ชีวิตของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
.... ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากมาย
.... ไม่ใช่คนที่คล่องแคล่วไปทุกสรรพสิ่ง
.... ไม่ใช่นักวิชาการทรงภูมิ
เป็นเพียงเด็กผู้หญิงซื่อ ๆ ใส ๆ คนหนึ่ง
ที่ใช้ชีวิตอย่างไม่หวือหวาตั้งแต่ต้นมา
จนจะเรียกว่าเป็น "หญิงสาว" ก็แทบจะ
ไม่ได้ แต่วันนี้โลกของเธอเปลี่ยนแปลง
เมื่อเจอกับวิญญาณนามพุธกันยา
หากพูดถึงเด็กสาวที่ชื่อ "หอมน้ำ" คงไม่มีถ้อยคำอะไรที่จะพูดถึงเป็นพิเศษ นอกจากคำว่า "ธรรมดา" หอมน้ำนั้นเป็นเด็กต่างจังหวัดซึ่งมีโอกาสเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ครอบครัวของเธออบอุ่นและพอจะมีฐานะส่งลูกสาวให้เข้ามาเรียนในเมืองกรุงได้อย่างสุขสบาย นอกจากการเรียนแล้วชีวิตก็ไม่ได้มีเรื่องตื่นเต้น ไม่มีอะไรให้ต้องดิ้นรน ไม่มีอะไรให้ต้องลำบาก และ ถ้าหากจะมีอะไรที่มันลำบากเกิดขึ้นจริง ๆ ก็สามารถที่จะวิ่งกลับบ้านหาพ่อแม่ได้เสมอ ไม่ว่าเรื่องลำบากที่ว่านั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ นั่นทำให้ "หอมน้ำ" ยังมีสภาพเป็นเด็กน้อยที่ไม่โต แน่นอนเธอเป็นเด็กดี ไม่เที่ยว ไม่เปรี้ยว ไม่เฟี้ยวเงาะ จึงไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องแก้ และ ถ้ามีเรื่องอะไรให้ต้องแก้ก็มักจะไม่ถึงมือคุณพ่อคุณแม่เพราะ เธอมีเพื่อนสาวตัวอวบแต่โคตรคล่องอย่างเขนคอยคลายเรื่องหนักให้เป็นเรื่องเบาอยู่เสมอ
เมื่อหอมน้ำเป็นเด็กดี เรียนก็ดี ทำตัวไม่มีประเด็นมาตลอด คนเป็นพ่อเป็นแม่เป็นเพื่อนผิดตรงไหนหากจะช่วยลูกช่วยเพื่อนแล้วแต่กรณี มันเป็นปัญหาที่ตรงไหน ? แม้จะเห็นว่าน้อยครั้งที่หอมน้ำจะตัดสินใจด้วยตนเอง น้อยครั้งที่จะไม่พึ่งพาคนอื่น และ น้อยครั้งที่จะยืนหยัดความคิดเห็นของตัวเองขึ้นมา ก็จะเป็นอะไรไปก็น่ารักดีนี่นา ก็เรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้เป็นปัญหาขึ้นมาได้เมื่อเจอ hostile attack แบบคุณพุธกันยา คนที่หอมน้ำเคยเจอล้วนเป็นมิตร ความใสซื่อน่ารักของเธอไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร และ ชวนให้ทุกคนเอ็นดูปัดเป่าปัญหาให้โดยหอมน้ำไม่ได้ออกแรงอะไรมากนัก
