จากข่าว
ประธาน สนช. ซัด! สหรัฐฯ ถือตัวเป็นมหาอำนาจ แทรกแซงประเทศอื่น แต่สร้าง ปชต.ได้แค่เปลือก
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. พูดว่า
"
ขอยืนยันว่าการถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และหลักนิติรัฐ นิติธรรม"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1422505578
ฉลาดพูดนะครับ
อ้างรัฐธรรมนูญ อ้างหลักนิติรัฐ อ้างหลักนิติธรรม แต่ไม่เอ่ยถึง
ข้อบังคับการประชุม
ข้อบังคับการประชุม สนช. 2557 ข้อ 154 กำหนดไว้ว่า
ข้อ ๑๕๔ ในวาระเริ่มแรกของการพิจารณา
ให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีสิทธิแถลงเปิดสํานวนตามรายงานและความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายหลังจากนั้น ให้ผู้ถูกกล่าวหา
หรือผู้แทนมีสิทธิแถลงคัดค้านโต้แย้งคําแถลงเปิดสํานวนหรือรายงานพร้อมความเห็นของคณะกรรมการ
ป.ป.ช. โดยไม่มีการซักถาม
(วรรคหนึ่ง)
เมื่อการแถลงตามวรรคหนึ่งเสร็จสิ้นลง ให้ที่ประชุมสภาพิจารณาว่า ควรมีการซักถาม
ในประเด็นใดเพิ่มเติม โดยพิจารณา
ตามญัตติของสมาชิกที่เสนอล่วงหน้าก่อนวันประชุม (วรรคสอง)
หากที่ประชุมสภามีมติให้มีการซักถามในประเด็นปัญหาใด ให้ตั้งคณะกรรมาธิการซักถาม
ขึ้นคณะหนึ่ง โดยนําข้อบังคับข้อ ๑๓๗ และข้อ ๑๓๘ มาใช้บังคับและต้องกําหนดให้มีการประชุม
เพื่อ
ซักถามผู้เกี่ยวข้องภายในเจ็ดวันโดยต้องแจ้งมติให้คู่กรณีทราบโดยพลัน
(วรรคสาม)
การซักถามตามวรรคสามให้อยู่ในประเด็นที่ที่ประชุมสภากําหนด และกระทําโดยคณะกรรมาธิการ
ซักถามเท่านั้น
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/E/196/1.PDF
ชัดซะยิ่งกว่าชัด
ว่าพวก สนช. กระทำผิดข้อบังคับชัดเจน
ดังนี้
1. ข้อบังคับตามวรรคหนึ่ง ใช้คำว่า "
ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช." สำหรับการแถลงเปิดคดีของ ป.ป.ช.
และใช้คำว่า "
ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้แทน" สำหรับการแถลงเปิดคดีของนายกฯยิ่งลักษณ์
2. ข้อบังคับวรรคสอง กำหนดให้มีการซักถามเพิ่มเติมได้ แต่คำถามนั้น
ต้องเป็นคำถามที่สมาชิกเสนอล่วงหน้าก่อนวันแถลงเปิดคดี
แต่พวก สนช. ก็ใช้วิธียกเว้นข้อบังคับ
ให้สมาชิก สนช. เสนอคำถามได้จนถึงวันที่ 13 ม.ค. 58 หลังการเปิดคดี 5 วัน
ทั้งนี้ คงเพื่อจะได้นำคำแถลงเปิดคดีของนายกฯยิ่งลักษณ์ไปตั้งเป็นโจทย์เพื่อตั้งคำถามย้อน
เป็นการเอาเปรียบผู้ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม ขาดสามัญสำนึกแห่งความเป็นกลาง
3. ข้อบังคับการประชุมวรรคสาม กำหนดให้ที่ประชุมซักถาม "
ผู้เกี่ยวข้อง"
อันย่อมหมายถึง
ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ
ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้แทน
แต่ที่ประชุม สนช. กลับไม่ยอมให้ทาง
ผู้แทนนายกฯยิ่งลักษณ์ตอบข้อซักถาม
บีบบังคับไม่ให้ตอบ อ้างผู้ถามต้องการถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องการถามคนอื่น
อ่านข้อซักถามไป พูดไปด้วยว่า ต้องการถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องการให้คนอื่นตอบแทน เหมือนคนเสียสติ
ไม่มีความเป็นกลาง ไร้ความเป็นธรรม ขาดหลักนิติธรรม ฉ้อฉลข้อบังคับการประชุมที่ตั้งขึ้นเองแท้ ๆ
ชัดขนาดนี้
ยังมีหน้ากล้ามาพูดว่า การถอดถอนเป็นไปตามหลักนิติธรรม !!!
