สืบเนื่องมาจากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/33178810 ผมกลับมาย้อนนึกถึงเมื่อ ผมยังเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน กทม. เมื่อปี 2554-2557 ว่าเด็กในยุคของผม กับ ยุคของเด็กที่ผมสอนช่างต่างกันเหลือเกิน โดยเฉพาะเรื่องการอ่านออกเขียนได้ของเด็กไทยในยุค 2010 นี่ ผมมองว่าอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว เพราะเหตุผลดังนี้
1. คุณนึกดูในสมัยก่อน เด็กต่างชาติที่มีความพื้นฐานภาษาไทยเป็น 0 แล้วเข้าเรียนมัธยม 1 ในโรงเรียนรัฐบาล เขาจะลำบากแค่ไหนในการไล่เพื่อนให้ทัน แต่ตอนปี 2553 ที่น้องผมเข้า ม.1 แกมีความรู้ภาษาไทยเป็น 0 ภาษาอังกฤษ ก็เป็น 0 ครับ เพราะโรงเรียนที่ญี่ปุ่น ไม่ได้สอนภาษาอังกฤษให้นะครับ แต่เขาใช้เวลา 3 อาทิตย์ ในการอ่านเขียน ภาษาไทย ได้ดีกว่า เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ในห้อง แค่ข้อนี้ผมคิดว่าการอ่านออกเขียนได้ของเด็กไทยมีปัญหาแล้วครับ เพราะถ้าคุณปล่อยให้เด็กที่มีความรู้ภาษาไทยเป็น 0 ใช้เวลา 3 อาทิตย์ มีความรู้มากกว่าคุณ คุณต้องพิจารณาตัวเองแล้วครับว่า คุณเรียนอะไรมา
2. เด็กไทยมีปัญหาเรื่องการอ่านจับใจความ ทดสอบง่ายๆครับ ให้นักเรียนอ่านบทความสักบทความหนึ่ง แล้วถามง่ายๆเลยครับว่า ใจความสำคัญของบทความนี้ คืออะไร ผมฟันธงได้ว่า 80 เปอร์เซนต์ ตอบไม่ได้ เพราะเขามีปัญหาเรื่องการอ่านออกเขียนได้ และไม่รู้เรื่องอะไรคือใจความสำคัญ สิ่งนี้ สอบอัตนัย มหาลัยไหนก็ตกครับ เพราะถ้าคุณจับใจความสำคัญไม่ได้ คุณไม่มีทางเรียงประเด็นเพื่อเขียนตอบข้อสอบอัตนัยได้
3. ครูไทยมีปัญหาเรื่องการสอนครับ ในสมัยก่อน ปู่ผมก็เป็นครู แกสอนนักเรียนไม่เห็นต้องมีใบความ โน่นนี่นั่น เด็กก็อ่านออกเขียนได้ แต่ครูสมัยนี้ แม้แต่ผมเองก็เป็น ต้องมานั่งทำใบความรู้ ต้องมานั่งทำประเมิน ทำวิจัย ผมสงสัยว่า ผมจะเอาเวลาไหนไปดูแลเด็กในชั้น แค่ผมสอนน้องสาวคนเดียวก็จะตายแล้วครับ
4. การสอนแบบพิสดารของกระทรวง ไอ้การอ่านเรียงคำที่สอนเด็กประถมนี่ นักวิชาการไทยโคตรจะมีสมองดีเลยครับ การอ่านแจกลูก สะกดคำ ยังไงก็ดีกว่าครับ ผมเรียนกับปู่ กับ ป๊ะป๋า ด้วยการแจกลูกทุกวัน ผมสอนน้องผมแบบนั้น แต่เขาก็สงสัยว่า ครูที่โรงเรียนเขา สอนประหลาดๆ นี่จะปัจจัยหนี่งที่นักเรียนไทยอ่านหนังสือไม่ออก
