“ได้ยินว่ามีคนมาถามหาหมอผีคนสุดท้ายของเทือกเขานี้” ผมร้องทักทันทีที่มาถึงที่หมาย แสงตะเกียงสว่างวาบไหวตามสายลมเย็นยามค่ำ เยินซูเจ้าของร้านขายของชำร้านเดียวในหมู่บ้านชายแดนชี้มือมาที่ผมแล้วบอกว่า “คนนี้” ไกด์หนุ่มร่างท้วมขยับเก้าอี้ให้ผมนั่ง ท่าทางเขายังไม่หายเครียดและดูเหน็ดเหนื่อยกับการดินทาง เขาแนะนำตัวเองว่าชื่อต๋อย เป็นเจ้าของบริษัททัวร์ที่นาน ๆ ครั้ง จะนำลูกค้าออกทริปและครั้งนี้เป็นทริปพิเศษที่ลูกค้าคนสำคัญและมีชื่อเสียงต้องการเก็บมันเป็นความลับที่สุด ผมมวนใบยาสูบขึ้นจ่อไม่ขีดไฟ ปลายแดงวาบยามต้องลม ผมอัดมันลงปอดระบายควันแล้วนั่งลำดับเหตุผลและเรื่องราวโดยไม่ได้พูดอะไร เยินซูยกชาร้อนและกาแฟมาให้ชาวคณะและผมบรรเทาความหนาวเย็นแล้วปลีกตัวเดินไปนั่งอีกมุมของร้าน ต๋อยเริ่มเล่าต่อถึงจุดประสงค์ของการมาของคนญี่ปุ่นสามีภรรยาผิวขาวซีดที่นั่งอยู่ไม่ห่าง ผมมองพวกเขาตั้งแต่แรกที่ทั้งคู่พยายามเดินหาสัญญาณโทรศัพท์มือถืออย่างสิ้นหวัง บัดนี้มานั่งฟังและให้ความสนใจการพูดคุยแม้จะฟังไม่รู้เรื่อง
คนต่างแดนต้องการให้ผมทำพิธีสะกดวิญญาณสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งตายลงเมื่อสามวันก่อน เนื่องจากความชราและตรอมใจที่พวกเขามีเวลาให้มันน้อยลง เงื่อนไขคือพวกเขาอยากให้มันมีความสุข ต๋อยพาผมไปที่รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ ท้ายรถมีกล่องใบใหญ่และกระเป๋าสัมภาระวางอยู่ เขาเปิดฝากล่องเก็บความเย็นเผยให้ผมเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน ผมประหลาดใจ ร่างที่เคยอวบนุ่มน่ารัก บัดนี้นอนแข็งทื่อ เปลือกตากว้างยามนี้ปิดประกบชิด ผมลองเอามือจับหัวของมัน เขี้ยวหนูป่าที่ผมแขวนสั่นพลิ้วยามลมนิ่ง มันเหมือนถูกลองเชิงด้วยอำนาจลึกลับ ผมให้พวกเขาช่วยกันยกกล่องนั้นขึ้นเกวียนและบอกว่าภายในสามคืนนับจากคืนพรุ่งนี้ไป ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นที่บ้านค่อยมาจ่ายเงิน เมื่อต๋อยแปลสิ่งที่ผมพูดให้สามีภรรยาชาวญี่ปุ่นฟัง หนุ่มซึ่งสวมแว่นตาเริ่มร้องไห้เหมือนเด็ก ๆ ส่วนภรรยาก็ร้องไห้ตามและปลอบสามีของเธอไปด้วย