นายพรเพชรเอ๊ย อย่าไปว่าอะไรใครไหนอื่นเลย
หันกลับไปดูแลครูหยุยกับพวกเหอะ
และพิจารณาการกระทำของตัวเองให้เยอะ ๆ
นะ
หล่อล่ะเอือมมมมม... หน่ายความหนาของคนพวกนี้
ปอลิง. wm ครับ กระทู้นี้คงไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีนะครับ
ประธาน สนช. พรเพชร วิชิตชลชัย ควรมีสำนึกรู้สึกอายสักนิดนะครับ เพราะงานนี้ พวกท่านขัดข้อบังคับและหลักนิติธรรมชัดเจน
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. พูดว่า
"ขอยืนยันว่าการถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และหลักนิติรัฐ นิติธรรม"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1422505578
ฉลาดพูดนะครับ
อ้างรัฐธรรมนูญ อ้างหลักนิติรัฐ อ้างหลักนิติธรรม แต่ไม่เอ่ยถึง ข้อบังคับการประชุม
ข้อบังคับการประชุม สนช. 2557 ข้อ 154 กำหนดไว้ว่า
ข้อ ๑๕๔ ในวาระเริ่มแรกของการพิจารณาให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.
มีสิทธิแถลงเปิดสํานวนตามรายงานและความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายหลังจากนั้น ให้ผู้ถูกกล่าวหา
หรือผู้แทนมีสิทธิแถลงคัดค้านโต้แย้งคําแถลงเปิดสํานวนหรือรายงานพร้อมความเห็นของคณะกรรมการ
ป.ป.ช. โดยไม่มีการซักถาม (วรรคหนึ่ง)
เมื่อการแถลงตามวรรคหนึ่งเสร็จสิ้นลง ให้ที่ประชุมสภาพิจารณาว่า ควรมีการซักถาม
ในประเด็นใดเพิ่มเติม โดยพิจารณาตามญัตติของสมาชิกที่เสนอล่วงหน้าก่อนวันประชุม (วรรคสอง)
หากที่ประชุมสภามีมติให้มีการซักถามในประเด็นปัญหาใด ให้ตั้งคณะกรรมาธิการซักถาม
ขึ้นคณะหนึ่ง โดยนําข้อบังคับข้อ ๑๓๗ และข้อ ๑๓๘ มาใช้บังคับและต้องกําหนดให้มีการประชุม
เพื่อซักถามผู้เกี่ยวข้องภายในเจ็ดวันโดยต้องแจ้งมติให้คู่กรณีทราบโดยพลัน (วรรคสาม)
การซักถามตามวรรคสามให้อยู่ในประเด็นที่ที่ประชุมสภากําหนด และกระทําโดยคณะกรรมาธิการ
ซักถามเท่านั้น
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/E/196/1.PDF
ชัดซะยิ่งกว่าชัด
ว่าพวก สนช. กระทำผิดข้อบังคับชัดเจน
ดังนี้
1. ข้อบังคับตามวรรคหนึ่ง ใช้คำว่า "ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช." สำหรับการแถลงเปิดคดีของ ป.ป.ช.
และใช้คำว่า "ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้แทน" สำหรับการแถลงเปิดคดีของนายกฯยิ่งลักษณ์
2. ข้อบังคับวรรคสอง กำหนดให้มีการซักถามเพิ่มเติมได้ แต่คำถามนั้น ต้องเป็นคำถามที่สมาชิกเสนอล่วงหน้าก่อนวันแถลงเปิดคดี
แต่พวก สนช. ก็ใช้วิธียกเว้นข้อบังคับ ให้สมาชิก สนช. เสนอคำถามได้จนถึงวันที่ 13 ม.ค. 58 หลังการเปิดคดี 5 วัน
ทั้งนี้ คงเพื่อจะได้นำคำแถลงเปิดคดีของนายกฯยิ่งลักษณ์ไปตั้งเป็นโจทย์เพื่อตั้งคำถามย้อน
เป็นการเอาเปรียบผู้ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม ขาดสามัญสำนึกแห่งความเป็นกลาง
3. ข้อบังคับการประชุมวรรคสาม กำหนดให้ที่ประชุมซักถาม "ผู้เกี่ยวข้อง"
อันย่อมหมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้แทน
แต่ที่ประชุม สนช. กลับไม่ยอมให้ทาง ผู้แทนนายกฯยิ่งลักษณ์ตอบข้อซักถาม
บีบบังคับไม่ให้ตอบ อ้างผู้ถามต้องการถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องการถามคนอื่น
อ่านข้อซักถามไป พูดไปด้วยว่า ต้องการถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องการให้คนอื่นตอบแทน เหมือนคนเสียสติ
ไม่มีความเป็นกลาง ไร้ความเป็นธรรม ขาดหลักนิติธรรม ฉ้อฉลข้อบังคับการประชุมที่ตั้งขึ้นเองแท้ ๆ
ชัดขนาดนี้
ยังมีหน้ากล้ามาพูดว่า การถอดถอนเป็นไปตามหลักนิติธรรม !!!
นายพรเพชรเอ๊ย อย่าไปว่าอะไรใครไหนอื่นเลย
หันกลับไปดูแลครูหยุยกับพวกเหอะ
และพิจารณาการกระทำของตัวเองให้เยอะ ๆ
นะ
หล่อล่ะเอือมมมมม... หน่ายความหนาของคนพวกนี้
ปอลิง. wm ครับ กระทู้นี้คงไม่ผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีนะครับ