อยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเองและอยากบ่นไปพร้อมๆกัน
โรคซึมเศร้า คืออะไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://goo.gl/tNC9Nz
เราเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เป็นมานานหลายปีมากแล้ว แต่เพิ่งจะได้พบจิตแพทย์ไปเมื่อไม่นานนี้เอง
ปัญหาของเราเกิดจาก แม่กับพ่อ เรื่องนึงเลยคือ แม่เราเป็นคนด่าแรง หยาบ ไม่มีเหตุผลและเสียงดังมาก
เราไม่เคยนอกลู่นอกทาง ไม่ได้ทำตัวไม่ดี ผลการเรียนอยู่ในระดับกลางมาตลอด แต่ก็ยังโดนยำซะยับเยินได้
แม่เป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องหลายๆอย่างที่เกิดขึ้น เราแทบจะทะเลาะกับแม่ทุกครั้งที่เจอหน้า
เป็นสิบๆปีแล้ว... เรื่องแม่ไม่ขอพูดอะไรมาก
เข้าเรื่องเลย....
อาการของเราคือ เราชอบเก็บตัว ชอบอยู่คนเดียว ชอบอยู่ในจินตนาการ ในโลกของตัวเอง มากกว่าอยู่ในความเป็นจริง
เบื่อทุกๆอย่าง ท้อแท้ ไม่อยากพูด ไม่อยากคุย ไม่อยากเจออะไรเลย เวลากินได้ ก็กินเหมือนอดอยาก เวลาไม่อยากกิน ก็ไม่กินเลย 2 3 วันก็มี
การนอนก็เหมือนกัน นอนได้ก็นอนเหมือนตาย แต่ส่วนมากจะนอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางดึก แทบไม่ได้นอนสบายๆ...
ทุกครั้งที่เราเครียดและร้องไห้ เรามักจะทำร้ายตัวเอง ทำทุกอย่างให้ตัวเองเจ็บตัว ขว้างปาข้าวของ เพื่อระบายอารมณ์
เราคิดจะฆ่าตัวตายและพยามจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ
ส่วนใหญ่เราจะเครียดจนไม่พูดกับใครเลย กลับจากเรียนก็เข้าห้องนอนทันที
แน่นอน ทุกๆคนในครอบครัวก็ไม่เคยรู้ว่าเราเป็นอะไร
จนวันนึง หลังจากอดทนมานานมาก ก็ตัดสินใจเข้าพบจิตแพทย์ (คิดแล้วว่าไปหาทันตแพทย์คงช่วยอะไรไม่ได้ = =")
แผนกจิตเวช
พบจิตแพทย์ครั้งแรก
หลายคนคงคิดว่า แผนกนี้จะต้องมีแต่คนสติไม่สมประกอบ คนบ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่จะนึกออก
เปล่าเลย... ภาพที่เห็น คือ
นักเรียน เพราะยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย , คุณป้า คุณลุง ที่ดูปกติมากๆ และอีกหลายๆคนที่ดูแล้ว ไม่น่าจะมานั่งอยู่ที่แผนกนี้
หลังจากรอคิวอย่างยาวนาน ก็ได้เข้าพบจิตแพทย์สมใจ
เมื่อเจอหน้าคุณหมอ และได้เล่าปัญหา (พร้อมๆกับพยามกลั้นไม่ให้ร้องไห้ไปด้วย กลัวหมอฟังไม่รู้เรื่อง T^T) ให้คุณหมอฟังแล้ว
คุณหมอให้คำปรึกษาดีมากๆ และเล่าให้ฟังนิดหน่อยว่า มีคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเรา มาพบคุณหมอค่อนข้างเยอะ
สาเหตุไม่ค่อยต่างกัน เกิดจากการถูกกดดันจากครอบครัว อยากให้เป็นแบบนั้น เรียนแบบนี้ โดยไม่ถามความสมัครใจของเด็ก
เกิดเป็นความเครียด สะสมไปเรื่อยๆก็ไม่ไหว
ตัวเราเองตัดสินใจพบหมอ เพราะเรียนปีสุดท้ายแล้ว ปัญหาที่เกิดมันรบกวนการเรียนและชีวิตประจำวันไปหมด
หลังจากปรึกษาเสร็จแล้ว ก็ได้ยามากิน 1 เดือน พร้อมกับนัดพบกันอีกที
ปัญหาเกิดหลังจากตัดสินใจบอกครอบครัว ยกเว้นพ่อกับแม่ (เราคนจีนค่ะ ญาติเยอะมากๆ) ทุกคนพูดพูดเหมือนกันหมด
" ทำตัวมีปัญหาเอง คิดไปเองว่าต้องหาหมอ ตัวเองทำตัวไม่ดีเอง "
คือเดี๋ยวนะ มีใบรับรองแพทย์ มียามาให้ดู และทุกคนรู้ว่าแม่เราเป็นยังไง ยังไม่มีใครรับฟังเลยเหรอ ??
