เนื่องจากวันนี้เพื่อนของ จขกท เข้าไปซื้อของหลังเงินกับ7-11สาขาหน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในบางแสน เจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้เซงจนต้องขอแชร์ให้ในpantip. ดังนี้ค่ะ
"เดินเข้าไปเซเว่นจะซื้อสบู่ เห็นจัดโปรโมชั่นด้วยการติดป้ายเล็กๆสีแดงๆบนเช้วว่าสบู่นกแก้วซื้อ 2 ก้อนราคา 16 บาท (จากปกติ 26) ก็เลยหยิบมา หลังจากนั้นเดินไปหยิบลีโอแพ็คคู่ 108 บาท โก๋แก่ 10 บาท ทีนี้อยากกินนมเลยเดินไปดูตู้แช่ คือปกติซื้อของไม่อยากได้เงินทอนเป็นเหรียญสตางค์ เลยมองหานมจืดที่ราคาเป็นเลขกลมๆ ได้โฟโมสจืดฉลากส้ม 12 บาท พอไปที่เค้าเตอร์ก็สั่งบุหรี่ LM แดง 66 บาท ทีนี้พนง.ก็ยิงๆบาร์โค้ดทีละชิ้น ยอดเงิน 222.25 บาท ก็แปลกใจว่าทำไมมีเศษ 25 สตางค์ เลยถามพนง.ไปว่าราคาของอะไร พนง.บอกของนม พี่ก็บอกว่านมราคาป้าย 12.00 บาท หลังจากนั้นพนง.ก็กดๆปุ่มบนแป้นพิมพ์เขา แล้วสลิปก็ออก (จริงๆแล้วจังหวะนี้ต้องหยุดแล้ว ทำไมถึงกดต่อ) แล้วก็ยื่นเงินทอนมาให้ เราก็รับมาแล้วกำไว้ ตอนนั้นสนใจแต่ว่าราคาอะไรผิด พอเขาให้เงินทอนเรียบร้อย เขาก็เดินไปที่ตู้แช่นมเพื่อดูราคา แล้วคำตอบที่ได้ก็คือ ขอโทษค่ะ "ราคาเพิ่งเปลี่ยนวันนี้แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนป้าย" เราก็เห็นว่าแค่ 25 สตางค์ เลยขี้เกียจทักท้วงอะไร แค่ตอบไปว่า "อย่างนี้ก็แย่ดิ" (ตอนนั้นเซ็งๆ เพราะรู้สึกโดนเอาเปรียบ ถึงราคามันจะแค่ 25 สตางค์ก็เหอะ) พออกมาจากเซเว่นด้วยอารมนอยๆ ก็ดูตังทอนเทียบกับสลิป เซงหนักเข้าไปอีก เพราะสลิปเขียนว่าทอน 277.75 ทอนมา 270.75 (ลืมบอกว่าจ่ายด้วยแบ้ง 500) ขาดไป 2 บาท ทีนี้ขยำสลิปทิ้งเลยด้วยความเซงคูณสอง พอขี่มอไซด์มาถึงห้อง สติเริ่มคืนสู่ร่าง เลยเอะใจเรื่องสบู่ เลยลองคำนวณใหม่ ปี้ดเลยทีนี้ เพราะไอ้ที่บอกว่าโปรสองก้อน 16 บาท
ก็คิดเต็ม 26 (เรื่องโปรแบบนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่เจอ ก่อนหน้า เคยเจอกับอีกร้านซื้อแฟ้บลดราคา 10 บาท แต่ไหวตัวทันถามพนง.ตอนที่เขายิงบาร์โค้ด เขาบอกว่าโปรเพิ่งมา เขาจำไม่ได้ พี่ต้องบอกหนูค่ะ ตอนนั้นเราก็เลยให้เขาแคนเซิ่ล) สรุปวันนี้เสียให้กับเซเว่นเจ้านี้ 10+2+0.25 = 12.25 บาท ลองคิดดูเล่นๆ วันนึงๆ ถ้าเป็นแบบนี้สักร้อยคน เซเว่น
ได้กำไรฟรีๆ 1225 บาทสบายใจเลย ค่าแรงของพนักงงานออฟฟิตบางคนที่ทำงานทั้งวันเลยนะ ต่อไปนี้พี่จะไม่เข้าเซเว่นร้านนี้อีกแล้ว"
ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เคยเกิดขึ้นกับ จขกท เช่นกันค่ะ เคยซื้อน้ำดื่มโปร2ขวด20บาทเพราะเห็นป้ายโปร พอจ่ายเงินพนักงานคิดเต็มราคา ได้ทักท้วงไปซึ่ง พนักงานตอบกลับมาว่ามันหมดโปรแล้วแต่ไม่ได้เอาป้ายออก ด้วยความที่เราก็ไม่ได้สังเกตวันที่บนป้ายก็เลย คิดว่าจริงแต่พออีกวันเข้า7-11ก็เห็นป้ายยังอยู่และปรากฏว่าที่จริงแล้วโปรเพิ่งเริ่มเมื่อวานและหมดเดือนหน้า. แอบเคืองอยู่เหมือนกัน
อยากให้ทางcpall ช่วยปรับปรุง แม้ว่าส่วนหนึ่งจะมาจากที่ดิฉันดูไม่ดีแต่ช่วงเวลาเร่งรีบบ้างที่ก็ไม่ได้ใส่ใจ
ประสบการณ์สุดเซงกับการซื้อของใน 7-11
"เดินเข้าไปเซเว่นจะซื้อสบู่ เห็นจัดโปรโมชั่นด้วยการติดป้ายเล็กๆสีแดงๆบนเช้วว่าสบู่นกแก้วซื้อ 2 ก้อนราคา 16 บาท (จากปกติ 26) ก็เลยหยิบมา หลังจากนั้นเดินไปหยิบลีโอแพ็คคู่ 108 บาท โก๋แก่ 10 บาท ทีนี้อยากกินนมเลยเดินไปดูตู้แช่ คือปกติซื้อของไม่อยากได้เงินทอนเป็นเหรียญสตางค์ เลยมองหานมจืดที่ราคาเป็นเลขกลมๆ ได้โฟโมสจืดฉลากส้ม 12 บาท พอไปที่เค้าเตอร์ก็สั่งบุหรี่ LM แดง 66 บาท ทีนี้พนง.ก็ยิงๆบาร์โค้ดทีละชิ้น ยอดเงิน 222.25 บาท ก็แปลกใจว่าทำไมมีเศษ 25 สตางค์ เลยถามพนง.ไปว่าราคาของอะไร พนง.บอกของนม พี่ก็บอกว่านมราคาป้าย 12.00 บาท หลังจากนั้นพนง.ก็กดๆปุ่มบนแป้นพิมพ์เขา แล้วสลิปก็ออก (จริงๆแล้วจังหวะนี้ต้องหยุดแล้ว ทำไมถึงกดต่อ) แล้วก็ยื่นเงินทอนมาให้ เราก็รับมาแล้วกำไว้ ตอนนั้นสนใจแต่ว่าราคาอะไรผิด พอเขาให้เงินทอนเรียบร้อย เขาก็เดินไปที่ตู้แช่นมเพื่อดูราคา แล้วคำตอบที่ได้ก็คือ ขอโทษค่ะ "ราคาเพิ่งเปลี่ยนวันนี้แต่ยังไม่ได้เปลี่ยนป้าย" เราก็เห็นว่าแค่ 25 สตางค์ เลยขี้เกียจทักท้วงอะไร แค่ตอบไปว่า "อย่างนี้ก็แย่ดิ" (ตอนนั้นเซ็งๆ เพราะรู้สึกโดนเอาเปรียบ ถึงราคามันจะแค่ 25 สตางค์ก็เหอะ) พออกมาจากเซเว่นด้วยอารมนอยๆ ก็ดูตังทอนเทียบกับสลิป เซงหนักเข้าไปอีก เพราะสลิปเขียนว่าทอน 277.75 ทอนมา 270.75 (ลืมบอกว่าจ่ายด้วยแบ้ง 500) ขาดไป 2 บาท ทีนี้ขยำสลิปทิ้งเลยด้วยความเซงคูณสอง พอขี่มอไซด์มาถึงห้อง สติเริ่มคืนสู่ร่าง เลยเอะใจเรื่องสบู่ เลยลองคำนวณใหม่ ปี้ดเลยทีนี้ เพราะไอ้ที่บอกว่าโปรสองก้อน 16 บาท
ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เคยเกิดขึ้นกับ จขกท เช่นกันค่ะ เคยซื้อน้ำดื่มโปร2ขวด20บาทเพราะเห็นป้ายโปร พอจ่ายเงินพนักงานคิดเต็มราคา ได้ทักท้วงไปซึ่ง พนักงานตอบกลับมาว่ามันหมดโปรแล้วแต่ไม่ได้เอาป้ายออก ด้วยความที่เราก็ไม่ได้สังเกตวันที่บนป้ายก็เลย คิดว่าจริงแต่พออีกวันเข้า7-11ก็เห็นป้ายยังอยู่และปรากฏว่าที่จริงแล้วโปรเพิ่งเริ่มเมื่อวานและหมดเดือนหน้า. แอบเคืองอยู่เหมือนกัน
อยากให้ทางcpall ช่วยปรับปรุง แม้ว่าส่วนหนึ่งจะมาจากที่ดิฉันดูไม่ดีแต่ช่วงเวลาเร่งรีบบ้างที่ก็ไม่ได้ใส่ใจ