เริ่มด้วย การแนะนำตัวก่อนเลยนะครับ ผมเป็นชาวบ้านที่ได้เข้ามาเป็นพนักงานของบริษัททำเหมืองแร่ บริษัทหนึ่ง ในตำแหน่งหัวหน้างานฝึกอบรม ซึ่งตัวผมได้ทำงานอยู่ในบริษัทนี้มาเป็นเวลานานนับสิบปี แต่แล้ววันหนึ่ง ก็มีคำสั่งให้เหมืองหยุดการทำงาน เนื่องจากตรวจพบโลหะหนัก และสารหนู ในเลือดและปัสสาวะ ของชาวบ้าน ทำให้พวกผมต้องพลอยหยุดงานไปด้วย แต่สิ่งที่ผมสงสัย และรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม คือ ทำไมไม่มีใครสนใจที่จะหาคำตอบต่างๆเหล่านี้เลย คำถามของผมก็คือ
1. สารหนู และโลหะหนักที่ตรวจพบในเลือดและปัสสาวะของชาวบ้าน จะทราบได้อย่างไรว่ามีสาเหตุมาจากการทำเหมืองจริงๆ ไม่ใช่ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ฯลฯ
2. ชาวบ้านที่ตรวจพบสารเหล่าพิษนี้ เป็นชาวบ้านเพียง 2-3 หมู่บ้านมีจำนวนไม่มาก ที่อาศัยอยู่ห่างจากเหมืองเป็นกิโลทั้งนั้น แต่ทำไมชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆเหมือง ถึงไม่พบสารพิษเหล่านี้อยู่ในร่างกาย ทั้งๆที่อาศัยอยู่ใกล้เหมืองมากกว่าด้วยซ้ำ ตามหลักควรจะต้องได้รับสารพิษก่อนคนที่อยู่ไกลกว่าไม่ใช่เหรอครับ
3. ผม ในฐานะพนักงาน ทำงานเหมืองมานาน ผมยืนยันได้ว่า ทางบริษัทฯ ได้จัดให้มีการตรวจสุขภาพ เป็นประจำทุกปี พนักงานส่วนมากก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่รอบๆเหมืองด้วยกันทั้งนั้น ผลการตรวจสุขภาพ ก็ไม่เห็นมีใครพบสารพิษใด ๆ ในร่างกายเลย
4. ทางบริษัทเจ้าของสัมปทานเหมือง ซึ่งเป็นนายจ้างของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ ได้จัดซื้อน้ำดื่ม เพื่อแจกให้กับชาวบ้านทั่วทุกบ้านรอบบริเวณเหมือง น้ำที่จัดซื้อให้ชาวบ้านดื่มนั้น ก็จะมีหน่วยงานเข้ามา
ตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่า น้ำดื่มนั้นสะอาด ปลอดภัย ตามมาตรฐานแน่นอน
วันนี้ เมื่อบริษัทถูกคำสั่งให้หยุดการทำงาน ก็ทำให้ตัวผมและพนักงานอีกหลายพันคนต้องหยุดงาน และอนาคตอันใกล้นี้ ถ้าบริษัทฯอยู่ไม่ไหว พวกผมก็อาจจะต้องตกงาน แล้วชาวบ้านอย่างพวกผมต้องขาดรายได้ สมาชิกในครอบครัวอีกหลายร้อยหลายพันชีวิตจะทำยังไงกันต่อไป
นี่เป็นเพียงเสียงจากชาวบ้านที่แท้จริงและเป็นชาวเหมืองอย่างพวกผม ซึ่งถือว่าเป็นชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่รอบๆเหมือง และทำงานอยู่กับเหมืองแห่งนี้ ฝากชีวิตไว้กับเหมืองแห่งนี้มาเป็นเวลายาวนานกว่า 14 ปีแล้ว อยากให้หน่วยงานราชการทั้งหลายเปิดใจฟังพวกเราบ้างครับ
เสียงจากคนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดเหมือง
1. สารหนู และโลหะหนักที่ตรวจพบในเลือดและปัสสาวะของชาวบ้าน จะทราบได้อย่างไรว่ามีสาเหตุมาจากการทำเหมืองจริงๆ ไม่ใช่ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ฯลฯ
2. ชาวบ้านที่ตรวจพบสารเหล่าพิษนี้ เป็นชาวบ้านเพียง 2-3 หมู่บ้านมีจำนวนไม่มาก ที่อาศัยอยู่ห่างจากเหมืองเป็นกิโลทั้งนั้น แต่ทำไมชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบๆเหมือง ถึงไม่พบสารพิษเหล่านี้อยู่ในร่างกาย ทั้งๆที่อาศัยอยู่ใกล้เหมืองมากกว่าด้วยซ้ำ ตามหลักควรจะต้องได้รับสารพิษก่อนคนที่อยู่ไกลกว่าไม่ใช่เหรอครับ
3. ผม ในฐานะพนักงาน ทำงานเหมืองมานาน ผมยืนยันได้ว่า ทางบริษัทฯ ได้จัดให้มีการตรวจสุขภาพ เป็นประจำทุกปี พนักงานส่วนมากก็เป็นชาวบ้านในพื้นที่รอบๆเหมืองด้วยกันทั้งนั้น ผลการตรวจสุขภาพ ก็ไม่เห็นมีใครพบสารพิษใด ๆ ในร่างกายเลย
4. ทางบริษัทเจ้าของสัมปทานเหมือง ซึ่งเป็นนายจ้างของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ ได้จัดซื้อน้ำดื่ม เพื่อแจกให้กับชาวบ้านทั่วทุกบ้านรอบบริเวณเหมือง น้ำที่จัดซื้อให้ชาวบ้านดื่มนั้น ก็จะมีหน่วยงานเข้ามา
ตรวจสอบคุณภาพน้ำเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่า น้ำดื่มนั้นสะอาด ปลอดภัย ตามมาตรฐานแน่นอน
วันนี้ เมื่อบริษัทถูกคำสั่งให้หยุดการทำงาน ก็ทำให้ตัวผมและพนักงานอีกหลายพันคนต้องหยุดงาน และอนาคตอันใกล้นี้ ถ้าบริษัทฯอยู่ไม่ไหว พวกผมก็อาจจะต้องตกงาน แล้วชาวบ้านอย่างพวกผมต้องขาดรายได้ สมาชิกในครอบครัวอีกหลายร้อยหลายพันชีวิตจะทำยังไงกันต่อไป
นี่เป็นเพียงเสียงจากชาวบ้านที่แท้จริงและเป็นชาวเหมืองอย่างพวกผม ซึ่งถือว่าเป็นชาวบ้านส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่รอบๆเหมือง และทำงานอยู่กับเหมืองแห่งนี้ ฝากชีวิตไว้กับเหมืองแห่งนี้มาเป็นเวลายาวนานกว่า 14 ปีแล้ว อยากให้หน่วยงานราชการทั้งหลายเปิดใจฟังพวกเราบ้างครับ