ว่ากันว่าในช่วงสงคราม ข่าวสารคือสิ่งที่มีมูลค่าสูงสุด ไม่นานมานี้อังกฤษเพิ่งเปิดเผยความลับที่ปกปิดมานานกว่า50ปีว่า อลัน ทัวริ่ง นักคณิตศาสตร์อาจารย์มหาลัยที่ถูกจับฐานเป็นรักร่วมเพศ เคยเข้าร่วมโครงการลับกับทางการอังกฤษเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่2ในการช่วยถอดรหัสลับนาซีจากเครื่องอีนิกมา และเขาคือบุคคลที่สร้างเครื่องมือชื่อคริสโตเฟอร์ซึ่งสามารถถอดรหัสทุกอย่างในโลกได้สำเร็จ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ฝ่ายพันธมิตรพลิกสถานการณ์กลับมาชนะสงคราม นอกจากนั้น สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ของเขายังเป็นต้นแบบของเครื่อง คอมพิวเตอร์ ที่ผมและคุณกำลังใช้งานอยู่ในตอนนี้ด้วย
The Imitation Game เล่าเรื่องราวของ อลัน ทัวริ่ง (เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์) นักคณิตศาสตร์หนุ่มชาวอังกฤษที่แปลกแยกจากสังคม เขามีนิสัยประหลาด พูดจาขวานผ่าซาก เย่อหยิ่ง และมั่นใจในตัวเองสูง แต่ความอัจฉริยะเรื่องการแก้ไขปริศนาทำให้ฝ่ายทหารยอมรับเขาเข้าทำงานในทีมลับที่รวมคนหัวกะทิจากหลากหลายสาขาเอาไว้ พวกเขามีภารกิจในการถอดรหัสตัวเลขเป็นล้านล้านตัวที่แฝงมากับข้อความคำพูดของทหารเยอรมันซึ่งออกอากาศผ่านเสียงตามสายภายในเวลา24ชั่วโมง ทุกเที่ยงคืนนาซีจะตั้งรหัสใหม่ หากถอดหรัสไม่ได้พวกเขาก็ต้องเริ่มทำทุกอย่างใหม่ทั้งหมด
อลัน ทัวริ่ง ใช้ความกล้าและความเถรตรงจนได้ขึ้นเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งก็สร้างความไม่พอใจให้กับใครหลายคน เขาไล่คนเก่าออกไป2 พร้อมกับเปิดทดสอบคนใหม่เข้าร่วมโครงการด้วยเกมอักษรไขว้ อลัน ถูกใจความฉลาดของ โจแอน คลาร์ก (เคียร่า ไนท์ลีย์) จึงรับเธอมาเป็นหญิงสาวคนเดียวของทีม รัฐบาลอังกฤษเสียงบประมาณให้เขาไปมากมาย ทีมถอดรหัสอีนิกมาจึงถูกกดดันและตั้งความหวังมาก พวกเขาต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะทุกวินาทีที่ผ่านไป เกี่ยวพันถึงชีวิตคนหลายล้านคน
บทหนังเข้มข้น มีจุดที่ทำให้ผู้ชมลุ้นตามพอสมควร แม้ว่าจะเดินเรื่องตัดสลับ อดีต ปัจจุบัน อนาคต แต่ก็ไม่ได้ทำให้สับสน ซํ้าการเรียงลำดับเวลาแบบนี้ยังทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไปพฤติกรรมของ อลัน ทัวริ่ง ได้ดีขึ้น ถึงจะเป็นหนังสงครามที่ไม่มีฉากต่อสู้ด้วยอาวุธ แต่การต่อสู้ด้วยความคิดบนแผ่นกระดาษ การถอดรหัสลับจากวิทยุ ก็ทำให้มันเป็นภาพยนตร์สงครามที่ดูสนุกในรูปแบบใหม่ ติดตรงที่พล็อตยังคงทำตามสูตรสำเร็จ