มีอาม่าคนเดียวที่พอจะรับฟังอยู่บ้าง และคงโทรไปเล่าให้พ่อเราฟัง เพราะตอนไปพบแพทย์ครั้งที่ 2 พ่อโทรมาหาเรา
ถามแค่ "หาหมออยู่หรอลูก" แค่นั้นแหละ น้ำตาไหลพรากๆ ร้องไห้กลางโรงพยาบาลเลย พ่อไม่ว่าไม่ด่าซักคำ แค่บอกว่า
"จะคุยกับม๊าให้ หนูทำใจสบายๆ" หลังจากวันนั้น พ่อก็ด่าเราน้อยลงเรื่อยๆ จนวันนี้ไม่เคยว่าเราอีกเลยซักคำ
คือเราคิดว่าแม่คงเข้าใจมากขึ้น เปล่าเลย มีอยู่คืนนึง เที่ยงคืนได้แล้วมั้ง
แม่โทรมาหา และด่าชุดใหญ่ สิงสาราสัตว์มาหมด เราอธิบายแล้ว ว่าเราป่วยจริงๆ ไม่ฟัง... ด่าแบบมาราธอนมากๆ
จนทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจเรามั่งมั้ย
ตั้งใจตั้งกระทู้ประจานตัวเอง เพราะอยากให้ >>>
1.
คุณพ่อ คุณแม่ คุณกดดันเขามากเกินไปรึเปล่า เด็กๆวัยรุ่นมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูงมาก
อย่าบอกว่า ที่ทำไปเพราะหวังดี บางครั้งความหวังดีของคุณ มันทำร้ายลูกๆของคุณเอง อย่าบีบบังคับเขา
ให้เขาได้มีทางเลือกบ้าง คอยเป็นที่ปรึกษา ชี้นำให้เขาเดินถูกทาง ไม่ใช่ลากเขาเดินไปตามทางที่คุณอยากให้เป็น
เรามีปัญหาเรื่องนี้มาก เป็นปัญหาที่ทำให้พยามจะตายหลายครั้ง
ส่วนตัวคิดว่า คงยังมีกรรมต้องชดใช้ต่อมั้ง เพราะที่ทุกครั้งที่จะฆ่าตัวตาย ต้องมีใครสักคนบังเอิญมาขวางตลอด
คำพูดแบบ "ฉันเลี้ยงแกมานะ !" "ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ ฉันเป็นพ่อ/แม่แกนะ" "ไม่ต้องพูด ไม่ต้องเถียง เป็นลูกไม่มีสิทธิ"
คำด่าหยาบคาย การใช้กำลัง อะไรเทือกนี้ จากใจลูกคนนึงบอกเลย เจอมาหมดแล้วรู้สึกแย่มากๆ
2.
