มีใครเคยคิดว่าอยากจะอยู่คนเดี่ยวไปเงียบๆตลอดชีวิตไหมครับ ?

ขออนุญาตแท็กหลายๆห้องนะ

คืองี้ วันนี้ได้ไปเจอกับคนๆหนึ่งมา ได้พูด ได้คุย ได้ทำความรู้จักกัน เขาบอกกับเราว่า 'เขาอยากอยู่คนเดี่ยวไปตลอดชีวิต' เราก็เลยถามไปว่าไม่กลัวเหงาเหรอ ? สิ่งที่เขาทำก็แค่ยิ้มแล้วบอกกับเราว่า

"บางที่ชีวิตมันคงไม่อยากให้เรามีใคร...."

เรานิ่งเงียบ ไม่แย้งอะไร เพราะถือว่าเป็นความคิดของคนแต่ละคนแต่พออยู่บนรถไฟฟ้าเราก็คิดนะคนเราจะอยู่ได้ด้วยตัวคนเดี่ยวจริงๆเหรอ ?
อยู่แบบไม่มีใคร อยู่แบบนั้น...เป็นไปได้เหรอครับ ?

ไม่รู้สิ ส่วนตัวเราว่าเขาก็แค่'กลัว'

....กลัวว่าการอยู่กับใครสักคนหนึ่งจะทำให้เขารู้สึกลำบากใจ รู้สึกแย่  หรือไม่ก็แตกชีวิตไปเลย

แล้วเพื่อนๆเคยมีความคิดว่าอยากจะอยู๋คนเดี่ยวไปตลอดชีวิตบ้างไหม ?

มีใครเคยกลัวการมีคู่ไหม ? แล้วจัดการกับความติสท์ของตัวเองยังไง

ผมเป็นคนหนึ่งที่ติสท์แตกมากกก เคยเครียดจนขนาดนั้งรถไปหัวหินแล้วค่อยกลับมากรุงเทพ(แน่นอนว่าพอกลับมาก็โดนด่ากระจายว่าหายหัวไปไหนมา)




******************************************



ว้าวววว ไม่คิดว่าจะมีฟีดแบล็กตอบกลับเยอะขนาดนี้

แปลว่าคนโสดที่อยากตัวคนเดี่ยวนี้ก็มีไม่น้อยจริงๆด้วยนะครับ

เห็นหลายๆคห.ออกแนว ไม่เจอใครแล้วเลยค่อนข้างชิน จริงๆผมว่ามันก็มีส่วนนะครับ

ส่วนตัวเองความฝันสูงสุดคือทำยังไงก็ได้ให้พ่อแม่สบาย แล้วตอนแก่ๆอยากจะไปปลูกบ้านบนเขาบนดอย ต้มเผือกต้มมันจริงประทั้งชีวิตไปวันๆ รอจนกระวันสุดท้ายของลมหายใจ

แต่มนุษย์คือมนุษย์

วันนี้คิดอย่าง ตอนนี้คิดอย่าง พรุ่งนี้อาจจะคิดได้อีกอย่าง

ไม่มีใครรู้อนาคต ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งนี้จะมีถึงไหม ไม่มีใครรู้ว่าวันข้างหน้าเป็นยังไง

สำหรับผม ยิ่งไม่รู้ยิ่งต้องทำ ทำมันในทุกๆวันนี้แหละให้ดีที่สุด ไม่ดีมากไม่เลวมาก เป็นมนุษย์ครึ่งๆกลางๆ ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ

โชคดีนะครับทุกคน ขอบคุณที่เข้ามาตอบกระทู้กัน

เพี้ยนรอที่ท่าน้ำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เราคิดค่ะ
เพราะใช้ชีวิตคนเดียว ตัดสินใจคนเดียวมาตลอด เรื่องคู่เราเลิกหวังแล้วอ่ะ เราให้กำลังใจตัวเองดีกว่าว่าเราอยู่คนเดียวได้ จะได้ไม่ต้องไปหวังพึ่งใครที่อาจไม่มีอยู่จริง
เราเกิดมาคนเดียว เราก้ต้องอยุ่คนเดียวและตายคนเดียวให้ได้ค่ะ
ชีวิตเราอาจไม่ได้เกิดมาเพื่อมีใครก้ได้นะ (ถึงจะอยากรู้บ้างว่าเปนไง แต่ก้ไม่ได้เสียใจที่ไม่มีโอกาสนะ ฮ่าๆ)
อยากมีเงินใช้ เลี้ยงแมวสักตัว ไปเที่ยวบ้างตามโอกาส ก้พอใจสุขสุดๆแล้ววว
ความคิดเห็นที่ 34
ผมขอตอบในทัศนะของผมนะ