ด้วยความที่เป็นหนังชีวประวัติผู้กำกับจึงเน้นไปที่ความทุ่มเทของ อลัน กับการถอดรหัสที่หลายคนพูดว่าไม่สามารถถอดได้ ส่วนประเด็นเรื่องเพศและความแปลกแยกในสังคมก็ถูกนำเสนอข้างเคียงได้น่าสนใจชัดเจน มีพลัง เชิดชูกลุ่มคนที่แตกต่างแต่มีความสามารถ ด้านเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองค่อนข้างเบาเมื่อเทียบกับหนังสงครามโลกเรื่องอื่น มีพาร์ทสืบสวนนิดหน่อย มีศัพท์เทคนิคคณิตศาสตร์บ้าง ทว่าไม่ซับซ้อนเกินเข้าใจ
ต้องบอกว่านี่เป็นการแสดงที่พีคที่สุดของ เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์ ในบท อลัน ทัวริ่ง เขาถ่ายทอดอารมณ์ออกมาอย่างยอดเยี่ยม ทำให้คนดูเชื่อในบุคลิกเนิร์ดๆ เอาจริงเอาจัง รวมถึงทำให้เราสงสาร เห็นใจ และเข้าใจ คนเพศที่สาม ไม่แปลกที่เขามีชื่อลุ้นรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเวทีออสการ์ ขณะที่ เคียร่า ไนท์ลีย์ ซึ่งเล่นเป็น โจแอน โดดเด่นในหมู่นักแสดงชาย ความสดใสของเธอทำให้โทนหนังไม่หม่นเศร้าจนเกินไป
อลัน ทัวริ่ง เป็นตัวแทนของคำพูดที่ว่า ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน ดังนั้น หากเรายอมรับในผลงานของใครสักคน เราจึงควรยอมรับตัวตนของเขาด้วย น่าเสียดายมนุษย์จำนวนมากยังมีความคิดกีดกันกลุ่มคนบางกลุ่ม เพียงเพราะพวกเขาไม่ได้ชอบหรือมีชีวิตเหมือนกับคนส่วนใหญ่ในสังคม ซํ้าร้ายในหลายประเทศยังมองเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องผิดบาป และลงโทษในสิ่งที่พวกเขาเองก็ไม่ได้อยากเป็น
คะแนน 8.5/10
โดย นกไซเบอร์
ที่มา
https://www.facebook.com/pages/Cyberbird/1407293122900238?ref=hl
รีวิวหนัง : The Imitation Game ผลงานของชายผู้แตกต่าง
ว่ากันว่าในช่วงสงคราม ข่าวสารคือสิ่งที่มีมูลค่าสูงสุด ไม่นานมานี้อังกฤษเพิ่งเปิดเผยความลับที่ปกปิดมานานกว่า50ปีว่า อลัน ทัวริ่ง นักคณิตศาสตร์อาจารย์มหาลัยที่ถูกจับฐานเป็นรักร่วมเพศ เคยเข้าร่วมโครงการลับกับทางการอังกฤษเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่2ในการช่วยถอดรหัสลับนาซีจากเครื่องอีนิกมา และเขาคือบุคคลที่สร้างเครื่องมือชื่อคริสโตเฟอร์ซึ่งสามารถถอดรหัสทุกอย่างในโลกได้สำเร็จ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้ฝ่ายพันธมิตรพลิกสถานการณ์กลับมาชนะสงคราม นอกจากนั้น สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ของเขายังเป็นต้นแบบของเครื่อง คอมพิวเตอร์ ที่ผมและคุณกำลังใช้งานอยู่ในตอนนี้ด้วย
The Imitation Game เล่าเรื่องราวของ อลัน ทัวริ่ง (เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์) นักคณิตศาสตร์หนุ่มชาวอังกฤษที่แปลกแยกจากสังคม เขามีนิสัยประหลาด พูดจาขวานผ่าซาก เย่อหยิ่ง และมั่นใจในตัวเองสูง แต่ความอัจฉริยะเรื่องการแก้ไขปริศนาทำให้ฝ่ายทหารยอมรับเขาเข้าทำงานในทีมลับที่รวมคนหัวกะทิจากหลากหลายสาขาเอาไว้ พวกเขามีภารกิจในการถอดรหัสตัวเลขเป็นล้านล้านตัวที่แฝงมากับข้อความคำพูดของทหารเยอรมันซึ่งออกอากาศผ่านเสียงตามสายภายในเวลา24ชั่วโมง ทุกเที่ยงคืนนาซีจะตั้งรหัสใหม่ หากถอดหรัสไม่ได้พวกเขาก็ต้องเริ่มทำทุกอย่างใหม่ทั้งหมด
