พอดีช่วงนี้มีข่าวในด้านลบเกี่ยวกับ Taxi เยอะมากครับแล้วคนในสังคมก็โจมตีบางคนก็มีเหตุผลบางคนก็ไร้เหตุผล ผมก็เลยอยากมาบอกอีกด้านของแท็กซี่ รวมถึงวิธีแก้ปัญหาครับ ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนผมไม่ได้มีอาชีพขับรถ Taxi นะครับ แต่พอดีรู้จักกับเจ้าของอู่กับคนขับครับ ... ผมจะขอเขียนทีละประเด็นนะครับ

- ปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสาร
โดยส่วนตัวปัญหาการปฏิเสธผู้โดยสารผมบอกไว้แบบนี้ครับ การปฏิเสธผู้โดยย่อมมีสิทธิ์ที่จะทำได้นะครับ เพราะว่าคนขับบางคนเค้าจะติดปัญหาจริงๆ เค้าจึงไม่สามารถไปส่งลูกค้าได้เลยครับ ผมเลยขอยกประสบการณ์จริงของคนขับมาให้ 1 กรณีครับ ... สมมุติว่าแท็กซี่ส่งกะตอน 5 โมงเย็น ช่วงประมาณ 2-3 โมงเค้าต้องตีรถกลับไปในบริเวณอู่เค้าเพื่อหาไปเติมแก๊ส , หาลูกค้าบริเวณใกล้เคียง , ล้างรถ ซึ่งถ้าหากมีลูกค้าเรียกไปทางผ่านที่เค้าจะไปแน่นอนเค้าต้องยินดีอย่างแน่นอนครับ หรือไปในทางอื่นแต่เค้าเหลือเวลาพอเค้าก็ต้องไปอย่างแน่นอนครับเพราะเงินสำหรับคนขับแท็กซี่นั้นแม้แต่ 1 บาทก็สำคัญมากครับ แต่ถ้าเค้าเหลือเวลาอีก 1 ชม. ในการส่งรถ แต่ลูกค้าเรียกไปพวกลาดพร้าว รามอินทรา ซึ่งจะต้องใช้เวลาไปกลับประมาณ 2 ชม.ขึ้นไป ดังนั้นแท็กซี่ต้องปฏิเสธอย่างแน่นอนครับ (อันนี้ผมเห็นด้วยครับ สมควรจะปฏิเสธลูกค้าได้)

แต่ก็จะมีอีกจำพวกหนึ่งครับที่ปฏิเสธลูกค้าเพื่อต้องหาลูกค้าชาวต่างชาติ อย่างพวกสถานที่ประตูน้ำ แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารเป็นจำนวนเยอะมากครับเพราะนั่นเค้าต้องการรับผู้โดยสารชาวต่างชาติ ซึ่งรายได้มันเยอะกว่าแน่นอนอยู่แล้วครับ ... แต่ลองดูพวกฝั่งธนสิครับแท็กซี่แย่งผู้โดยสารกันเยอะมากครับ ดังนั้นผมมองว่าการปฏิเสธผู้โดยควรจะทำได้ และไม่ควรทำได้ในบริเวณจุดที่สำคัญอย่างประตูน้ำ อะไรพวกนี้ครับ (เพราะว่าถ้าห้ามแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารทั้งหมดผมคิดว่ายากเพราะว่าบางครั้งแท็กซี่ก็ไม่สามารถไปได้)


- แท็กซี่บริการไม่สุภาพ
โดยส่วนตัวผมมองว่าการปฏิเสธผู้โดยสารมันเรื่องปกตินะครับ แต่เรื่องที่แท็กซี่บริการไม่สุภาพกับลูกค้า แบบนี้รับไม่ได้จริงๆครับ แต่ก็ยอมรับเรื่องสภาพสังคมของผู้ขับขี่ ดังนั้นผมว่ากรมขนส่งควรจัดการเรื่องนี้นะครับ ไม่ใช่เรื่องเสื้อผ้า ... เพราะว่าถ้าหากกรมขนส่งมีการอบรบการบริการแท็กซี่อย่างจริงจรัง ผมคิดว่าแท็กซี่จะน่านั่งกว่านี้เยอะครับ เพราะตั้งแต่มีข่าวออกมาผมบอกได้เลยสำหรับผู้หญิงก็กลัวการขึ้นแท็กซี่มากขึ้นครับ


//เหตุผลที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร//
- ติดส่งรถ , ติดธุระ , แก๊สหมด (ต้องเป็น NGV เท่านั้นนะครับ) ... อันนี้เป็นเหตุผลจริงครับไม่ใช่คำโกหกของคนขับ เพียงแต่บางคนเอามาอ้างก็เลยกลายเป็นคำโกหกไปเลยครับ

//คำแนะนำสำหรับผู้ที่เจอแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร//
1. ให้ดูช่วงเวลาครับ ... ถ้าช่วงเวลาที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารถ้าอยู่ในช่วงเวลา 3-5 โมง เป็นความจริงเพราะว่าเค้าจะต้องส่งรถครับ แต่ถ้าปฏิเสธตอน 10-11 โมง แบบนี้โกหก 99% (จะมีแค่ 1% เท่านั้นที่เค้าเปลี่ยนกะกันช่วงเวลาที่เค้าตกลงกันเองของคนขับ 2 คน)

2. ให้เลือกเขียวเหลือง ... ถ้าช่วงเวลารถส่งกะ ผมแนะนำให้เลือกรถเขียวเหลืองครับเพราะรถเขียวเหลืองเป็นรถส่วนบุคคล 90% เจ้าของจะขับเองครับ ดังนั้นเรื่องติดเวลาส่งกะ ก็มองข้ามไปได้เลยครับ

3. ติดเติมแก๊ส ... ถ้าสำหรับรถที่ติดแก๊ส NGV อันนี้เป็นความจริงครับที่เค้าต้องปฏิเสธผู้โดยสารเพราะบางครั้งกว่าจะเติมแก๊สได้ต้องรอนานมากครับ แต่ถ้าเป็น LPG ก็ไม่มีปัญหาครับ ดังนั้นเลยอยากให้ลองสังเกตุ (แต่ไม่รับรอง 100% นะครับ) ให้ดูรถรุ่นใหม่ๆส่วนมาก 80% จะติด NGV ครับ (มีทั้งรถเช่า แล้วรถเขียวเหลืองที่ออก NGV มาจากโรงงานเลยครับ) ส่วนพวกรถรุ่นเก่าส่วนมากจะเป็น LPG ครับ

4. ให้เลือกรถสหกรณ์ ... ถ้าหากจะนั่งการแบบหลายคน , มีสัตว์อะไรขึ้นไปด้วย ส่วนมากพวกรถเช่าเค้าจะไปหมดนะครับ แต่ถ้าเรียกเขียวเหลืองโอกาสถูกปฏิเสธจะมีมากกว่าครับ เพราะส่วนมากเพราะเจ้าของรถที่ขับเองจะห่วงรถ (รักรถเกินไป) ครับ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้อยากให้เห็นใจจริงๆครับ ไปดูต้นทุนของคนขับก็หนักเหมือนกันครับ
ต้นทุนเฉลี่ย (รวมทุกอย่าง) อยู่ที่ประมาณ 800-850 บาท (ขึ้นอยู่กับรถใหม่หรือรถเก่า , ประเภทเกียร์ , ค่าแก๊ส)
ดังนั้นเค้าจะต้องวิ่งให้ได้ 1,000 UP ขึ้นไปครับเค้าถึงจะพออยู่ได้ มันก็เลยเป็นเหตุผลให้เค้าเลือกผู้โดยสารกันมากมาย