PAF รายใหญ่ตั้งโต๊ะเทก7บ. ชี้ซ่อนมูลค่าพลังงานเต็มสูบ

กระทู้คำถาม
ที่มาทันหุ้น

PAF หุ้นซ่อนมูลค่า หลังกลุ่มทุนใหญ่ด้านพลังงานทดแทน เตรียมทำดีลเทนเดอร์ออฟเฟอร์ PAF ตั้งราคา 7 บาท หวังนำใบอนุญาตโรงไฟฟ้าพลังงานแสอาทิตย์ และขยะเป็นใบเบิกทางลุยธุรกิจรับทรัพย์ งานนี้โครงสร้างผู้ถือหุ้นเปลี่ยนชัด กลุ่ม “สหพัฒน์” ถอยทัพ ซดกำไรพิเศษขายหุ้นชั้นพรีเมี่ยม จับพิกัดทำนิวไฮทะลุ 7.05 บาท

นายสมมาต ขุนเศษฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพนเอเซียฟุตแวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAF เปิดเผยกับ “หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น” ว่า ภายหลังจากบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการขึ้นเป็น “บริษัทโฮลดิ้ง” เพื่อลงทุนในภาคธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนสูงและสร้างรายได้ที่ยั่งยืน ล่าสุดบริษัทยังอยู่ระหว่างมองหาการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ๆ

ทางด้านแหล่งข่าวห้องค้า กล่าวว่า ขณะนี้มีกลุ่มทุนใหญ่ที่มีฐานเงินทุนสูง และอยู่เบื้องหลังวงการพลังงานทดแทน กำลังทำดีลเข้าซื้อกิจการ (เทกโอเวอร์) หุ้น PAF ซึ่งเมื่อปลายปี 2557 ที่ผ่านมา กลุ่มทุนรายดังกล่าวได้ส่งทีมผู้บริหารเข้าไปเจรจากับกลุ่ม “สหพัฒน์” (กลุ่มสหพัฒน์ถือหุ้น PAF ในสัดส่วน 42.68%) แล้ว และขณะนี้กลุ่มทุนได้อยู่ระหว่างเตรียมรายละเอียดเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนตั้งโต๊ะซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นรายย่อย (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) เพราะต้องการถือหุ้น PAF ในสัดส่วนเกิน 25% คาดราคาซื้อขายที่บริเวณ 7 บาท

                โดยกลุ่มทุนจะนำธุรกิจ “พลังงานทดแทน” เข้ามาสวมใน PAF เพราะปัจจุบันมีใบอนุญาติทำโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในมืออยู่แล้ว ซึ่งเป็นทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ ขยะ รวมถึงอยู่ระหว่างทำดีลเทกโอเวอร์โรงไฟฟ้า 1-2 แห่งคาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนภายในเร็วๆนี้

ลุ้นกลุ่มสหพัฒน์ไฟเขียว

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า หากมีกลุ่มทุนเข้ามาสวมธุรกิจพลังงาน PAF จริง มองว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยาก เพราะกลุ่มทุนสามารถเดินหน้าธุรกิจพลังงานทดแทนได้ทันที เนื่องจากที่ผ่านมา PAF ได้ทำการปรับโครงสร้างเพื่อรองรับธุรกิจใหม่ๆอยู่แล้ว ด้วยวิธีการขายสินทรัพย์ของบริษัทย่อยกว่า 10 บริษัท และทยอยบัญทึกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา

ทั้งนี้ประเมินว่า หากกลุ่มทุนใหม่เข้ามาเจรจากับกลุ่ม “สหพัฒน์”เพื่อขอเทกโอเวอร์ PAF  ฝ่ายวิจัยคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่ม “สหพัฒน์” จะปล่อยให้ดีลนี้เดินหน้าต่อไป เพราะ “สหพัฒน์” อาจจะไม่จำเป็นที่ใช้ PAF เป็นหัวหอกในการรุก “ธุรกิจพลังงานทดแทน” ภายใต้การบริหารของกลุ่ม “สหพัฒน์”