ใครก็ตามที่มีคนข้างตัวเป็นโรคซึมเศร้า เขาเหล่านั้นต้องการที่พึ่งจริงๆ อย่าซ้ำเดิม อย่าด่าทอ
ขอแค่ให้กำลังใจ เข้าใจเขา เพราะโรคนี้ไม่ใช่กินยาแล้วหายเลยทันที มันอยู่ที่คนรอบตัวด้วยจริงๆ
ในเคสของเรา คุณหมอบอกให้กินยาไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด และพยามเลี่ยงความเครียด
รักษาสุขภาพจิตตัวเองให้ดี ให้ออกกำลังกาย หากิจกรรมอื่นๆทำ จะได้ไม่คิดไม่เครียด
สำหรับคนที่เป็นโรคนี้ อะไรๆมันมืดไปหมด มันเหนื่อย มันท้อ อยากนอนแห้งตายไปจริงๆ
เราเองยังไม่หายดี และไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่กว่าจะหาย แต่คงพยามรักษาตัวไปเรื่อยๆ
เราไม่อายนะที่จะบอกใครว่าเราเคยพบจิตแพทย์ คนที่นั่งอยู่ในแผนกจิตเวชก็ไม่ใช่คนบ้า
เขาแค่มาเพื่อรับคำปรึกษา และพยามรักษาตัวเอง
เป็นแบบนี้มันไม่สนุกหรอก เชื่อสิ ใครๆก็อยากใช้ชีวิตปกติ สนุกสนานทั้งนั้น
อยากให้สังเกตคนรอบข้างดูบ้าง เพื่อน พี่น้อง ญาติ คนไหนมีอาการเปลี่ยนไปหรือเปล่า
อย่ารอจนสายเกินไป บางคนกว่าจะรู้ว่าคนข้างๆป่วย ก็ตอนไร้ลมหายใจไปแล้ว...
สำหรับใครที่มีปัญหาเดียวกัน หรืออยากพูดคุย สอบถามข้อมูลต่างๆ มาเข้ากลุ่มของเราได้นะคะ
https://www.facebook.com/groups/443723082450924/?fref=ts
อ่านไม่เข้าใจตรงไหนต้องขออภัย และขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่าน
ปล.อีดิทเพิ่มเฟสบุ๊คนะคะ
[แชร์ประสบการณ์] พบจิตแพทย์เพราะโรคซึมเศร้า โรคใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม
โรคซึมเศร้า คืออะไร [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เป็นมานานหลายปีมากแล้ว แต่เพิ่งจะได้พบจิตแพทย์ไปเมื่อไม่นานนี้เอง
ปัญหาของเราเกิดจาก แม่กับพ่อ เรื่องนึงเลยคือ แม่เราเป็นคนด่าแรง หยาบ ไม่มีเหตุผลและเสียงดังมาก
เราไม่เคยนอกลู่นอกทาง ไม่ได้ทำตัวไม่ดี ผลการเรียนอยู่ในระดับกลางมาตลอด แต่ก็ยังโดนยำซะยับเยินได้
แม่เป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องหลายๆอย่างที่เกิดขึ้น เราแทบจะทะเลาะกับแม่ทุกครั้งที่เจอหน้า
เป็นสิบๆปีแล้ว... เรื่องแม่ไม่ขอพูดอะไรมาก
เข้าเรื่องเลย....
อาการของเราคือ เราชอบเก็บตัว ชอบอยู่คนเดียว ชอบอยู่ในจินตนาการ ในโลกของตัวเอง มากกว่าอยู่ในความเป็นจริง
เบื่อทุกๆอย่าง ท้อแท้ ไม่อยากพูด ไม่อยากคุย ไม่อยากเจออะไรเลย เวลากินได้ ก็กินเหมือนอดอยาก เวลาไม่อยากกิน ก็ไม่กินเลย 2 3 วันก็มี
การนอนก็เหมือนกัน นอนได้ก็นอนเหมือนตาย แต่ส่วนมากจะนอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นกลางดึก แทบไม่ได้นอนสบายๆ...
