ผมอยากรู้ว่าทำไมหลายท่านถึงเชียร์ Uber กันจัง ? .. ทุกคนรู้ไหมว่า Uber มันผิดกฎหมายแต่ก็กลับทำเป็นไม่สนใจกัน แล้วแบบนี้กฎหมายจะบัญญัติมาเพื่ออะไรเหรอครับ ?
กฎหมายนั้นบัญญัติมาเพื่อความเป็นระเบียบของสังคมนะครับ ที่ไหนมีสังคมที่นั่นย่อมต้องมีกฎหมาย แต่ทุกคนกลับไม่สนใจแถมยังเป็นการสนับสนุน Uber โดยส่วนตัวผมมองว่ามันผิดนะครับ ถ้าทุกคนอยากใช้บริการทำไมถึงไม่รณรงค์ให้ Uber ทำให้ถูกกฎหมายครับ ?
ถ้าหากยังปล่อยให้ Uber ทำแบบนี้ลองคิดในอนาคตดูครับจะเป็นอย่างไร คนขับรถ Uber มันก็ต้องมากขึ้นปัญหาก็ตามมาอย่างแน่นอนครับ ... ณ ตอนนี้สาเหตุที่ทุกท่านประทับใจในการบริการ Uber กันก็เพราะคนที่มาขับ Uber ส่วนมากจะพอมีทักษะด้านบริการในระดับที่สูงกว่าคนขับ Taxi (คนขับ Taxi ยังขาดทักษะในด้านการบริการเพราะสังคมของเค้านั้นไม่ดี)
ถ้าหากบอกว่า Uber ถูกผมอยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพครับ แบบนี้คนขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ต้องสวมหมวกกันน็อคสิครับ คนขับรถยนต์ก็ไม่ต้องคาดเข็มขัดสิครับ พวกรถตู้เถื่อนก็สามารถวิ่งรับจ้างกันทั่วไปได้ รถยนต์จดทะเบียนส่วนบุคคลก็สามารถวิ่งรับจ้างได้ทุกคันสิครับ ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยส่วนตัวผมไม่เคยใช้บริการ Uber ครับแต่เห็นข่าวสารเกี่ยวกับ Uber แพร่หลายบน Internet เป็นอย่างมาก ผมก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่า
1. รถของ Uber ทุกคันกำหนดเรื่องการติดฟิล์มหรือไม่ครับ ? .. ถ้าในกรณีที่ Uber ไม่กำหนดกฎเกณฑ์แบบนี้ถ้าหากคนขับทำร้ายผู้โดยสารจะเป็นอย่างไรครับ ? (ไม่มีบุคคลอื่นเห็นได้)
2. คนขับรถของ Uber ทางบริษัทอูเบอร์ได้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผู้ขับหรือไม่ครับ ? .. ถ้าหากไม่ตรวจสอบสมมุติว่าคนขับนั้นเคยทำความผิดในคดีอาญา หรือสติไม่สมประกอบ ผู้โดยสารจะเป็นอย่างไรครับ ?
ถ้าหากยังปล่อย Uber ทำแบบนี้อีกเชื่อผมสิครับอีกไม่เกิน 5 ปีมีปัญหาแน่นอน และอีกอย่างการบริการก็ไม่มีทางเหมือนปัจจุบันแบบที่ผู้ใช้บริการชมเชยกันตอนนี้แน่นอนครับ
ผมมองว่า Taxi นั้นทุกท่านควรใช้บริการอยู่ครับเพราะว่าให้ความปลอดภัยได้มากกว่าครับ (ไม่ใช่ตอนนี้) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาแก้ไขนะครับ
- ปัญหาการไม่รับผู้โดยสาร .. สาเหตุเกิดจากอะไรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไป Research เอาครับ แต่จากประสบการณ์ที่ผมรู้จักคนขับรถนั้นก็คือรายได้ไม่พอสาเหตุเกิดจาก ค่าเช่ารถแพง , ค่าโดยสารยังต่ำกว่าสำหรับคนขับรถ Taxi , ติดปัญหาเรื่องการเติมแก๊สเพราะต้องไปรอคิวเป็นชั่วโมง (NGV) , ติดปัญหาเรื่องการส่งรถ , จำนวนรถแท็กซี่มากเกินไป ทั้งหมดผมที่กล่าวมามันเป็นความจริงครับแต่คนขับ Taxi บางรายก็ใช้เป็นข้ออ้างจนลูกค้าไม่เชื่อกัน