                เนื่องจากกลุ่ม“สหพัฒน์”เอง ก็มีบริษัทย่อยที่เป็นหัวหอก “ด้านพลังงานทดแทน” อยู่แล้ว อย่าง บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จำกัด (มหาชน) หรือ SCG เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ซึ่งมีบริษัทภายใต้การบริหาร 3 แห่ง ด้วยกำลังติดตั้งมากกว่า 200 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้า-ศรีราชา 186 เมกะวัตต์, โรงไฟฟ้า-ลำพูน 9.6 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้า-กำแพงเพชร 7.5 เมกะวัตต์ ดังนั้นจะเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าที่กลุ่ม“สหพัฒน์” จะขายหุ้น PAF ให้กลุ่มทุนใหม่ และบุ๊กกำไรพิเศษจากการขายหุ้น PAF ชั้นพรีเมี่ยม

ขึ้นทำนิวไฮใหม่7.05บ.

หากมองธุรกิจ PAF ในปัจจุบัน คาดไตรมาส 4/2557กำไรสุทธิและ รายได้จะเติบโตต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นการบุ๊กกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ รวมถึงได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ความต้องการสินค้าของกลุ่ม ICC เพิ่มมากขึ้น ล่าสุด PAF มีธุรกิจเพียงธุรกิจเดียว คือ รับจ้างผลิต (OEM) ให้กับ ICC ซึ่งเป็นสินค้าแฟชั่น เช่น รองเท้าและกระเป๋า

                นายกฤษณ์ สุวรรณพิบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น PAF ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ โดยในระยะสั้น PAF มีเป้าหมายเพื่อขึ้นทดสอบเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 6.15 บาท และหาก PAF ยังคงมีความแข็งแกร่ง และสามารถปิดตลาดเหนือ 6.40 บาทได้

                โดยมีนัยว่า PAF กำลังขึ้นทดสอบเพื่อทำจุดสูงสุด (นิวไฮด์) ครั้งใหม่ เบื้องต้นจะขึ้นทดสอบที่ไฮเดิมก่อนที่ 6.70 บาท และ ขึ้นทดสอบทำนิวไฮด์ใหม่ที่ 7.05 บาท ล่าสุด PAF ปิดตลาด (5ก.พ.58)ที่ 5.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท หรือ 8.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 412.80 ล้านบาท

ตั้งรง.รับฟอกย้อมผ้า

อย่างรก็ตาม PAF แจ้งว่า ตามที่ บริษัท อินเตอร์ เนชั่นแนลคิวริตี้ฟุตแวร์ จำกัด เป็นหนี้บริษัทได้ตกลงชำระหนี้บางส่วนก่อนโดยใช้เครื่องจักรตีโอนชำระหนี้ คิดเป็นมูลค่าจำนวน  12,090,000 บาท บริษัทจึงได้ลงทุนจัดตั้งบริษัทใหม่ โดยซื้อเงินลงทุนเป็นหุ้นในบริษัท เอ็กแซ็ค คิว จำกัด เพื่อประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมฟอกย้อมผ้าที่สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยรับจ้างฟอกย้อมจากบุคคลทั่วไป

          ทั้งนี้ บริษัท เอ็กแซ็ค คิว จำกัด  จัดตั้งขึ้นโดยทุนจดทะเบียน  16  ล้านบาท แบ่งเป็น 160,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ100 บาท ซึ่ง PAF ใช้เครื่องจักรชำระมูลค่าหุ้นจำนวน 12,090,000 บาท คิดเป็น 120,900 หุ้น และใช้เงินสดชำระค่าหุ้นอีกจำนวน 3,907,000 บาท คิดเป็น 39,070 หุ้น รวม PAF  ถือหุ้น 15,997,000 บาท คิดเป็น 159,970 หุ้น  เท่ากับร้อยละ 99.98  หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 15,997,000 บาท โดยบริษัท เอ็กแซ็คคิว จำกัด ได้ประชุมจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที 5 กุมภาพันธ์  2558
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่