1. เปลี่ยนการเรียนรู้ เป็น “เรื่องสนุก หยุดไม่ได้”
....ถ้าความรู้สึกต่อการเรียนรู้วเป็นแบบนี้เมื่อไหร่
ต่อให้ต้องหมกอยู่ที่โต๊ะหนังสือนานแค่ไหน ก็ไม่รู้สึกเบื่อครับ
ถ้าเป็นไปได้เราต้องปรับทัศนคติให้เราสนใจในเรื่องที่จะเรียนรู้
ถ้าทำได้อย่างนั้นแล้ว เราจะยิ่งอยากรู้ลึก ยิ่งรู้ลึกยิ่งรู้สึกสนุก
ยกตัวอย่าง ผมสนใจเรื่อง
“ฮิโรชิ ตัวอย่างมนุษย์เงินเดือนที่รักครอบครัวสุดหัวใจ”
ผมก็ค้นเข้าไปว่า ฮิโรชิมีประวัติเป็นอย่างไร ทำอะไรในบริษัท
คำพูดคมๆ ที่ฮิโรชิพูด มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่
แล้วนิสัยแบบนี้ถูกถ่ายทอดไปถึงชินจังหรือเปล่า
ยิ่งค้นหา ยิ่งสนุกจนหยุดไม่ได้จริงๆ ครับ
2. จินตนาการตัวเราเองในวันที่สำเร็จ!
..วาดภาพเป้าหมายไว้ในหัวอย่างชัดเจน
ว่าถ้าเราประสบความสำเร็จตามนั้น แล้วเราจะเป็นอย่างไร
ข้อนี้ผมเคยลองมาแล้วกับตัวเอง ตอนเริ่มเรียนญี่ปุ่น
ผมวาดภาพว่า ถ้าผมประสบความสำเร็จเรื่องภาษาญี่ปุ่น
ผมจะได้ทำงานในบริษัทญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่
และวันนี้สิ่งที่จินตนาการก็กลายเป็นจริงแล้วครับ!
คุณเองก็ทำได้ง่ายๆ แล้วคุณจะแปลกใจว่าไฟในตัวคุณจะลุก
พร้อมแล้วที่จะลุยต่อไป!!
3. อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนรู้!
นักศึกษามหาวิทยาลัยโตเกียว เล่าว่า..
ช่วงก่อนจะสอบเข้ามหาลัยฯ โชคดีที่เค้าอยู่ในโรงเรียน
ที่เต็มไปด้วยคนที่ตั้งใจเรียนเพื่อจะสอบเข้ามหาลัยฯนี้
ทำให้เค้ามองว่า การตั้งใจเรียนคือเรื่องธรรมดา
..แต่มองกลับกัน ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มคนที่ชอบเล่นไปวันๆ
คุณอาจจะรู้สึกว่าการตั้งใจเรียนเป็นเรื่องแปลกแยก
อย่าลืมครับ มนุษย์เราคือลูกหลานของสิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร เราก็มักจะเป็นแบบนั้น
4. รู้สึกง่วงเมื่อใด ให้หยุด แล้วเข้านอนทันที
....นักเรียนม.โตเกียวคนนึง แนะนำว่า เราไม่ควรต่อสู้กับความง่วง
คุณรู้มั้ยว่า เรียนรู้ไป ผงกหัวไป ประสิทธิภาพในการเรียนรู้จะมีค่อนข้างต่ำ
ถ้าเป็นแบบนั้น คุณควรเลือกที่จะนอนเพื่อ Reset ร่างกายให้สดชื่นอีกครั้ง
แล้วตื่นขึ้นมา Focus ต่อจะดีเสียกว่า
....แต่ถ้าเผลอนอนยาวกว่าที่คิด กลายเป็นว่ายิ่งดี
เพราะว่า เราจะลนกับเวลา จนสามารถ Focus ได้มากกว่าในเวลาสั้นๆ
5. ประกาศมันออกไปกับคนรอบข้างที่เราไว้ใจ
นี่คือวิธีการตอกย้ำความตั้งใจตนเองให้ยิ่งหนักแน่นเข้าไปอีก
บางทีเราอาจจะมโน คิดไปว่า รอบข้างจะคิดยังไงกับเรื่องที่เราทำอยู่
แต่บางครั้งผลลัพธ์อาจจะออกด้านดีจนเราไม่คาดฝันก็ได้
....มีเด็กมหาลัยฯโตเกียวคนนึง
พูดไปแบบลอยๆ กับญาติพี่น้องว่า "หนูเข้า ม.โตเกียวดีมั้ยนะ"
แทนที่คนรอบข้างจะสบประมาทหรือถากถาง