*ดังนั้นผมคิดว่าปัญหานี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะไปจัดการเรื่องค่าเช่ารถ , กำหนดจำนวนแท็กซี่ให้น้อยลงกว่านี้เพราะว่าพวกเจ้าอู่มีแบบไม่มีการจำกัดเลยครับ สิ่งสุดท้ายที่ควรทำก็คือปรับค่าโดยสารขึ้น แต่การปรับนั้นก็อย่าพยายามไปสร้างภาวะให้กับผู้โดยสาร เพราะถ้าขึ้นมากเกินไปมันจะเป็นภาวะสำหรับผู้ใช้บริการอีก
*จุดไหนที่มีการปฏิเสธผู้โดยสารก็ต้องให้หน่วยงานภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือเช่นจัดตั้งวิน และในวินนั้นรถแท็กซี่จะต้องไปทุกคน (แต่ก็ต้องยกเว้นในกรณีจำเป็นจริงๆ) ถ้าใครไม่ทำตามก็ให้เลิกวิ่งวินไปเลย ตรงนี้มันจะเป็นโอกาสในรวบรวมผู้ขับแท็กซี่ที่ต้องการไปทุกที่นะครับ
*กำหนดจุดข้อความร่วมมือในการปฏิเสธลูกค้า .. อย่างเช่น MBK , Paragon ก็ขอความร่วมมือไปยังพวกคนขับ Taxi ไม่ให้ปฏิเสธลูกค้าในบริเวณนี้ถ้าจะใครปฏิเสธก็ให้ไปวิ่งขับลูกค้าที่จุด แต่ถ้ายังหาลูกค้าเพิ่มอีกแต่ก็ปฏิเสธก็ต้องปรับแล้วละครับ
- ปัญหาการบริการไม่ประทับใจ .. โดยส่วนตัวผมมองว่าขั้นตอนในการทำใบขับขี่สาธารณะ ทางกรมขนส่งเองก็เพิ่มอบรมเรื่องการบริการผู้โดยสารในลักษณะการบริการเป็นอย่างไร และจะต้องทำอย่างไร แล้วก็ต้องวัดผลด้วยการให้รับข้อมูลคำแนะนำจากผู้ใช้บริการได้ อย่างเช่นถ้าหากแท็กซี่บริการไม่ประทับใจลูกค้าก็อาจจะส่งเรื่องไปทาง APP หรือ ช่องทางการให้ feedback ที่ทันสมัย รวดเร็ว และถูกต้องเพื่อที่จะได้ให้ผู้ใช้บริการร้องเรียนอย่างง่ายๆ และทางขนส่งเองก็จะได้ข้อมูลที่มากขึ้น ... ถ้าหาก Taxi คันไหนได้รับข้อร้องเรียนในเรื่องการบริการเกินประมาณ 10 รายขึ้นไปทางขนส่งก็จะต้องเรียกผู้ขับไปอบรมใหม่ (ทำแบบนี้ไปจนผู้ขับเบื่อไปเลย) และการอบรมก็ควรใช้ระยะเวลาให้นานมากๆเพื่อให้ผู้ขับเบื่อและไม่อยากทำอีก
- ปัญหาความปลอดภัย .. ผมคิดว่านั่งแท็กซี่ถ้าหากนั่งกับผู้ที่ทำอาชีพแท็กซี่จริงๆนั้นก็ปลอดภัยนะครับ แต่บางครั้งมันพวกค้ายา , โจร มาขับแท็กซี่แบบนี้ผมก็มองว่ามันไม่ปลอดภัยต่อผู้โดยสารนะครับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะเอาจริงเรื่องตรวจสอบใบขับขี่สาธารณะนะครับ ถ้าหากใครไม่มีก็ไม่มีสิทธิ์ขับรถ Taxi ได้ แต่ปัจจุบันนี้ผมว่ามีเยอะพอสมควรนะครับ เพราะพวกอู่เช่าบางอู่แล้วรถเก่าๆส่วนมากจะไม่ค่อยสนใจเรื่องใบขับขี่สาธารณะกัน
สุดท้ายผมก็ยังอยากบอกว่ากฏก็ต้องเป็นกฎครับ .. แล้วอีกอย่างที่พวกกรมขนส่งออกมาพูดนั้นเป็นความจริงหมด "ไม่ปลอดภัยเพราะไม่สู่ระบบรถสาธารณะ ค่าโดยสารก็ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายระบุ" แบบนี้ Taxi ปลอดภัยกว่าเยอะครับ แต่บางครั้งในความเป็นจริงแท็กซี่ก็อาจไม่ปลอดภัยได้ในส่วนที่ผมได้กล่าวไปเกี่ยวกับผู้ขับ ดังนั้นกรมขนส่งก็ควรจะแก้ปัญหาพวกนี้ครับ
ผมว่าเลิกเห็นด้วยกับ Uber เถอะครับมันไม่ถูก แล้วไปกดดันร่วมรณรงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงเรื่องการให้บริการของรถ Taxi และเอาจริงเอาจังดีกว่าครับ
ทำไมถึงเชียร์ Uber กันจังครับ ?