อลัน ทัวริ่ง ใช้ความกล้าและความเถรตรงจนได้ขึ้นเป็นหัวหน้าทีม ซึ่งก็สร้างความไม่พอใจให้กับใครหลายคน เขาไล่คนเก่าออกไป2 พร้อมกับเปิดทดสอบคนใหม่เข้าร่วมโครงการด้วยเกมอักษรไขว้ อลัน ถูกใจความฉลาดของ โจแอน คลาร์ก (เคียร่า ไนท์ลีย์) จึงรับเธอมาเป็นหญิงสาวคนเดียวของทีม รัฐบาลอังกฤษเสียงบประมาณให้เขาไปมากมาย ทีมถอดรหัสอีนิกมาจึงถูกกดดันและตั้งความหวังมาก พวกเขาต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะทุกวินาทีที่ผ่านไป เกี่ยวพันถึงชีวิตคนหลายล้านคน
บทหนังเข้มข้น มีจุดที่ทำให้ผู้ชมลุ้นตามพอสมควร แม้ว่าจะเดินเรื่องตัดสลับ อดีต ปัจจุบัน อนาคต แต่ก็ไม่ได้ทำให้สับสน ซํ้าการเรียงลำดับเวลาแบบนี้ยังทำให้เราเข้าใจที่มาที่ไปพฤติกรรมของ อลัน ทัวริ่ง ได้ดีขึ้น ถึงจะเป็นหนังสงครามที่ไม่มีฉากต่อสู้ด้วยอาวุธ แต่การต่อสู้ด้วยความคิดบนแผ่นกระดาษ การถอดรหัสลับจากวิทยุ ก็ทำให้มันเป็นภาพยนตร์สงครามที่ดูสนุกในรูปแบบใหม่ ติดตรงที่พล็อตยังคงทำตามสูตรสำเร็จ
ด้วยความที่เป็นหนังชีวประวัติผู้กำกับจึงเน้นไปที่ความทุ่มเทของ อลัน กับการถอดรหัสที่หลายคนพูดว่าไม่สามารถถอดได้ ส่วนประเด็นเรื่องเพศและความแปลกแยกในสังคมก็ถูกนำเสนอข้างเคียงได้น่าสนใจชัดเจน มีพลัง เชิดชูกลุ่มคนที่แตกต่างแต่มีความสามารถ ด้านเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองค่อนข้างเบาเมื่อเทียบกับหนังสงครามโลกเรื่องอื่น มีพาร์ทสืบสวนนิดหน่อย มีศัพท์เทคนิคคณิตศาสตร์บ้าง ทว่าไม่ซับซ้อนเกินเข้าใจ
ต้องบอกว่านี่เป็นการแสดงที่พีคที่สุดของ เบเนดิคต์ คัมเบอร์แบทช์ ในบท อลัน ทัวริ่ง เขาถ่ายทอดอารมณ์ออกมาอย่างยอดเยี่ยม ทำให้คนดูเชื่อในบุคลิกเนิร์ดๆ เอาจริงเอาจัง รวมถึงทำให้เราสงสาร เห็นใจ และเข้าใจ คนเพศที่สาม ไม่แปลกที่เขามีชื่อลุ้นรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมเวทีออสการ์ ขณะที่ เคียร่า ไนท์ลีย์ ซึ่งเล่นเป็น โจแอน โดดเด่นในหมู่นักแสดงชาย ความสดใสของเธอทำให้โทนหนังไม่หม่นเศร้าจนเกินไป
อลัน ทัวริ่ง เป็นตัวแทนของคำพูดที่ว่า ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน ดังนั้น หากเรายอมรับในผลงานของใครสักคน เราจึงควรยอมรับตัวตนของเขาด้วย น่าเสียดายมนุษย์จำนวนมากยังมีความคิดกีดกันกลุ่มคนบางกลุ่ม เพียงเพราะพวกเขาไม่ได้ชอบหรือมีชีวิตเหมือนกับคนส่วนใหญ่ในสังคม ซํ้าร้ายในหลายประเทศยังมองเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องผิดบาป และลงโทษในสิ่งที่พวกเขาเองก็ไม่ได้อยากเป็น
คะแนน 8.5/10
โดย นกไซเบอร์
ที่มา https://www.facebook.com/pages/Cyberbird/1407293122900238?ref=hl