เดี๋ยวนี้ไม่ต้องจบวิชาชีพครู ไม่ต้องเรียนเอกศึกษา,ครุศาสตร์ ก็ไปเป็นครูสอนนักเรียนมัธยมโรงเรียนขนาดใหญ่ได้หรือครับ

มีคนรู้จักเขาไปสอบเป็นลูกจ้างของรัฐที่โรงเรียนขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในภาคกลาง
เขาจบ ป.ตรี คณะวิทยาศาสตร์ครับ
สุดท้ายเจ้าตัวสอบได้ และปฏิบัติหน้าที่สอนวิชา .... ของระดับชั้น .... ทั้งระดับชั้นเลย

คือ งง และสงสัยครับว่าไม่ต้องเรียนจบปริญญาตรี ศึกษาศาสตร์ ครุศาสตร์ ก็ไปเป็นครูได้เหรอครับ
ไม่ต้องสอบวิชาชีพครูก็ไปเป็นครูได้ด้วยเหรอ (แถมเคสที่ยกมาโรงเรียนขนาดใหญ่เสียด้วย)

แบบนี้จบหมอ จบเภสัช จบวิศวะ ก็ไปเป็นครูสอนนักเรียนมัธยมได้สิ

ปล. จะถามเจ้าตัวก็เกรงว่าเขาจะหาว่าเราไปดูถูกเขา ประมาณว่า อย่างผมไม่มีปัญญาสอนหนังสือเด็กหรือไง
คือ เขาไม่ได้จบครู ไม่ได้สอบวิชาชีพครู แต่ไปประกอบอาชีพครู ผมเลยสงสัยสมัยนี้ทำไ้ใช่ไหมครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ในกระทู้นี้คนเรียนครูหลายๆคนตอบกระทู้แบบ lame logic (ตรรกะพิการ) ตอบเข้าข้างตัวเอง แล้วทับถมคนที่ไม่ได้เรียนครูมา  เพื่อพยายามปลูกฝัง myths (ความเชื่อผิดๆ) ให้แก่ประชาชน

myth ที่ 1 อาจารย์สอนมหาลัยไม่เหมาะกับสอนประถมมัธยม
^
ไร้สาระ
ในโลกแห่งความเป็นจริงต้องคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด ทำไมไม่คิดบ้างล่ะว่าคนที่เก่งระดับสอนมหาลัยได้ ก็สอนประถมสอนมัธยมเก่งกว่าคนเรียนครูมาได้ คนฉลาดๆเค้าค้นคว้าเป็น ไม่จำเป็นต้องเรียนครูหรอก

ยกตัวอย่างเช่น เรื่องจริงที่เกิดขึ้น สมัยเราอยู่ในประเทศอังกฤษ เพื่อนเราชาว Canadian เรียนจบ mathematical physics ระดับปริญญาเอกจาก University of Cambridge เค้าเก่งพอจะสอนมหาลัยชั้นนำของโลกได้ แล้วก็ไม่เคยเรียนครูมา เราเคยให้เค้าติวคณิตศาสตร์ระดับมัธยมให้เรา ปรากฎว่าเค้าสอนคณิตศาสตร์ให้เราเก่งกว่าครูระดับมัธยมของเราซะอีก  ประวัติเพื่อนเราน่าทึ่งมากๆ ตอนเพิ่งจบปริญญาตรีใหม่ๆใน Canada เค้าแข่งคณิตศาสตร์ชนะทั้งประเทศ Canada ก่อนที่จะบุกไปเรียนปริญญาโทกับปริญญาเอกที่ University of Cambridge ในประเทศอังกฤษ
^
ใครเรียนครูมาอย่าได้เที่ยวไปดูถูกว่าอาจารย์มหาลัยที่ไม่ได้เรียนครูจะต้องสอนระดับมัธยมไม่เป็นเสมอไป

myth ที่ 2
ถ้าคนไม่เรียนครูมาสอนหนังสือได้ ก็ให้ยุบคณะศึกษาศาสตร์ซะ
^
ไร้สาระ ตรรกะแบบนี้ต่อให้จบครูมา ก็ไม่เหมาะที่จะสอนใคร เพราะใช้เหตุผลในระดับพื้นฐานยังไม่เป็น คือยังไม่คิดความเป็นไปได้ทั้งหมด นั่นก็คือ คนจบครูบางคน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งจบครูจากมหาลัยปลายแถว) ก็สอนไม่เป็น และคนจบครูบางคน (ที่จบจากมหาลัยชั้นนำ) ก็สอนเก่ง แต่คนจบครูจากมหาลัยชั้นนำ ไม่ค่อยเป็นครูหรอก เพราะโอกาสมีเยอะ ไปประกอบอาชีพอื่นได้ ไม่ต้องมานั่งรอบรรจุครู  
^
ถ้าจะยุบคณะที่สอนวิชาครูก็ต้องยุบคณะที่สอนวิชาครูในมหาลัยปลายแถวดิ คิดอย่างนี้ดิถึงจะเรียกว่า "ใช้เหตุผลเป็น"

