บอกประวัติสายตาก่อนคร่าวๆนะคะ เราเป็นคนสายตาสั้นคะ ประมาณไม่เกิน 200
ไม่มีเอียง และไม่เคยคิดด้วยว่าตัวเองจะเป็นตาเข เพราะไม่เคยมีเพื่อนทักหรือมองปกติก็จะไม่เห็นเลย
เราเป็นคนใช้สายตาค่อนข้างหนัก เพราะต้องถ่ายรูป ทำงานกับคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ในมือถือ (นิสัยไม่ดีมากอะ)
เลยเป็นสาเหตุให้เมื่อยตาบ่อยๆ แต่พอพักก็หาย
รูปเราตอนที่สายตาปกติ ในชีวิตประจำวันคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตาซ้ายลอยๆ แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าเป็นตาเขเท่าไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนกระทั่งมีช่วงนึงที่ใส่แว่นแล้วมองไกลเริ่มเบลอ เวลาใส่แว่นมักจะปวดและเมื่อยตาเร็วมากๆจนต้องถอดแว่น
และหากตอนกลางคืนเวลาอ่านหนังสือหรือเล่นมือถือ จะเห็นภาพซ้อนทั้งๆที่อยู่ในระยะใกล้
เราคิดว่าเราสายตาสั้นขึ้น จึงจะไปตัดแว่นใหม่ แล้วเราก็ตัดสินใจไปตรวจสายตา
คุณหมอตรวจละเอียดดีมาก วัดความดันลูกตา เช็คค่าสายตา แล้วเช็คลูกตา
จนมาถึงการเช็คกล้ามเนื้อตา คุณหมอก็บอกว่ากล้ามเนื้อตาซ้ายเรายกขึ้น เป็นที่กล้ามเนื้อตา
ถึงตอนนี้เราก็ไม่คิดคิดว่าตัวเองตาเข นะ ถึงตอนเช็คจะรู้สึกตาแปลกๆ ยังไงไม่รู้
แล้วคุณหมอก็บอกว่าเดียวจะเขียนใบส่งตัวให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล
เราไปตรวจตาที่ รามา ตามคำแนะนำ ได้พบหมอกล้ามเนื้อตาเฉพาะ ตรวจไปตรวจมา ตรวจอย่างละเอียด
หมอก็บอกว่าเราเป็นโรคตาเข กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ต้องรักษาโดนการผ่าตัด ถึงตรงนี้เราก็อึ้งไปแปป ต้องผ่าตัดเลยหรอ
รู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก อยากจะร้องไห้
หมอบอกว่าจะไม่ผ่าตัดก็ได้ ถ้าไม่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน และอาการอาจจะเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ
แต่เรารู้สึกปวดตาและขมับด้านซ้ายบ่อยมากๆ ตะกี้เราทำตาเหล่ ถ่ายรูปเก็บไว้
จู่ๆที่รู้สึกเจ็บแปร่บๆที่ ขมับซ้าย เหอะๆ
อันนี้รูปตาเข ของเราคะ ต้องทำสองท่านี้ถึงจะเห็น
จั๊ะเอ๋
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปนี้จริงๆ ด้านซ้ายจะลอยขึ้นมามาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมอคงเห็นเราแบบ อึ้งๆ อยู่ เลยให้เวลาไปตัดสินใจเดือนนึง
แล้วค่อยมาเช็คและค่อยมาบอกหมออีกทีว่าจะรักษาไหม
ฮาฮา แอบเครียดนะเนี่ย ไม่เคยเลย กลัวนิดหน่อย (จริงๆกลัวมาก)
สำหรับเรื่องนี้ก็อยากจะเตือนทุกคนว่า ถ้ารู้สึกผิดปกติอะไรกับดวงตาของเรา ก็อย่านิ่งนอนใจ
ควรไปหาจักษุแพทย์ นะคะ
จู่ๆ ก็พบว่าตัวเองเป็นโรคตาเข
ไม่มีเอียง และไม่เคยคิดด้วยว่าตัวเองจะเป็นตาเข เพราะไม่เคยมีเพื่อนทักหรือมองปกติก็จะไม่เห็นเลย
เราเป็นคนใช้สายตาค่อนข้างหนัก เพราะต้องถ่ายรูป ทำงานกับคอมพิวเตอร์ อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ในมือถือ (นิสัยไม่ดีมากอะ)
เลยเป็นสาเหตุให้เมื่อยตาบ่อยๆ แต่พอพักก็หาย
รูปเราตอนที่สายตาปกติ ในชีวิตประจำวันคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตาซ้ายลอยๆ แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าเป็นตาเขเท่าไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จนกระทั่งมีช่วงนึงที่ใส่แว่นแล้วมองไกลเริ่มเบลอ เวลาใส่แว่นมักจะปวดและเมื่อยตาเร็วมากๆจนต้องถอดแว่น
และหากตอนกลางคืนเวลาอ่านหนังสือหรือเล่นมือถือ จะเห็นภาพซ้อนทั้งๆที่อยู่ในระยะใกล้
เราคิดว่าเราสายตาสั้นขึ้น จึงจะไปตัดแว่นใหม่ แล้วเราก็ตัดสินใจไปตรวจสายตา
คุณหมอตรวจละเอียดดีมาก วัดความดันลูกตา เช็คค่าสายตา แล้วเช็คลูกตา
จนมาถึงการเช็คกล้ามเนื้อตา คุณหมอก็บอกว่ากล้ามเนื้อตาซ้ายเรายกขึ้น เป็นที่กล้ามเนื้อตา
ถึงตอนนี้เราก็ไม่คิดคิดว่าตัวเองตาเข นะ ถึงตอนเช็คจะรู้สึกตาแปลกๆ ยังไงไม่รู้
แล้วคุณหมอก็บอกว่าเดียวจะเขียนใบส่งตัวให้ไปตรวจที่โรงพยาบาล
เราไปตรวจตาที่ รามา ตามคำแนะนำ ได้พบหมอกล้ามเนื้อตาเฉพาะ ตรวจไปตรวจมา ตรวจอย่างละเอียด
หมอก็บอกว่าเราเป็นโรคตาเข กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ต้องรักษาโดนการผ่าตัด ถึงตรงนี้เราก็อึ้งไปแปป ต้องผ่าตัดเลยหรอ
รู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก อยากจะร้องไห้
หมอบอกว่าจะไม่ผ่าตัดก็ได้ ถ้าไม่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน และอาการอาจจะเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆ
แต่เรารู้สึกปวดตาและขมับด้านซ้ายบ่อยมากๆ ตะกี้เราทำตาเหล่ ถ่ายรูปเก็บไว้
จู่ๆที่รู้สึกเจ็บแปร่บๆที่ ขมับซ้าย เหอะๆ
อันนี้รูปตาเข ของเราคะ ต้องทำสองท่านี้ถึงจะเห็น
จั๊ะเอ๋
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รูปนี้จริงๆ ด้านซ้ายจะลอยขึ้นมามาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หมอคงเห็นเราแบบ อึ้งๆ อยู่ เลยให้เวลาไปตัดสินใจเดือนนึง
แล้วค่อยมาเช็คและค่อยมาบอกหมออีกทีว่าจะรักษาไหม
ฮาฮา แอบเครียดนะเนี่ย ไม่เคยเลย กลัวนิดหน่อย (จริงๆกลัวมาก)
สำหรับเรื่องนี้ก็อยากจะเตือนทุกคนว่า ถ้ารู้สึกผิดปกติอะไรกับดวงตาของเรา ก็อย่านิ่งนอนใจ
ควรไปหาจักษุแพทย์ นะคะ