สะเรียง** ภาค ๑
...ดินแดนไทยล้านช้าง ร้างแรมดินไทยใหญ่ ไป่ราชยศมนตรี จุฬามณีเกิดแกล้ว แพ้วแผ้วป่ากุญชร กลอนกาพย์โคลงจัดแต่ง
แห่งดาวดินลมฟ้า หล้าเลิศภพจบล้ำ ค้ำถิ่นแม่สะเรียง เคียงคู่ชิดมิตรใกล้ เทิดไท้องค์ราชันต์ ถวัลย์เรืองพระยิ่งยศ สดศรีพุฒิพงศ์วงศ์
องค์ราชาภูมิพล ดลบันดาลเทพเจ้า เข้านอบน้อมบังคม สมเกียรติยศร่ำลือ ระพือลือศักดิ์ศรี บารมีสูงล้นพ้น
ล้นสุขทุกข์สลาย โรคภัยมลายหายไป โดยหทัยยืนหยัด ขัตติยเทพผ่องเกล้า เน้าว์หน่อเนื้อบาทบงสุ์ ขอองค์พระทรงศรี
มีชีวีเปี่ยมวาร์ บารมีไท้กร้าวแกร่ง ส่งแหล่งใจถวายพร วอนลิขิตพระองค์ ทรงพระเจริญชนม์นาน วารเชิญทวยเทพไท้
เกื้อก่อบุญหนุนให้ สุขล้ำนิรันดร์ กาลเทอญฯ...
(๑) ๐ จากนางมาที่นี้ สะเรียง แม่เอย
ถือหลักทำงานเพียง พ่อสู้
ยามเผือเหนื่อยขอเสียง กลอยแม่ ใจฮือ
ฝากส่งใจเพียงกู้ ยอดชู้คนดีฯ
(๒) ๐ ดงดอยเกิ้งป่ากล้วย บันเทิง
ทิวทอดเขายาวเชิง ลุ่มน้ำ
หนแคบอย่ามัวเหลิง ร่ำสุข ไรรา
แม่สะเรียงเสี่ยงย้ำ ลดเลี้ยวลับแลฯ
(๓) ๐ รพีพรรณรายหยอกเย้า ฤทัย
เช้าตรู่เหมันต์ใส ส่องหล้า
พสุธาอบอวลใจ ใยหมอก คลุมแฮ
สรรพสิ่งวิงวอนท้า ว่อนคุ้งธรณีฯ
(๔) ๐ นอนเพียงเดียวข่มสู้ ลังเล
หนาวร่างกายคลายเห ห่มสู้
อณูไอแทรกรวนเร พิศุทธ์ เพราฤา
เทียบมิเท่าหนาวพธู้ ห่มห้วงพราวเธอฯ
(๕) ๐ ปลุกตัวเองลุกขึ้น บรรจถรณ์
ปลุกจิตใจอาวรณ์ อาบน้ำ
แปรงทันตะเสียวสลอน สมเพช พ่อเอย
การเสร็จชำระซ้ำ ชักช้าเยี่ยงใดฯ
(๖) ๐ อารมณ์พียงนึกน้อง ร้องสนุก
ยามคิดเพียงรอนทุกข์ ผ่อนได้
รอนแรมดั่งไร้สุข ฦาทุกข์ ไรนอ
ใจอ่อนแอร่ำไห้ เปล่งร้องดนตรีฯ
(๗) ๐ วางแผนเตรียมฮึดสู้ ความหนาว
ตอนแต่งกายสะพราว ผ่องนี้
หวนย้อนนึกคิดคราว คราแม่ นะเฮย
เพราะเพิ่งเบิ่งเมื่อกี้ รูปน้องข้างเตียงฯ
(๘) ๐ อุ่นกายาออกร้อน เรไร
ฟ้าภิรมย์แจ่มใส สั่นสู้
ยินเสียงวิหคไกล เซ็งแซ่ ซ่านนา
คงปักษีไล่ชู้ ขู่เว้าวิงวอนฯ
(๙) ๐ มองกระเต็นวิ่งโล้ คาตา
กระรอกพาลกร่นลา กระเซ้า
กระแตละร้างหา รพิ พรรณเฮย
สองนกกรงจุกเศร้า กะสุ้มสิเน่หาฯ
(๑๐) ๐ เดินเนินดินวิ่งน้อย พลอยหาย
หวนนึกเหล็กเสียบกาย หลักใกล้
จรจรัลลัดขยาย เย็บแหล่ง ฝายแฮ
สู่สะพานเหยียบไล้ ล่ำขึ้นทุ่งนาฯ ...