myth ที่ 3
คุณเรียนสายตรง แล้วอยู่ดีๆอยากเป็นครูทำไม ทำไมไม่คิดจะเป็นครูตั้งแต่แรก  
^
อ้าวถามอะไรเพี้ยนๆแบบนี้ เราไม่เคยคิดจะเป็นครู เราทำงานแปลเอกสารมา 20 ปี เราเป็นเซียนหมากรุกฝรั่ง ตรรกะหมากรุกฝรั่งสอนวิธีคิดความเป็นไปได้ทั้งหมด และลองผิดลองถูก เราใช้ตรรกะของหมากรุกฝรั่งคิด google search algorithms พลิกแพลงประหลาดๆขึ้นมาได้ ทำให้เราเข้าถึงสื่อการสอนภาษาอังกฤษชั้นนำของโลกได้ ในบ้านเรามี digital media (ebooks, audios, videos และ applications) ดีๆจากต่างประเทศที่ใช้สอนภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามีสื่อการสอนพวกนี้ในบ้านเรามากว่าโรงเรียนสอนภาษาใหญ่ๆ และมากกว่ามหาลัยซะอีก

เราใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 1 ตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบและอยู่ที่นั่นนาน 20 ปี และเราทำงานแปลเอกสาร (บางทีก็ทำงานล่าม) ในเมืองไทยมา 20 ปี และด้วยความสนใจด้านการสอนภาษาอังกฤษโดยเป็นการส่วนตัว เราค้นข้อมูลค้นคว้าด้านการสอนภาษาอังกฤษ และทดลองสอนภาษาอังกฤษมานานกว่า 20 ปี เรามั่นใจว่าคนที่เรียนครูมา 5 ปี ถ้าไม่เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษและไม่มีประสบการณ์ด้านการใช้ภาษาอังกฤษประกอบอาชีพมากเท่าเรา  อาศัยแค่เรียนครูมา 5 ปี (แต่ชอบโม้ว่าสอนเก่งกว่าคนไม่เรียนครูมา)  มาสอนภาษาอังกฤษแข่งกับเราไม่ว่าจะสอนระดับประถม มัธยม หรือมหาลัย ก็ไม่มีทางสอนเก่งกว่าเราได้หรอก ถ้าไม่เชื่อก็ลองนัดเจอตัวจริงกัน แล้วผลัดกัน present เรื่อง "การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ" แข่งกัน (ตอน present ต้องพูดภาษาอังกฤษนะ แล้วบรรยายในที่ประชุมถ่ายทอดทึวี ในเรื่องแนวคิด เทคนิค และกลยุทธ์ในการสอนภาษาอังกฤษ ที่แต่ละคนศึกษาคิดค้นมา แล้วทดลองนำมาใช้จริง และลองวัดผลดู) และลงมือสอนนักเรียนแข่งกัน สอนเสร็จเอานักเรียนของแต่ละคนมาแข่งภาษาอังกฤษกัน
^
ขอร้องเหอะ คนที่เรียนครูน่ะ อย่าเที่ยวได้ไปดูถูกคนไม่เรียนครูมาว่า "ใครไม่เรียนครูแล้วจะสอนไม่เป็น" สมัยนี้ google มีไว้ทำไม ว่างๆลองเข้า websites ของพวกฝรั่งที่ตระเวนไปสอนภาษาอังกฤษทั่วโลกบ้างดิ พวกเค้าที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษมากๆเข้าไปที่นั่นเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดในการสอนภาษาอังกฤษกันและแลกเปลี่ยนสื่อการสอนภาษาอังกฤษกัน ซึ่งมันใช้สอนภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าความรู้ที่ได้จากการเรียนครู 5 ปีในมหาลัยไทยซะอีก  ฝรั่งที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษระดับเทพพวกนี้หลายๆคนไม่เคยเรียนครูมา แต่ "เค้าค้นคว้าเป็น คิดเป็น"  
^
คนเรียนครูที่ชอบพูดจาอวยตัวเองแล้วทับถมคนไม่เรียนครูน่ะ ควรหัดเปิดหูเปิดตาซะบ้างว่าโลกเค้าไปถึงไหนแล้ว อย่ามัวแต่คิดอะไรแคบๆ แบบว่า  "ใครไม่เรียนครูก็สอนไม่เป็น"  ว่างๆทำใจกล้าๆมาสอนภาษาอังกฤษแข่งกับเรา แล้วเมื่อเห็นผลที่ออกมา ก็อาจเรียนรู้วิธีคิดให้ครบทุกทางเป็นไปได้อย่างเช่น "คนเรียนครูสอนไม่เป็น" มันก็มี คุณว่ามันมีไหมล่ะ?  เราว่ามันก็มีเหมือนกันนะ ทำไมไม่คิดทุกความเป็นไปได้ล่ะ?  แค่การใช้เหตุผลในระดับพื้นฐานก็เละแล้ว สมองที่ใช้เหตุผลในระดับพื้นฐานไม่ได้แบบนี้ จะไปสอนใครได้...!!???...  