กฎหมายนั้นบัญญัติมาเพื่อความเป็นระเบียบของสังคมนะครับ ที่ไหนมีสังคมที่นั่นย่อมต้องมีกฎหมาย แต่ทุกคนกลับไม่สนใจแถมยังเป็นการสนับสนุน Uber โดยส่วนตัวผมมองว่ามันผิดนะครับ ถ้าทุกคนอยากใช้บริการทำไมถึงไม่รณรงค์ให้ Uber ทำให้ถูกกฎหมายครับ ?
ถ้าหากยังปล่อยให้ Uber ทำแบบนี้ลองคิดในอนาคตดูครับจะเป็นอย่างไร คนขับรถ Uber มันก็ต้องมากขึ้นปัญหาก็ตามมาอย่างแน่นอนครับ ... ณ ตอนนี้สาเหตุที่ทุกท่านประทับใจในการบริการ Uber กันก็เพราะคนที่มาขับ Uber ส่วนมากจะพอมีทักษะด้านบริการในระดับที่สูงกว่าคนขับ Taxi (คนขับ Taxi ยังขาดทักษะในด้านการบริการเพราะสังคมของเค้านั้นไม่ดี)
ถ้าหากบอกว่า Uber ถูกผมอยากเปรียบเทียบให้เห็นภาพครับ แบบนี้คนขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ต้องสวมหมวกกันน็อคสิครับ คนขับรถยนต์ก็ไม่ต้องคาดเข็มขัดสิครับ พวกรถตู้เถื่อนก็สามารถวิ่งรับจ้างกันทั่วไปได้ รถยนต์จดทะเบียนส่วนบุคคลก็สามารถวิ่งรับจ้างได้ทุกคันสิครับ ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าหากยังปล่อย Uber ทำแบบนี้อีกเชื่อผมสิครับอีกไม่เกิน 5 ปีมีปัญหาแน่นอน และอีกอย่างการบริการก็ไม่มีทางเหมือนปัจจุบันแบบที่ผู้ใช้บริการชมเชยกันตอนนี้แน่นอนครับ
ผมมองว่า Taxi นั้นทุกท่านควรใช้บริการอยู่ครับเพราะว่าให้ความปลอดภัยได้มากกว่าครับ (ไม่ใช่ตอนนี้) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาแก้ไขนะครับ
- ปัญหาการไม่รับผู้โดยสาร .. สาเหตุเกิดจากอะไรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไป Research เอาครับ แต่จากประสบการณ์ที่ผมรู้จักคนขับรถนั้นก็คือรายได้ไม่พอสาเหตุเกิดจาก ค่าเช่ารถแพง , ค่าโดยสารยังต่ำกว่าสำหรับคนขับรถ Taxi , ติดปัญหาเรื่องการเติมแก๊สเพราะต้องไปรอคิวเป็นชั่วโมง (NGV) , ติดปัญหาเรื่องการส่งรถ , จำนวนรถแท็กซี่มากเกินไป ทั้งหมดผมที่กล่าวมามันเป็นความจริงครับแต่คนขับ Taxi บางรายก็ใช้เป็นข้ออ้างจนลูกค้าไม่เชื่อกัน
*ดังนั้นผมคิดว่าปัญหานี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะไปจัดการเรื่องค่าเช่ารถ , กำหนดจำนวนแท็กซี่ให้น้อยลงกว่านี้เพราะว่าพวกเจ้าอู่มีแบบไม่มีการจำกัดเลยครับ สิ่งสุดท้ายที่ควรทำก็คือปรับค่าโดยสารขึ้น แต่การปรับนั้นก็อย่าพยายามไปสร้างภาวะให้กับผู้โดยสาร เพราะถ้าขึ้นมากเกินไปมันจะเป็นภาวะสำหรับผู้ใช้บริการอีก