ในมุมมองของผม การที่ใครสักคนนึง "อยาก" จะมีใครอีกสักคนเข้ามา มันเป็นเพียงเพราะว่า
เราอยากจะมีเพื่อนสักคนเอาไว้พูดคุยเวลาเหงา
เราอยากจะมีเพื่อนสักคนเอาไว้แสดงความยินดีกับเราเวลาเราทำอะไรสำเร็จ
เราอยากจะมีเพื่อนสักคนเอาไว้ปลอบใจเราเวลาเสียใจ
เราอยากจะมีเพื่อนสักคนเอาไว้ช่วยกันคิดเวลาเรามีปัญหา

และคนๆนั้นก็คือ "สามี" หรือ "ภรรยา" แรกๆก็คิดว่ามีแค่นี้ก็พอแล้ว แต่........
สิ่งที่เราหาๆกันมา ไม่ว่าจะเป็น เงิน ทอง บ้าน รถ หรือไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เราหวงแหนมากที่สุดนั่นก็คือ "ร่างกาย"
ถ้าเราไม่อยู่แล้วหละ จะทำอย่างไร สิ่งที่เราหาๆมาทั้งหมดนี้มันจะไปอยู่ที่ตรงไหน ใครจะเอาไป แล้วร่างกายของเราหละ ใครจะจัดการให้เราในวันที่เราจัดการตัวเองไม่ได้แล้ว
เวลาเราเจ็บป่วยเดินไม่ได้หละ ใครจะมาดูแลเรา ความคิด ความห่วงแบบนี้มันเลยทำให้เรามองหาใครอีกคนนึงมาตอบโจทย์เหล่านนั้น
ซึ่งคนๆนั้นก็คือ "ลูก"

สำหรับความเห็นของผมแล้ว ผมกลับมองว่า Basic Minimum Requirement ของคนๆนึงนะ มันมีแค่ว่า "จะทำอย่างไรให้เรามีชีวิตรอดไปถึงก่อนนอน" แค่นั้นเอง ถ้าหลับแล้ว "ตาย" ก็แล้วไป ไม่มีอะไรต้องห่วง ดราม่ามันจะอยู่ที่ตอนหายใจพะงาบๆ มันจะมานั่งห่วงว่า ไอ่นั้นหละมันจะเป็นยังไง
ไอ่นี่หละมันจะเป็นยังไง
เมื่อคืนก่อนหลับผมก็ยังนอนคิดอยู่เลยว่า ถ้าเราไม่มีใครจริงๆ สิ่งที่มีๆอยู่เราจะทำยังไง ตอบ.........ก็ไม่เห็นมีอะไรต้องห่วงนิ ถ้าตายในบ้าน ก็นอนแห้งมันอยู่ในบ้านนี่แหละ หลังจากนั้นของที่มีๆใครจะเอาอะไรไปก็เอาไป

จากมุมมองของผมล้วนเลยๆ ถ้าไม่คิดจะมีครอบครัว(จริงๆ) เราก็ทำมาหากินแต่พอประมาณ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเก็บอะไร เผื่อใคร
เอาแค่มีไว้รักษาเนื้อรักษาตัว เอาไว้กินไว้ใช้จนวันที่นอนแห้งตายอยู่ที่บ้านก็พอแล้ว.....แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ เราไม่รู้วันไหนที่เราจะต้องลาลับไป ไม่รู้ว่าเราต้องทำอะไรบ้านในอนาคต เราจึงขวนขวายกันแบบสุดกำลัง

ในงานแต่งงานเพื่อนสนิทคนสุดท้ายในกลุ่มผม ผมขอเพื่อนสนิทที่สุดและดูเป็นคนที่รักษาคำพูดมากที่สุดไว้คนนึงว่า
"เห้ย ถ้ากรูไม่มีใครจริงๆ กรูฝากจัดการศพกรูด้วยนะ" แต่ก็ลืมคิดไปว่า ถ้าวันที่ตัวผมแก่ตายไป มันก็คงแก่พอๆกับผมนั่นแหละ ว่าแล้วก็ปล่อยมัน นอนแห้งตายในบ้านคนเดียวก็ได้.......

