[๒๒] ครั้งนั้นแล ท่าน
พระอานนท์ได้เข้าเฝ้า
พระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า
ดูกรอานนท์
ธรรมเหล่าใด ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่งอธิมุตติบท ๑- เหล่านั้น
ดูกรอานนท์
เราเป็นผู้แกล้วกล้าปฏิญาณในธรรมเหล่านั้น เพื่ออันรู้ที่อาศัยของธรรมเหล่านั้นๆ แล้วแสดงธรรม
โดยประการที่บุคคลผู้ปฏิบัติแล้ว จักรู้ซึ่งธรรมที่มีอยู่ว่า มีอยู่บ้าง จักรู้ซึ่งธรรมอันไม่มีอยู่ว่า ไม่มีอยู่บ้าง
จักรู้ซึ่งธรรมเลวว่า เลวบ้าง จักรู้ซึ่งธรรมประณีตว่า ประณีตบ้าง จักรู้ซึ่งธรรมอันมีธรรมอื่นยิ่งกว่าว่า มีธรรมอื่นยิ่งกว่าบ้าง
จักรู้ซึ่งธรรมที่ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าว่า ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าบ้าง ก็หรือว่าจักรู้ จักเห็น หรือจักทำให้แจ้ง
โดยประการที่ธรรมนั้นอันบุคคลพึงรู้ พึงเห็นหรือพึงทำให้แจ้ง ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้
ดูกรอานนท์
ยถาภูตญาณในธรรมเหล่านั้นๆ เป็นยอดเยี่ยมกว่าญาณทั้งหลาย
อนึ่ง เรากล่าวว่า ญาณอื่นอันยิ่งกว่าหรือประณีตกว่าญาณนี้ไม่มี ฯ
****@๑. ขันธ์ อายตนะ ธาตุเป็นต้น หรือทิฐิ
-------------------------------
เนื้อหาบางส่วนจาก
อธิมุตติสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ บรรทัดที่ ๙๒๔ - ๙๙๕. หน้าที่ ๔๑ - ๔๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=24&A=924&Z=995&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=22
ยถาภูตญาณในธรรม เหล่านั้นๆ เป็นยอดเยี่ยมกว่าญาณทั้งหลาย
นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า
ดูกรอานนท์
ธรรมเหล่าใด ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งซึ่งอธิมุตติบท ๑- เหล่านั้น
ดูกรอานนท์
เราเป็นผู้แกล้วกล้าปฏิญาณในธรรมเหล่านั้น เพื่ออันรู้ที่อาศัยของธรรมเหล่านั้นๆ แล้วแสดงธรรม
โดยประการที่บุคคลผู้ปฏิบัติแล้ว จักรู้ซึ่งธรรมที่มีอยู่ว่า มีอยู่บ้าง จักรู้ซึ่งธรรมอันไม่มีอยู่ว่า ไม่มีอยู่บ้าง
จักรู้ซึ่งธรรมเลวว่า เลวบ้าง จักรู้ซึ่งธรรมประณีตว่า ประณีตบ้าง จักรู้ซึ่งธรรมอันมีธรรมอื่นยิ่งกว่าว่า มีธรรมอื่นยิ่งกว่าบ้าง
จักรู้ซึ่งธรรมที่ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าว่า ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าบ้าง ก็หรือว่าจักรู้ จักเห็น หรือจักทำให้แจ้ง
โดยประการที่ธรรมนั้นอันบุคคลพึงรู้ พึงเห็นหรือพึงทำให้แจ้ง ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้
ดูกรอานนท์
ยถาภูตญาณในธรรมเหล่านั้นๆ เป็นยอดเยี่ยมกว่าญาณทั้งหลาย
อนึ่ง เรากล่าวว่า ญาณอื่นอันยิ่งกว่าหรือประณีตกว่าญาณนี้ไม่มี ฯ
****@๑. ขันธ์ อายตนะ ธาตุเป็นต้น หรือทิฐิ
-------------------------------
เนื้อหาบางส่วนจาก อธิมุตติสูตร
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔ บรรทัดที่ ๙๒๔ - ๙๙๕. หน้าที่ ๔๑ - ๔๔.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=24&A=924&Z=995&pagebreak=0
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=24&i=22