**นิราศแม่สะเรียง**
แห่งดาวดินลมฟ้า หล้าเลิศภพจบล้ำ ค้ำถิ่นแม่สะเรียง เคียงคู่ชิดมิตรใกล้ เทิดไท้องค์ราชันต์ ถวัลย์เรืองพระยิ่งยศ สดศรีพุฒิพงศ์วงศ์
องค์ราชาภูมิพล ดลบันดาลเทพเจ้า เข้านอบน้อมบังคม สมเกียรติยศร่ำลือ ระพือลือศักดิ์ศรี บารมีสูงล้นพ้น
ล้นสุขทุกข์สลาย โรคภัยมลายหายไป โดยหทัยยืนหยัด ขัตติยเทพผ่องเกล้า เน้าว์หน่อเนื้อบาทบงสุ์ ขอองค์พระทรงศรี
มีชีวีเปี่ยมวาร์ บารมีไท้กร้าวแกร่ง ส่งแหล่งใจถวายพร วอนลิขิตพระองค์ ทรงพระเจริญชนม์นาน วารเชิญทวยเทพไท้
เกื้อก่อบุญหนุนให้ สุขล้ำนิรันดร์ กาลเทอญฯ...
ถือหลักทำงานเพียง พ่อสู้
ยามเผือเหนื่อยขอเสียง กลอยแม่ ใจฮือ
ฝากส่งใจเพียงกู้ ยอดชู้คนดีฯ
(๒) ๐ ดงดอยเกิ้งป่ากล้วย บันเทิง
ทิวทอดเขายาวเชิง ลุ่มน้ำ
หนแคบอย่ามัวเหลิง ร่ำสุข ไรรา
แม่สะเรียงเสี่ยงย้ำ ลดเลี้ยวลับแลฯ
(๓) ๐ รพีพรรณรายหยอกเย้า ฤทัย
เช้าตรู่เหมันต์ใส ส่องหล้า
พสุธาอบอวลใจ ใยหมอก คลุมแฮ
สรรพสิ่งวิงวอนท้า ว่อนคุ้งธรณีฯ
(๔) ๐ นอนเพียงเดียวข่มสู้ ลังเล
หนาวร่างกายคลายเห ห่มสู้
อณูไอแทรกรวนเร พิศุทธ์ เพราฤา
เทียบมิเท่าหนาวพธู้ ห่มห้วงพราวเธอฯ
(๕) ๐ ปลุกตัวเองลุกขึ้น บรรจถรณ์
ปลุกจิตใจอาวรณ์ อาบน้ำ
แปรงทันตะเสียวสลอน สมเพช พ่อเอย
การเสร็จชำระซ้ำ ชักช้าเยี่ยงใดฯ
(๖) ๐ อารมณ์พียงนึกน้อง ร้องสนุก
ยามคิดเพียงรอนทุกข์ ผ่อนได้
รอนแรมดั่งไร้สุข ฦาทุกข์ ไรนอ
ใจอ่อนแอร่ำไห้ เปล่งร้องดนตรีฯ
(๗) ๐ วางแผนเตรียมฮึดสู้ ความหนาว
ตอนแต่งกายสะพราว ผ่องนี้
หวนย้อนนึกคิดคราว คราแม่ นะเฮย
เพราะเพิ่งเบิ่งเมื่อกี้ รูปน้องข้างเตียงฯ
(๘) ๐ อุ่นกายาออกร้อน เรไร
ฟ้าภิรมย์แจ่มใส สั่นสู้
ยินเสียงวิหคไกล เซ็งแซ่ ซ่านนา
คงปักษีไล่ชู้ ขู่เว้าวิงวอนฯ
(๙) ๐ มองกระเต็นวิ่งโล้ คาตา
กระรอกพาลกร่นลา กระเซ้า
กระแตละร้างหา รพิ พรรณเฮย
สองนกกรงจุกเศร้า กะสุ้มสิเน่หาฯ
(๑๐) ๐ เดินเนินดินวิ่งน้อย พลอยหาย
หวนนึกเหล็กเสียบกาย หลักใกล้
จรจรัลลัดขยาย เย็บแหล่ง ฝายแฮ
สู่สะพานเหยียบไล้ ล่ำขึ้นทุ่งนาฯ ...