ย้อนกลับมาที่คำถามเปิดกระทู้ "มีใครเคยคิดว่าอยากจะอยู่คนเดี่ยวไปเงียบๆตลอดชีวิตไหมครับ ?"
คำตอบคือ เคย และเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์นั่นอยู่ตลอดเวลา (ถึงแม้ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นก็ตาม)
ความคิดเห็นที่ 19
สถานการณ์เราตอนนี้มันดูเหมือนว่าเราจะต้องเป็นโสดไปตลอดชีวิตจริงๆด้วยดิ เพราะว่าเรากับแฟนเราเพิ่งเลิกกันตอนเราอายุ 64 เมื่ออายุ 64 เราไม่มีรอยเหี่ยวย่นใดๆเลยบนใบหน้าหรือบนร่างกาย เนื้อหนังที่ท่อนแขนและท่อนขาเราก็ยังกระชับไม่มีแกว่งไปแกว่งมา  เรายังแข็งแรงระดับเล่นโยคะที่ยืดหยุ่นมากๆและเล่นมวยไทยกับมวยจีนที่ใช้พลังกับความอึดมากๆได้ไม่แพ้ หรือเผลอๆจะดีกว่าคนหนุ่มๆสาวๆนะ สมองเราก็ยังใช้งานได้รวดเร็วว่องไวมากๆ ระดับทำงานแปลเอกสารได้รวดเร็วเกินมนุษย์ธรรมดาจนลูกค้าเรางงอ้าปากค้าง และเราก็ไฮเทคมากๆระดับเป็นนักติดตั้ง รื้อถอน ทดสอบ ดูแลรักษา ระบบคอมพิวเตอร์ได้เก่งมากๆ แล้วก็เป็นนักทดสอบ applications อีกด้วย  เรายังไฟแรงมากๆ ยังศึกษาศาสตร์ต่างๆอย่างไม่หยุดยั้ง

ตอนนี้เราคิดเล่นๆว่า
ถ้าเราหาแฟนใหม่อายุสูสีเราเค้าก็คงเดินแทบไม่ไหวแล้ว เราไม่อยากมีภาระเลี้ยงดูคนชรา
ถ้าเราหาแฟนใหม่อายุ 30 เค้าเห็นอายุเราเค้าก็วิ่งหนีแล้ว เว้นเสียแต่ว่าเราจะเอาเงินไปปรนเปรอเค้า ซึ่งเราก็ไม่อยากรับภาระเช่นนั้น
ถ้าเราหาแฟนใหม่อายุ 40-50 ที่มีฐานะการเงินดีสูสีเรา ระดับที่เราไม่ต้องเอาเงินไปปรนเปรอเค้า เค้าก็มีทางเลือกมากพอที่จะเลือกเอาคนที่อายุน้อยกว่าเรามาเป็นแฟน...555+++....
^
สรุปแล้วการมีสุขภาพดีมากๆเมื่ออายุมากๆกลายเป็นมันทำให้ "เราตกยุค"...555+++...

ถ้าเราต้องการมีแฟนใหม่จริงๆเราก็คงต้องเดินทางไปที่ผืนแผ่นดินใหญ่จีน หรือไปที่ประเทศญี่ปุ่น เพราะ 2 ประเทศที่ว่านี้ มีผู้คนเป็นจำนวนมากที่ฝึกวิชาการต่อสู้ตั้งแต่เด็กๆเหมือนเรา และเมื่ออายุขนาดเราหรือมากกว่าเราพวกเค้าก็ยังร่างกายแข็งแรงและสมองใช้งานได้มีประสิทธิภาพทัดเทียมหรือมากกว่าเรา พอที่จะเป็นแฟนกับเราได้...555+++...

แต่เรื่องที่ดีก็คือว่าตอนนี้เราไม่รู้สึกว้าเหว่เลยหละ วันๆเราใช้เวลาไปกับการเรียนรู้อะไรใหม่ๆอยู่อย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็นที่ 1
เราว่าการอยู่คนเดียวมันก็ดีน่ะ
ชีวิตไม่วุ่นวายดี
อยากทำอะไรก็ทำ
อยู่อย่างนี้ก็มีความสุขดี จะเรียกร้องหาอย่างอื่นทำไม
ความคิดเห็นที่ 10
ความคาดหวังมักทำให้เราเป็นทุกข์
เคยได้ยินคำนี้ไหมค่ะ บางทีคนที่ จขกท พูดถึง เค้าอาจจะเคยผิดหวังกับอะไรบ้างอย่างมา มันเลยทำให้เค้าหมดความศรัทธา และไม่อยากคาดหวังกับอะไรข้างหน้าอีกก็ได้นะค่ะ เราเชื่อว่าทุกคนล้วนมีwayของตัวเองค่ะ  แต่จะพูดออกมาหรือเปล่าเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่