แต่กับคุณพุธกันยานี้ไม่ใช่ ... บุคคลิกของคุณพุธกันยาเป็น superior ในครั้งแรก ๆ หอมน้ำเรียกได้ว่าแทบหมดทางสู้ เพราะ สิ่งที่คุณพุธกันยาเป็นคือนักสู้ การแย่งชิงสิ่งที่เป็นของตัวเองนั้นคือไม่ดีแน่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหอมน้ำไม่มีพลังพอที่จะหวงกันสิ่งเป็นของตัวเองอย่างที่ควรจะมี ก็เพราะบุคคลิกเหล่านี้ของเธอนั่นเอง และ จุดนี้คือสิ่งที่คุณหมอฟันทันตแพทย์แลเห็น การที่บุคคลิกของคุณหมอเป็นผู้นำโดยธรรมชาติจึงต้องการผู้ตามโดยธรรมชาติอย่างหอมน้ำ และคุณหมอก็รู้ว่าสิ่งที่คุณแม่ของหมอทำกับหอมน้ำไม่ยุติธรรม แต่คุณหมอก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะรู้ว่าการจะอยู่ในโลกใบนี้การเรียกหาความยุติธรรมนั้น ก่อนที่จะเรียกร้องจากใครเราต้องสร้างด้วยตัวเอง
คุณหมอถึงสั่งนักสั่งหนา ดุนักดุหนา ห้ามถอดสร้อยพระ ห้ามยอม ความหมายก็คืออย่าให้คุณแม่ของคุณหมอเป็น superior ได้ คุณหมอถามหอมน้ำเสมอว่าเมื่อไหร่จะเลิกวิ่งหาคนอื่น เมื่อไหร่จะเลิกโทรฟ้องคุณพ่อคุณแม่ และ เมื่อนานเข้า สิ่งนี้ทำให้หอมน้ำรู้ว่า pure heart ของเธอเพียงอย่างเดียวคงทำให้เธออยู่รอดปลอดภัยไม่ได้ ตลอดทั้งเรื่องเราได้เห็นพัฒนาการทีละเล็กทีละน้อยของเด็กหญิงหอมน้ำ struggle ในหลาย ๆ ครั้งเพื่อพร้อมจะเติบโต ตอนที่เจอคุณพุธกันยาใหม่ ๆ ตอนที่เจอคุณหมอใหม่ ๆ เธอได้แต่ยอมแล้วก็ไหว้ปะลก ๆ แต่บัดนี้แม้จะยังขัด ๆ ข้อง ๆ อยู่บ้าง เธอยืนหยัดขึ้นต่อสู้ในสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอทั้ง "ชีวิต" และ "ร่างกาย" ต่อคุณพุธกันยา เธอมีความกล้าที่จะยืดหยัดในความคิดของเธอกับคุณหมอแม้จะกลัว ๆ อยู่บ้างแต่เธอก็ตอบโต้
ในความแจ่มใสไหลเย็นของหอมน้ำนั้นผสานไปด้วยความบริสุทธิ์ของวัยเด็กที่สภาพแวดล้อมไม่ยอมปล่อยให้โต แต่การเจอกับคุณพุธกันยาและปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะวิญญาณที่ไม่ไปไหนด้วยสายใยที่กลายสภาพเป็นพันธนาการนี้ เป็นโชคดีในโชคร้าย ประการแรกมันคือการเปิดประตูก้าวแรกของความเป็นผู้ใหญ่ให้หมอมแน้ำต้องแก้ปัญหา เพราะ มันเป็นปัญหาเฉพาะตัวที่ใครปัดเป่าให้ก็ไม่ได้ เธอต้องผ่านไปด้วยตัวเอง ประการที่สองสายใยที่เป็นพันธนาการนี้ช่วยกรองและคัดเลือกผู้ชายที่เข้าใจเธอพร้อมจะขัดเขลาให้เธอเติบโตและพร้อมจะดูแลเธอฉันคนรักไปตลอดชีวิตอีกด้วย
หัวใจที่พิสุทธิ์ของหอมน้ำในวันนี้
แม้อาจจะยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่