แต่สิ่งที่เด็กหญิงคนนั้นเจอคือ ญาติมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป
คอยเข้ามาชมเสมอ คอยให้กำลังใจ เพราะเห็นความตั้งใจของเรา
เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะอยากทำทุกวิถีทางให้ประสบความสำเร็จ
และไม่ทำให้คนรอบข้างเราผิดหวัง
6. หาแรงจูงใจด้วย Motivation ลบ
ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้ คนก็จะชื่นชมว่าเก่งหรือสมองดี
จะได้เจอคู่ครองที่ฉลาดเก่งสมใจ
หลังจากนั้นให้เราผูกเรื่องนี้เอาไว้กับเรื่องลบๆ
ว่าถ้าไม่ตั้งใจเรียน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา
อาจต้องซ้ำชั้น เสน่ห์ของเราก็จะหดหายไปหมด
แล้วไม่ได้เจอคู่ครองอย่างที่หวังไว้ เป็นต้น
"บางครั้งความกดดันที่เหมาะสมก็คือแรงผลักดันให้เราตั้งใจลงมือทำ"
7. ให้ความสำคัญกับเพื่อนที่เรียนรู้เรื่องคล้ายๆ กัน
บางคนสอบวัดระดับทางภาษา ไม่ได้คะแนนตามที่หวังไว้
ทำให้รู้สึกท้อหยุดการเรียนภาษาอีกต่อไป
ผมว่าคนที่เผชิญหน้ากับความรู้สึกลักษณะนี้มีอยู่ไม่น้อยเลย
...แต่ถ้าเราคบกับเพื่อนที่มุ่งมั่นในเรื่องเดียวกับที่เราทำอยู่ไม่ว่าจะล้มยังไง
เพื่อนคนนั้นก็จะรู้วิธีการคุยกับเราอย่างไร
ให้สบายใจเพราะเค้าเคยลำบากมาเหมือนกัน
"เพื่อนดีๆ ยังมีอีกเยอะครับ!"
-7 วิธีนี้ ถ้าทำได้ เรียนรู้ไว ชีวิตไปไกล แน่นอน -
พบกับเรื่องเล่าญี่ปุ่น ในมุมที่คุณไม่เคยรู้
www.facebook.com/JapanSalaryman
7 เทคนิคเรียนรู้อย่างไรให้ไปได้ไกล แบบเด็กมหาลัยโตเกียว !!!
1. เปลี่ยนการเรียนรู้ เป็น “เรื่องสนุก หยุดไม่ได้”
....ถ้าความรู้สึกต่อการเรียนรู้วเป็นแบบนี้เมื่อไหร่
ต่อให้ต้องหมกอยู่ที่โต๊ะหนังสือนานแค่ไหน ก็ไม่รู้สึกเบื่อครับ
ถ้าเป็นไปได้เราต้องปรับทัศนคติให้เราสนใจในเรื่องที่จะเรียนรู้
ถ้าทำได้อย่างนั้นแล้ว เราจะยิ่งอยากรู้ลึก ยิ่งรู้ลึกยิ่งรู้สึกสนุก
ยกตัวอย่าง ผมสนใจเรื่อง
“ฮิโรชิ ตัวอย่างมนุษย์เงินเดือนที่รักครอบครัวสุดหัวใจ”
ผมก็ค้นเข้าไปว่า ฮิโรชิมีประวัติเป็นอย่างไร ทำอะไรในบริษัท
คำพูดคมๆ ที่ฮิโรชิพูด มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่
แล้วนิสัยแบบนี้ถูกถ่ายทอดไปถึงชินจังหรือเปล่า
ยิ่งค้นหา ยิ่งสนุกจนหยุดไม่ได้จริงๆ ครับ
2. จินตนาการตัวเราเองในวันที่สำเร็จ!
..วาดภาพเป้าหมายไว้ในหัวอย่างชัดเจน
ว่าถ้าเราประสบความสำเร็จตามนั้น แล้วเราจะเป็นอย่างไร
ข้อนี้ผมเคยลองมาแล้วกับตัวเอง ตอนเริ่มเรียนญี่ปุ่น
ผมวาดภาพว่า ถ้าผมประสบความสำเร็จเรื่องภาษาญี่ปุ่น
ผมจะได้ทำงานในบริษัทญี่ปุ่นยักษ์ใหญ่
และวันนี้สิ่งที่จินตนาการก็กลายเป็นจริงแล้วครับ!
คุณเองก็ทำได้ง่ายๆ แล้วคุณจะแปลกใจว่าไฟในตัวคุณจะลุก
พร้อมแล้วที่จะลุยต่อไป!!
3. อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนรู้!
นักศึกษามหาวิทยาลัยโตเกียว เล่าว่า..