นี่เป็นการสรุปของผมนะครับ ตอนนี้ผมสบายแล้ว ไม่ต้องมาลำบากเป็นครูมัธยมที่เจอแต่เด็กอ่านออกเขียนไม่ได้เกือบครึ่งห้อง แต่ขอให้คุณครูทั้งหลายสู้ต่อไปครับ
การอ่านออกเขียนได้ของเด็กไทย อยู่ในขั้นวิกฤตแค่ไหนกันแน่
1. คุณนึกดูในสมัยก่อน เด็กต่างชาติที่มีความพื้นฐานภาษาไทยเป็น 0 แล้วเข้าเรียนมัธยม 1 ในโรงเรียนรัฐบาล เขาจะลำบากแค่ไหนในการไล่เพื่อนให้ทัน แต่ตอนปี 2553 ที่น้องผมเข้า ม.1 แกมีความรู้ภาษาไทยเป็น 0 ภาษาอังกฤษ ก็เป็น 0 ครับ เพราะโรงเรียนที่ญี่ปุ่น ไม่ได้สอนภาษาอังกฤษให้นะครับ แต่เขาใช้เวลา 3 อาทิตย์ ในการอ่านเขียน ภาษาไทย ได้ดีกว่า เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ในห้อง แค่ข้อนี้ผมคิดว่าการอ่านออกเขียนได้ของเด็กไทยมีปัญหาแล้วครับ เพราะถ้าคุณปล่อยให้เด็กที่มีความรู้ภาษาไทยเป็น 0 ใช้เวลา 3 อาทิตย์ มีความรู้มากกว่าคุณ คุณต้องพิจารณาตัวเองแล้วครับว่า คุณเรียนอะไรมา
2. เด็กไทยมีปัญหาเรื่องการอ่านจับใจความ ทดสอบง่ายๆครับ ให้นักเรียนอ่านบทความสักบทความหนึ่ง แล้วถามง่ายๆเลยครับว่า ใจความสำคัญของบทความนี้ คืออะไร ผมฟันธงได้ว่า 80 เปอร์เซนต์ ตอบไม่ได้ เพราะเขามีปัญหาเรื่องการอ่านออกเขียนได้ และไม่รู้เรื่องอะไรคือใจความสำคัญ สิ่งนี้ สอบอัตนัย มหาลัยไหนก็ตกครับ เพราะถ้าคุณจับใจความสำคัญไม่ได้ คุณไม่มีทางเรียงประเด็นเพื่อเขียนตอบข้อสอบอัตนัยได้
3. ครูไทยมีปัญหาเรื่องการสอนครับ ในสมัยก่อน ปู่ผมก็เป็นครู แกสอนนักเรียนไม่เห็นต้องมีใบความ โน่นนี่นั่น เด็กก็อ่านออกเขียนได้ แต่ครูสมัยนี้ แม้แต่ผมเองก็เป็น ต้องมานั่งทำใบความรู้ ต้องมานั่งทำประเมิน ทำวิจัย ผมสงสัยว่า ผมจะเอาเวลาไหนไปดูแลเด็กในชั้น แค่ผมสอนน้องสาวคนเดียวก็จะตายแล้วครับ
4. การสอนแบบพิสดารของกระทรวง ไอ้การอ่านเรียงคำที่สอนเด็กประถมนี่ นักวิชาการไทยโคตรจะมีสมองดีเลยครับ การอ่านแจกลูก สะกดคำ ยังไงก็ดีกว่าครับ ผมเรียนกับปู่ กับ ป๊ะป๋า ด้วยการแจกลูกทุกวัน ผมสอนน้องผมแบบนั้น แต่เขาก็สงสัยว่า ครูที่โรงเรียนเขา สอนประหลาดๆ นี่จะปัจจัยหนี่งที่นักเรียนไทยอ่านหนังสือไม่ออก
นี่เป็นการสรุปของผมนะครับ ตอนนี้ผมสบายแล้ว ไม่ต้องมาลำบากเป็นครูมัธยมที่เจอแต่เด็กอ่านออกเขียนไม่ได้เกือบครึ่งห้อง แต่ขอให้คุณครูทั้งหลายสู้ต่อไปครับ