เกวียนเทียมวัวเดินทางช้า ๆ ข้ามเขาไปในป่าลึก มีแต่แสงจันทร์เสี้ยวที่ส่องนำทางจนห่างเขตชุมชนกะเหรี่ยงลิบลับ แมงมุมตัวใหญ่เท่าลูกวัวส่งเสียงผ่านใยสีขาวขุ่นมาจากไม้ยางสูง ค้างคาวตัวใหญ่เท่ามนุษย์โฉบลงมาข้าง ๆ เกวียนแล้วบินขึ้นฟ้าหายไปในหมู่ไม้ พลันส่งเสียงคุ้นหู ผมร่ายคาถา โบกมือให้พวกมัน “คนเมืองไม่ต้องการฮีโร่และเพื่อน ..เขามีของของวิเศษกันคนละเครื่องแล้ว” ผมหยุดเกวียนลงตรงตีนเขาเตี้ย ๆ เอื้อมไปเปิดฝากล่องใบใหญ่ “ไป ไปเล่นกับเพื่อนไป” แมวอ้วนสีฟ้ากระโดดลงพื้น มันทำท่าจะหยิบของจากกระเป๋าหน้าท้องส่งให้ผมเป็นการขอบคุณ ผมโบกมือปฏิเสธ” มันยิ้ม...ดวงตาโตคู่นั้นเป็นประกายด้วยความดีใจ
Cr ภาพจาก www.specialeffectcontacts.com
เรื่องสั้นหน้าเดียว : สะกด-ป่า-ฟ้า-แมว
คนต่างแดนต้องการให้ผมทำพิธีสะกดวิญญาณสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งตายลงเมื่อสามวันก่อน เนื่องจากความชราและตรอมใจที่พวกเขามีเวลาให้มันน้อยลง เงื่อนไขคือพวกเขาอยากให้มันมีความสุข ต๋อยพาผมไปที่รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ ท้ายรถมีกล่องใบใหญ่และกระเป๋าสัมภาระวางอยู่ เขาเปิดฝากล่องเก็บความเย็นเผยให้ผมเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน ผมประหลาดใจ ร่างที่เคยอวบนุ่มน่ารัก บัดนี้นอนแข็งทื่อ เปลือกตากว้างยามนี้ปิดประกบชิด ผมลองเอามือจับหัวของมัน เขี้ยวหนูป่าที่ผมแขวนสั่นพลิ้วยามลมนิ่ง มันเหมือนถูกลองเชิงด้วยอำนาจลึกลับ ผมให้พวกเขาช่วยกันยกกล่องนั้นขึ้นเกวียนและบอกว่าภายในสามคืนนับจากคืนพรุ่งนี้ไป ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นที่บ้านค่อยมาจ่ายเงิน เมื่อต๋อยแปลสิ่งที่ผมพูดให้สามีภรรยาชาวญี่ปุ่นฟัง หนุ่มซึ่งสวมแว่นตาเริ่มร้องไห้เหมือนเด็ก ๆ ส่วนภรรยาก็ร้องไห้ตามและปลอบสามีของเธอไปด้วย
เกวียนเทียมวัวเดินทางช้า ๆ ข้ามเขาไปในป่าลึก มีแต่แสงจันทร์เสี้ยวที่ส่องนำทางจนห่างเขตชุมชนกะเหรี่ยงลิบลับ แมงมุมตัวใหญ่เท่าลูกวัวส่งเสียงผ่านใยสีขาวขุ่นมาจากไม้ยางสูง ค้างคาวตัวใหญ่เท่ามนุษย์โฉบลงมาข้าง ๆ เกวียนแล้วบินขึ้นฟ้าหายไปในหมู่ไม้ พลันส่งเสียงคุ้นหู ผมร่ายคาถา โบกมือให้พวกมัน “คนเมืองไม่ต้องการฮีโร่และเพื่อน ..เขามีของของวิเศษกันคนละเครื่องแล้ว” ผมหยุดเกวียนลงตรงตีนเขาเตี้ย ๆ เอื้อมไปเปิดฝากล่องใบใหญ่ “ไป ไปเล่นกับเพื่อนไป” แมวอ้วนสีฟ้ากระโดดลงพื้น มันทำท่าจะหยิบของจากกระเป๋าหน้าท้องส่งให้ผมเป็นการขอบคุณ ผมโบกมือปฏิเสธ” มันยิ้ม...ดวงตาโตคู่นั้นเป็นประกายด้วยความดีใจ
Cr ภาพจาก www.specialeffectcontacts.com