ทุกครั้งที่เราเครียดและร้องไห้ เรามักจะทำร้ายตัวเอง ทำทุกอย่างให้ตัวเองเจ็บตัว ขว้างปาข้าวของ เพื่อระบายอารมณ์
เราคิดจะฆ่าตัวตายและพยามจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยสำเร็จ
ส่วนใหญ่เราจะเครียดจนไม่พูดกับใครเลย กลับจากเรียนก็เข้าห้องนอนทันที
แน่นอน ทุกๆคนในครอบครัวก็ไม่เคยรู้ว่าเราเป็นอะไร
จนวันนึง หลังจากอดทนมานานมาก ก็ตัดสินใจเข้าพบจิตแพทย์ (คิดแล้วว่าไปหาทันตแพทย์คงช่วยอะไรไม่ได้ = =")
แผนกจิตเวช
พบจิตแพทย์ครั้งแรก
หลายคนคงคิดว่า แผนกนี้จะต้องมีแต่คนสติไม่สมประกอบ คนบ้า หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่จะนึกออก
เปล่าเลย... ภาพที่เห็น คือ
นักเรียน เพราะยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย , คุณป้า คุณลุง ที่ดูปกติมากๆ และอีกหลายๆคนที่ดูแล้ว ไม่น่าจะมานั่งอยู่ที่แผนกนี้
หลังจากรอคิวอย่างยาวนาน ก็ได้เข้าพบจิตแพทย์สมใจ
เมื่อเจอหน้าคุณหมอ และได้เล่าปัญหา (พร้อมๆกับพยามกลั้นไม่ให้ร้องไห้ไปด้วย กลัวหมอฟังไม่รู้เรื่อง T^T) ให้คุณหมอฟังแล้ว
คุณหมอให้คำปรึกษาดีมากๆ และเล่าให้ฟังนิดหน่อยว่า มีคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเรา มาพบคุณหมอค่อนข้างเยอะ
สาเหตุไม่ค่อยต่างกัน เกิดจากการถูกกดดันจากครอบครัว อยากให้เป็นแบบนั้น เรียนแบบนี้ โดยไม่ถามความสมัครใจของเด็ก
เกิดเป็นความเครียด สะสมไปเรื่อยๆก็ไม่ไหว
ตัวเราเองตัดสินใจพบหมอ เพราะเรียนปีสุดท้ายแล้ว ปัญหาที่เกิดมันรบกวนการเรียนและชีวิตประจำวันไปหมด
หลังจากปรึกษาเสร็จแล้ว ก็ได้ยามากิน 1 เดือน พร้อมกับนัดพบกันอีกที
ปัญหาเกิดหลังจากตัดสินใจบอกครอบครัว ยกเว้นพ่อกับแม่ (เราคนจีนค่ะ ญาติเยอะมากๆ) ทุกคนพูดพูดเหมือนกันหมด
" ทำตัวมีปัญหาเอง คิดไปเองว่าต้องหาหมอ ตัวเองทำตัวไม่ดีเอง "
คือเดี๋ยวนะ มีใบรับรองแพทย์ มียามาให้ดู และทุกคนรู้ว่าแม่เราเป็นยังไง ยังไม่มีใครรับฟังเลยเหรอ ??
มีอาม่าคนเดียวที่พอจะรับฟังอยู่บ้าง และคงโทรไปเล่าให้พ่อเราฟัง เพราะตอนไปพบแพทย์ครั้งที่ 2 พ่อโทรมาหาเรา
ถามแค่ "หาหมออยู่หรอลูก" แค่นั้นแหละ น้ำตาไหลพรากๆ ร้องไห้กลางโรงพยาบาลเลย พ่อไม่ว่าไม่ด่าซักคำ แค่บอกว่า
"จะคุยกับม๊าให้ หนูทำใจสบายๆ" หลังจากวันนั้น พ่อก็ด่าเราน้อยลงเรื่อยๆ จนวันนี้ไม่เคยว่าเราอีกเลยซักคำ
คือเราคิดว่าแม่คงเข้าใจมากขึ้น เปล่าเลย มีอยู่คืนนึง เที่ยงคืนได้แล้วมั้ง
แม่โทรมาหา และด่าชุดใหญ่ สิงสาราสัตว์มาหมด เราอธิบายแล้ว ว่าเราป่วยจริงๆ ไม่ฟัง... ด่าแบบมาราธอนมากๆ
จนทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาเข้าใจเรามั่งมั้ย
ตั้งใจตั้งกระทู้ประจานตัวเอง เพราะอยากให้ >>>
1. คุณพ่อ คุณแม่ คุณกดดันเขามากเกินไปรึเปล่า เด็กๆวัยรุ่นมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าสูงมาก
อย่าบอกว่า ที่ทำไปเพราะหวังดี บางครั้งความหวังดีของคุณ มันทำร้ายลูกๆของคุณเอง อย่าบีบบังคับเขา
ให้เขาได้มีทางเลือกบ้าง คอยเป็นที่ปรึกษา ชี้นำให้เขาเดินถูกทาง ไม่ใช่ลากเขาเดินไปตามทางที่คุณอยากให้เป็น
เรามีปัญหาเรื่องนี้มาก เป็นปัญหาที่ทำให้พยามจะตายหลายครั้ง
ส่วนตัวคิดว่า คงยังมีกรรมต้องชดใช้ต่อมั้ง เพราะที่ทุกครั้งที่จะฆ่าตัวตาย ต้องมีใครสักคนบังเอิญมาขวางตลอด
คำพูดแบบ "ฉันเลี้ยงแกมานะ !" "ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ ฉันเป็นพ่อ/แม่แกนะ" "ไม่ต้องพูด ไม่ต้องเถียง เป็นลูกไม่มีสิทธิ"
คำด่าหยาบคาย การใช้กำลัง อะไรเทือกนี้ จากใจลูกคนนึงบอกเลย เจอมาหมดแล้วรู้สึกแย่มากๆ
2.ใครก็ตามที่มีคนข้างตัวเป็นโรคซึมเศร้า เขาเหล่านั้นต้องการที่พึ่งจริงๆ อย่าซ้ำเดิม อย่าด่าทอ
ขอแค่ให้กำลังใจ เข้าใจเขา เพราะโรคนี้ไม่ใช่กินยาแล้วหายเลยทันที มันอยู่ที่คนรอบตัวด้วยจริงๆ
ในเคสของเรา คุณหมอบอกให้กินยาไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนด และพยามเลี่ยงความเครียด
รักษาสุขภาพจิตตัวเองให้ดี ให้ออกกำลังกาย หากิจกรรมอื่นๆทำ จะได้ไม่คิดไม่เครียด
สำหรับคนที่เป็นโรคนี้ อะไรๆมันมืดไปหมด มันเหนื่อย มันท้อ อยากนอนแห้งตายไปจริงๆ
เราเองยังไม่หายดี และไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่กว่าจะหาย แต่คงพยามรักษาตัวไปเรื่อยๆ
เราไม่อายนะที่จะบอกใครว่าเราเคยพบจิตแพทย์ คนที่นั่งอยู่ในแผนกจิตเวชก็ไม่ใช่คนบ้า
เขาแค่มาเพื่อรับคำปรึกษา และพยามรักษาตัวเอง
เป็นแบบนี้มันไม่สนุกหรอก เชื่อสิ ใครๆก็อยากใช้ชีวิตปกติ สนุกสนานทั้งนั้น
อยากให้สังเกตคนรอบข้างดูบ้าง เพื่อน พี่น้อง ญาติ คนไหนมีอาการเปลี่ยนไปหรือเปล่า
อย่ารอจนสายเกินไป บางคนกว่าจะรู้ว่าคนข้างๆป่วย ก็ตอนไร้ลมหายใจไปแล้ว...
สำหรับใครที่มีปัญหาเดียวกัน หรืออยากพูดคุย สอบถามข้อมูลต่างๆ มาเข้ากลุ่มของเราได้นะคะ
https://www.facebook.com/groups/443723082450924/?fref=ts
อ่านไม่เข้าใจตรงไหนต้องขออภัย และขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่าน
ปล.อีดิทเพิ่มเฟสบุ๊คนะคะ