*จุดไหนที่มีการปฏิเสธผู้โดยสารก็ต้องให้หน่วยงานภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือเช่นจัดตั้งวิน และในวินนั้นรถแท็กซี่จะต้องไปทุกคน (แต่ก็ต้องยกเว้นในกรณีจำเป็นจริงๆ) ถ้าใครไม่ทำตามก็ให้เลิกวิ่งวินไปเลย ตรงนี้มันจะเป็นโอกาสในรวบรวมผู้ขับแท็กซี่ที่ต้องการไปทุกที่นะครับ
*กำหนดจุดข้อความร่วมมือในการปฏิเสธลูกค้า .. อย่างเช่น MBK , Paragon ก็ขอความร่วมมือไปยังพวกคนขับ Taxi ไม่ให้ปฏิเสธลูกค้าในบริเวณนี้ถ้าจะใครปฏิเสธก็ให้ไปวิ่งขับลูกค้าที่จุด แต่ถ้ายังหาลูกค้าเพิ่มอีกแต่ก็ปฏิเสธก็ต้องปรับแล้วละครับ
- ปัญหาการบริการไม่ประทับใจ .. โดยส่วนตัวผมมองว่าขั้นตอนในการทำใบขับขี่สาธารณะ ทางกรมขนส่งเองก็เพิ่มอบรมเรื่องการบริการผู้โดยสารในลักษณะการบริการเป็นอย่างไร และจะต้องทำอย่างไร แล้วก็ต้องวัดผลด้วยการให้รับข้อมูลคำแนะนำจากผู้ใช้บริการได้ อย่างเช่นถ้าหากแท็กซี่บริการไม่ประทับใจลูกค้าก็อาจจะส่งเรื่องไปทาง APP หรือ ช่องทางการให้ feedback ที่ทันสมัย รวดเร็ว และถูกต้องเพื่อที่จะได้ให้ผู้ใช้บริการร้องเรียนอย่างง่ายๆ และทางขนส่งเองก็จะได้ข้อมูลที่มากขึ้น ... ถ้าหาก Taxi คันไหนได้รับข้อร้องเรียนในเรื่องการบริการเกินประมาณ 10 รายขึ้นไปทางขนส่งก็จะต้องเรียกผู้ขับไปอบรมใหม่ (ทำแบบนี้ไปจนผู้ขับเบื่อไปเลย) และการอบรมก็ควรใช้ระยะเวลาให้นานมากๆเพื่อให้ผู้ขับเบื่อและไม่อยากทำอีก
- ปัญหาความปลอดภัย .. ผมคิดว่านั่งแท็กซี่ถ้าหากนั่งกับผู้ที่ทำอาชีพแท็กซี่จริงๆนั้นก็ปลอดภัยนะครับ แต่บางครั้งมันพวกค้ายา , โจร มาขับแท็กซี่แบบนี้ผมก็มองว่ามันไม่ปลอดภัยต่อผู้โดยสารนะครับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะเอาจริงเรื่องตรวจสอบใบขับขี่สาธารณะนะครับ ถ้าหากใครไม่มีก็ไม่มีสิทธิ์ขับรถ Taxi ได้ แต่ปัจจุบันนี้ผมว่ามีเยอะพอสมควรนะครับ เพราะพวกอู่เช่าบางอู่แล้วรถเก่าๆส่วนมากจะไม่ค่อยสนใจเรื่องใบขับขี่สาธารณะกัน
สุดท้ายผมก็ยังอยากบอกว่ากฏก็ต้องเป็นกฎครับ .. แล้วอีกอย่างที่พวกกรมขนส่งออกมาพูดนั้นเป็นความจริงหมด "ไม่ปลอดภัยเพราะไม่สู่ระบบรถสาธารณะ ค่าโดยสารก็ไม่เป็นไปตามที่กฎหมายระบุ" แบบนี้ Taxi ปลอดภัยกว่าเยอะครับ แต่บางครั้งในความเป็นจริงแท็กซี่ก็อาจไม่ปลอดภัยได้ในส่วนที่ผมได้กล่าวไปเกี่ยวกับผู้ขับ ดังนั้นกรมขนส่งก็ควรจะแก้ปัญหาพวกนี้ครับ
ผมว่าเลิกเห็นด้วยกับ Uber เถอะครับมันไม่ถูก แล้วไปกดดันร่วมรณรงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงเรื่องการให้บริการของรถ Taxi และเอาจริงเอาจังดีกว่าครับ