ช่วงก่อนจะสอบเข้ามหาลัยฯ โชคดีที่เค้าอยู่ในโรงเรียน
ที่เต็มไปด้วยคนที่ตั้งใจเรียนเพื่อจะสอบเข้ามหาลัยฯนี้
ทำให้เค้ามองว่า การตั้งใจเรียนคือเรื่องธรรมดา
..แต่มองกลับกัน ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มคนที่ชอบเล่นไปวันๆ
คุณอาจจะรู้สึกว่าการตั้งใจเรียนเป็นเรื่องแปลกแยก
อย่าลืมครับ มนุษย์เราคือลูกหลานของสิ่งแวดล้อม
สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างไร เราก็มักจะเป็นแบบนั้น
4. รู้สึกง่วงเมื่อใด ให้หยุด แล้วเข้านอนทันที
....นักเรียนม.โตเกียวคนนึง แนะนำว่า เราไม่ควรต่อสู้กับความง่วง
คุณรู้มั้ยว่า เรียนรู้ไป ผงกหัวไป ประสิทธิภาพในการเรียนรู้จะมีค่อนข้างต่ำ
ถ้าเป็นแบบนั้น คุณควรเลือกที่จะนอนเพื่อ Reset ร่างกายให้สดชื่นอีกครั้ง
แล้วตื่นขึ้นมา Focus ต่อจะดีเสียกว่า
....แต่ถ้าเผลอนอนยาวกว่าที่คิด กลายเป็นว่ายิ่งดี
เพราะว่า เราจะลนกับเวลา จนสามารถ Focus ได้มากกว่าในเวลาสั้นๆ
5. ประกาศมันออกไปกับคนรอบข้างที่เราไว้ใจ
นี่คือวิธีการตอกย้ำความตั้งใจตนเองให้ยิ่งหนักแน่นเข้าไปอีก
บางทีเราอาจจะมโน คิดไปว่า รอบข้างจะคิดยังไงกับเรื่องที่เราทำอยู่
แต่บางครั้งผลลัพธ์อาจจะออกด้านดีจนเราไม่คาดฝันก็ได้
....มีเด็กมหาลัยฯโตเกียวคนนึง
พูดไปแบบลอยๆ กับญาติพี่น้องว่า "หนูเข้า ม.โตเกียวดีมั้ยนะ"
แทนที่คนรอบข้างจะสบประมาทหรือถากถาง
แต่สิ่งที่เด็กหญิงคนนั้นเจอคือ ญาติมีปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไป
คอยเข้ามาชมเสมอ คอยให้กำลังใจ เพราะเห็นความตั้งใจของเรา
เมื่อเป็นเช่นนั้น เราจะอยากทำทุกวิถีทางให้ประสบความสำเร็จ
และไม่ทำให้คนรอบข้างเราผิดหวัง
6. หาแรงจูงใจด้วย Motivation ลบ
ถ้าเข้ามหาวิทยาลัยโตเกียวได้ คนก็จะชื่นชมว่าเก่งหรือสมองดี
จะได้เจอคู่ครองที่ฉลาดเก่งสมใจ
หลังจากนั้นให้เราผูกเรื่องนี้เอาไว้กับเรื่องลบๆ
ว่าถ้าไม่ตั้งใจเรียน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา
อาจต้องซ้ำชั้น เสน่ห์ของเราก็จะหดหายไปหมด
แล้วไม่ได้เจอคู่ครองอย่างที่หวังไว้ เป็นต้น
"บางครั้งความกดดันที่เหมาะสมก็คือแรงผลักดันให้เราตั้งใจลงมือทำ"
7. ให้ความสำคัญกับเพื่อนที่เรียนรู้เรื่องคล้ายๆ กัน
บางคนสอบวัดระดับทางภาษา ไม่ได้คะแนนตามที่หวังไว้
ทำให้รู้สึกท้อหยุดการเรียนภาษาอีกต่อไป
ผมว่าคนที่เผชิญหน้ากับความรู้สึกลักษณะนี้มีอยู่ไม่น้อยเลย
...แต่ถ้าเราคบกับเพื่อนที่มุ่งมั่นในเรื่องเดียวกับที่เราทำอยู่ไม่ว่าจะล้มยังไง
เพื่อนคนนั้นก็จะรู้วิธีการคุยกับเราอย่างไร
ให้สบายใจเพราะเค้าเคยลำบากมาเหมือนกัน
"เพื่อนดีๆ ยังมีอีกเยอะครับ!"
-7 วิธีนี้ ถ้าทำได้ เรียนรู้ไว ชีวิตไปไกล แน่นอน -
พบกับเรื่องเล่าญี่ปุ่น ในมุมที่คุณไม่เคยรู้
www.facebook.com/JapanSalaryman