^
เราเจอบ่อยเหลือเกินกระทู้ที่คนเรียนครูชอบโม้ว่า "ใครไม่เรียนครูก็สอนไม่เป็น" พวกเค้าเรียนครูแต่ไม่เคยรู้ว่าศาสตร์การสอนภาษาอังกฤษหลายๆแขนงอย่างเช่น teaching English as a foreign language, teaching English as a second language หรือ teaching English to speakers of other languages เป็นศาสตร์เฉพาะทางซึ่งเป็นเอกเทศในตัวของมันเอง  มันไม่ใช่ subset ของวิชาศึกษาศาสตร์  คนที่เรียนครูมา 5 ปี แต่ไม่เคยศึกษาค้นคว้าศาสตร์แนวนี้ โอกาสจะสอนภาษาอังกฤษเก่งกว่าคนที่ค้นคว้าศาสตร์แนวนี้  มันเป็นไปได้ยากมากๆ  เพราะฉะนั้น กะอีแค่เรียนครูมา 5 ปีโปรดอย่าเที่ยวได้โม้ว่า "คนเรียนครูจะต้องสอนเก่งกว่าคนไม่เรียนครูเสมอไป" อย่ามโนให้มากเกินไป หัดมองดูโลกให้กว้างๆซะบ้าง แล้วศึกษาดูว่าเทคโนโลยีด้านการสอนเดี๋ยวนี้เค้าไปถึงไหนแล้ว อย่างเช่นสอนภาษาอังกฤษนี้เราเลิกแจก sheets เลิกใช้ markers เขียนบน whiteboard ไปตั้งหลายปีดีดักแล้วหละ เราสอนบน computer ด้วยสื่อแบบ digital media แล้วใช้ projector ฉายขึ้นจอ (ถ้านักเรียนหลายๆคน) หรือไม่ก็สอนบนคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ๆ แล้วต่อจอ 2 จอ (ถ้านักเรียนแค่ 3-4 คน) แล้วเราสอนนักเรียนให้ใช้ computer applications เพื่อจด notes สิ่งที่เรียนไปและ organize มันอย่างเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพ (ทำให้ค้นหาง่ายทบทวนง่ายกว่าการจด notes ในสมุดหรือในแฟ้มที่เก็บกระดาษจด notes)
^
คำตอบเพื่อสลาย myth ที่ 3 ก็คือ คนที่เค้าประกอบอาชีพเฉพาะทางบางอย่างเข่นแพทย์ วิศวะ หรือนักแปล เมื่อทำงานในวิชาชีพนั้นๆไปหลายๆปี เค้าก็อยากถ่ายทอดทักษะ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของเค้า มันผิดตรงไหน  คนเรียนครูไปกีดกันคนเก่งๆทำไม กลัวโดนแย่งอาชีพหรือไง  ไม่ต้องกลัวโดนแย่งอาชีพหรอก เพราะคนที่ประกอบอาชีพเฉพาะทางถ้าเค้าจะสอนวิชาที่เค้าใช้ประกอบอาชีพเฉพาะทางมานานหลายๆปี พวกเค้าจะไม่เสียเวลาไปสอบ 9 มาตรฐานวิชาครูหรอก แล้วต้องมานั่งรอบรรจุครูหรอก พวกเค้าเปิดสอนพิเศษวิชาที่พวกเค้าถนัดเป็นธุรกิจส่วนตัวไปเลย  เพราะทำงานในระดับมืออาชีพมานานหลายปีแล้วต้องมีเงินทองเก็บสะสมพอเปิดสอนพิเศษเป็นธุรกิจส่วนตัวได้สบายๆ  จริงๆผู้บริหารการศึกษาไทยควรมีวิสัยทัศน์ไกลมากพอที่จะไปกราบเรียนเชิญคนที่ทำงานเฉพาะทางในระดับมืออาชีพพวกนี้ให้มาเป็นครูหรือให้มาสอนคนเรียนครูให้เก่งกว่านี้ เพื่อพัฒนาครูไทย
^
ใครเรียนครูมาแล้วมานั่งถามคนที่ไม่เรียนครูว่า "ทำไมไม่คิดเรียนครูตั้งแต่แรก"
^
ถามแบบนี้มันไร้สาระ มันบ่งบอกว่า "ใช้เหตุผลในระดับพื้นฐานไม่เป็น"  เรื่องง่ายๆแค่นี้คิดไม่เป็นหรือไง?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่