แต่ก็แข็งแร็งขึ้นเมื่อผ่านปัญหา
แล้วยังได้ของรางวัลเป็น
คุณหมอฟันทันตแพทย์สุดหล่ออีกด้วย
ใยกัลยา : หอมน้ำ coming of age with her struggling pure heart (วิเคราะห์)
.... ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากมาย
.... ไม่ใช่คนที่คล่องแคล่วไปทุกสรรพสิ่ง
.... ไม่ใช่นักวิชาการทรงภูมิ
เป็นเพียงเด็กผู้หญิงซื่อ ๆ ใส ๆ คนหนึ่ง
ที่ใช้ชีวิตอย่างไม่หวือหวาตั้งแต่ต้นมา
จนจะเรียกว่าเป็น "หญิงสาว" ก็แทบจะ
ไม่ได้ แต่วันนี้โลกของเธอเปลี่ยนแปลง
เมื่อเจอกับวิญญาณนามพุธกันยา
หากพูดถึงเด็กสาวที่ชื่อ "หอมน้ำ" คงไม่มีถ้อยคำอะไรที่จะพูดถึงเป็นพิเศษ นอกจากคำว่า "ธรรมดา" หอมน้ำนั้นเป็นเด็กต่างจังหวัดซึ่งมีโอกาสเข้ามาเรียนที่กรุงเทพฯ ครอบครัวของเธออบอุ่นและพอจะมีฐานะส่งลูกสาวให้เข้ามาเรียนในเมืองกรุงได้อย่างสุขสบาย นอกจากการเรียนแล้วชีวิตก็ไม่ได้มีเรื่องตื่นเต้น ไม่มีอะไรให้ต้องดิ้นรน ไม่มีอะไรให้ต้องลำบาก และ ถ้าหากจะมีอะไรที่มันลำบากเกิดขึ้นจริง ๆ ก็สามารถที่จะวิ่งกลับบ้านหาพ่อแม่ได้เสมอ ไม่ว่าเรื่องลำบากที่ว่านั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือใหญ่ นั่นทำให้ "หอมน้ำ" ยังมีสภาพเป็นเด็กน้อยที่ไม่โต แน่นอนเธอเป็นเด็กดี ไม่เที่ยว ไม่เปรี้ยว ไม่เฟี้ยวเงาะ จึงไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องแก้ และ ถ้ามีเรื่องอะไรให้ต้องแก้ก็มักจะไม่ถึงมือคุณพ่อคุณแม่เพราะ เธอมีเพื่อนสาวตัวอวบแต่โคตรคล่องอย่างเขนคอยคลายเรื่องหนักให้เป็นเรื่องเบาอยู่เสมอ
เมื่อหอมน้ำเป็นเด็กดี เรียนก็ดี ทำตัวไม่มีประเด็นมาตลอด คนเป็นพ่อเป็นแม่เป็นเพื่อนผิดตรงไหนหากจะช่วยลูกช่วยเพื่อนแล้วแต่กรณี มันเป็นปัญหาที่ตรงไหน ? แม้จะเห็นว่าน้อยครั้งที่หอมน้ำจะตัดสินใจด้วยตนเอง น้อยครั้งที่จะไม่พึ่งพาคนอื่น และ น้อยครั้งที่จะยืนหยัดความคิดเห็นของตัวเองขึ้นมา ก็จะเป็นอะไรไปก็น่ารักดีนี่นา ก็เรื่องนี้นี่แหละที่ทำให้เป็นปัญหาขึ้นมาได้เมื่อเจอ hostile attack แบบคุณพุธกันยา คนที่หอมน้ำเคยเจอล้วนเป็นมิตร ความใสซื่อน่ารักของเธอไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร และ ชวนให้ทุกคนเอ็นดูปัดเป่าปัญหาให้โดยหอมน้ำไม่ได้ออกแรงอะไรมากนัก
แต่กับคุณพุธกันยานี้ไม่ใช่ ... บุคคลิกของคุณพุธกันยาเป็น superior ในครั้งแรก ๆ หอมน้ำเรียกได้ว่าแทบหมดทางสู้ เพราะ สิ่งที่คุณพุธกันยาเป็นคือนักสู้ การแย่งชิงสิ่งที่เป็นของตัวเองนั้นคือไม่ดีแน่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหอมน้ำไม่มีพลังพอที่จะหวงกันสิ่งเป็นของตัวเองอย่างที่ควรจะมี ก็เพราะบุคคลิกเหล่านี้ของเธอนั่นเอง และ จุดนี้คือสิ่งที่คุณหมอฟันทันตแพทย์แลเห็น การที่บุคคลิกของคุณหมอเป็นผู้นำโดยธรรมชาติจึงต้องการผู้ตามโดยธรรมชาติอย่างหอมน้ำ และคุณหมอก็รู้ว่าสิ่งที่คุณแม่ของหมอทำกับหอมน้ำไม่ยุติธรรม แต่คุณหมอก็เป็นผู้ใหญ่พอที่จะรู้ว่าการจะอยู่ในโลกใบนี้การเรียกหาความยุติธรรมนั้น ก่อนที่จะเรียกร้องจากใครเราต้องสร้างด้วยตัวเอง
คุณหมอถึงสั่งนักสั่งหนา ดุนักดุหนา ห้ามถอดสร้อยพระ ห้ามยอม ความหมายก็คืออย่าให้คุณแม่ของคุณหมอเป็น superior ได้ คุณหมอถามหอมน้ำเสมอว่าเมื่อไหร่จะเลิกวิ่งหาคนอื่น เมื่อไหร่จะเลิกโทรฟ้องคุณพ่อคุณแม่ และ เมื่อนานเข้า สิ่งนี้ทำให้หอมน้ำรู้ว่า pure heart ของเธอเพียงอย่างเดียวคงทำให้เธออยู่รอดปลอดภัยไม่ได้ ตลอดทั้งเรื่องเราได้เห็นพัฒนาการทีละเล็กทีละน้อยของเด็กหญิงหอมน้ำ struggle ในหลาย ๆ ครั้งเพื่อพร้อมจะเติบโต ตอนที่เจอคุณพุธกันยาใหม่ ๆ ตอนที่เจอคุณหมอใหม่ ๆ เธอได้แต่ยอมแล้วก็ไหว้ปะลก ๆ แต่บัดนี้แม้จะยังขัด ๆ ข้อง ๆ อยู่บ้าง เธอยืนหยัดขึ้นต่อสู้ในสิ่งที่ควรจะเป็นของเธอทั้ง "ชีวิต" และ "ร่างกาย" ต่อคุณพุธกันยา เธอมีความกล้าที่จะยืดหยัดในความคิดของเธอกับคุณหมอแม้จะกลัว ๆ อยู่บ้างแต่เธอก็ตอบโต้
ในความแจ่มใสไหลเย็นของหอมน้ำนั้นผสานไปด้วยความบริสุทธิ์ของวัยเด็กที่สภาพแวดล้อมไม่ยอมปล่อยให้โต แต่การเจอกับคุณพุธกันยาและปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะวิญญาณที่ไม่ไปไหนด้วยสายใยที่กลายสภาพเป็นพันธนาการนี้ เป็นโชคดีในโชคร้าย ประการแรกมันคือการเปิดประตูก้าวแรกของความเป็นผู้ใหญ่ให้หมอมแน้ำต้องแก้ปัญหา เพราะ มันเป็นปัญหาเฉพาะตัวที่ใครปัดเป่าให้ก็ไม่ได้ เธอต้องผ่านไปด้วยตัวเอง ประการที่สองสายใยที่เป็นพันธนาการนี้ช่วยกรองและคัดเลือกผู้ชายที่เข้าใจเธอพร้อมจะขัดเขลาให้เธอเติบโตและพร้อมจะดูแลเธอฉันคนรักไปตลอดชีวิตอีกด้วย
แม้อาจจะยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่
แต่ก็แข็งแร็งขึ้นเมื่อผ่านปัญหา
แล้วยังได้ของรางวัลเป็น
คุณหมอฟันทันตแพทย์สุดหล่ออีกด้วย