การรับบุตรบุตรบุญธรรม นั้น มีข้อห้ามชัดเจนว่า
ไม่อนุญาต ให้ผู้รับอุปการะ --- นำบุตรบุญธรรมไปทำงาน
ยิ่งในกรณีที่เด็กเป็น ผู้เยาว์อายุน้อยกว่า 15 ปี --เมื่อเด็กได้รับการอุปการะแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบ เพื่อป้องกันมิให้ มีการนำเด็กผู้เยาว์นั้นไปใช้แรงงาน
----------------------
อย่างกรณี เด็กที่ถูกอุปการะ โดย "ครอบครัวดารา" นั้น เป็นผู้เยาว์ที่มีอายุน้อยมาก
แต่ได้มีการนำเอาเด็กมาทำงาน -- ออกอีเวนต์ --- ถ่ายโฆษณา TV / ถ่าย Magazine /
1) ทางครอบครัวดาราอ้างว่า เด็กชอบและ สนุกกับการทำงาน มิได้เป็นการบังคับขืนใจให้เด็กทำงานแต่อย่างใด
ตอบ --- เห็นด้วยว่า "ครอบครัวดารา" มิได้บังคับขืนใจเด็ก
และเด็กเอง ก็น่าจะสนุกกับการทำงาน จริง
แต่เด็กอายุน้อยเพียงแค่นี้ สิ่งที่เค้าทำทุกอย่าง คือ ความสนุก อยู่แล้ว
ต่อให้พ่อแม่ มีอาชีพเป็นคนเก็บขยะ ทำงานแสนลำบาก ตากแดด ตรากตรำ
--- เด็กวัยนี้ เค้าก็สนุกที่จะตามพ่อ ตามแม่ ตามพี่ ไปนั่งเล่นสนุกสนานอยู่บนกองขยะอย่างมีความสุข
เพราะเค้าคือ "เด็กเล็ก" ที่โลกรอบตัวทุกอย่างคือ ความสนุก
ดังนั้นครอบครัวดารา จะนำเหตุ "ความสนุกของเด็ก" มาใช้เป็นข้ออ้าง
ในการนำพาเด็ก ไปรับงานออก event - พาไปถ่ายแบบนิตยสาร / พาไปถ่ายโฆษณา TV นั้น จึงฟังไม่ขึ้น
ถึงแม้ตัวเด็กเองอาจมีความสนุกสนานจริงตามอ้าง -- ก็เป็นสิ่งที่ ผิดกฏในการอุปการะบุตรบุญธรรม อยู่ดี
ที่สำคัญ เงินที่ได้จากการออกอีเวนต์ /ถ่ายโฆษณาทีวี/ถ่ายนิตยสาร นั้น อยู่ที่ใคร ????
แม้ครอบคร้วดาราอาจจะอ้างว่า --- เป็นผู้เก็บเงินนั้นไว้ให้ และจะมอบให้เมื่อเด็กโตขึ้น
ขอถามว่า ---- ใครสามารถตรวจสอบได้ว่า (หากจะมีการส่งมอบเงินให้กับเด็กเมื่อเด็กโตขึ้นจริง อย่างที่อ้าง)
เงินทั้งหมดจะถูกส่งถึงมือเด็กอย่างครบทุกบาททุกสตางค์ หรือไม่
หากจะอ้างว่า --- เค้าเป็นครอบครัวดารา เค้าหาเงินได้เองมากมายอยู่แล้ว เค้าไม่เอาเงินเด็กหรอก
ขอถามว่า ----ใครสามารถรับประกัน "ข้อความนี้ได้ว่า มันจะเป็นไปตามนั้นจริง" ???
เพราะขนาดครอบครัวดาราเอง จะซื้อรถ ยังมีข่าวการ "หลบเลี่ยง" กฏหมาย
เพื่อทำให้ตัวเอง ได้ซื้อรถหรูได้ในราคาถูกกว่าราคาตามจริงเลย
ฉนั้น -- ใครรับประกันได้ว่า เงินที่ได้มาจากการทำงานของเด็ก จะถูกส่งครบให้เด็กแบบเต็มจำนวน
ไม่ถูกยักย้ายถ่ายเท หรือ นำไปสร้างผลประโยชน์ให้ตัวเอง และ ครอบครัว เสียก่อนที่จะส่งผ่านไปให้เด็ก ในอีก 10 กว่าปีข้างหน้า ????
หรือ ในอีก 10 กว่าปีข้างหน้า ที่กระแสเรื่องนี้ตกไปแล้ว ---
ใครสามารถรับประกันได้ว่า --- จะมีการส่งต่อเงินของเด็ก ให้ถึงมือเด็กจริงๆ ????
(นี่เป็นเพียงประเด็นข้อสงสัย มิได้กล่าวหาว่า จะมีการกระทำเช่นนั้นจริง)
---------------------------------------
2) หากครอบครัวดารา อ้างว่า การรับอุปการะเด็กคนนี้ มีจุดประสงค์เพื่อทำให้เด็กมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ตอบ ---- เห็นด้วยว่า ครอบครัวดารา ทำให้เด็กคนนี้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจริงๆ
แต่ มันก็ไม่ใช่เป็น "ข้ออ้าง" ในการนำเอาเด็กไปทำงาน
เพราะ ตามกฏแล้ว --- ผู้รับอุปการะ "มีหน้าที่" provide และทำให้ชีวิตเด็กในอุปการะ ให้ดีขึ้นอยู่แล้ว
แต่ ผู้อุปการะ ไม่สามารถนำเด็กในอุปการะ ไป "ทำงาน"-- เพื่อหา "รายได้" ได้
ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานที่ดี เป็นงานที่น่าสนุกงาน อย่างเช่น การออก event ก็ตาม
ประเด็นสำคัญคือ --- บุตรบุญธรรม จะต้องได้รับ การคุ้มครอง ตามสิทธิเด็กตามกฏบัตรสากล
ขอเพิ่มเติมข้อมูลว่า
การที่มีการตั้งกฏว่า --- ผู้อุปการะ ไม่สามารถนำ บุตรบุญธรรมไป "ทำงาน" เพื่อหา "รายได้" ได้นั้น
กฏนี้ ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อปกป้องตัวเด็ก โดยตรง---
จาก "ผู้เสนอตัวเป็นผู้อุปการะบุตรบุญธรรม ที่มีนิสัยหิวเงิน" - ที่อาจใช้คำว่า "รักเด็ก อยากให้ชีวิตดีๆ กับเด็ก" ---
มาใช้เป็น ข้ออ้างในการขอรับเด็กไปอุปการะ --
เมื่อได้รับ การอนุมัติแล้วกลับนำเด็กในอุปการะไปทำงาน หาเงิน เพื่อผลประโยชน์ของผู้อุปการะเอง
------------------------------------------
ดังนั้น ----- ดิชั้น จึงขอถาม "กรมประชาสงเคราะห์" -- ว่า
1) ทำไม ครอบครัวดารา จึงมีอภิสิทธิ์ สามารถนำบุตรบุญธรรม ไปทำงาน หาเงินได้
ซึ่งแตกต่างจาก กรณี ผู้รับอุปการะรายอื่นๆทั่วไป
2) หรือ "กรมประชาสงเคราะห์" --จะบอกว่า --
เพราะผู้อุปการะ เป็น ครอบครัวดารา และ เป็นผู้มีความน่าเชื่อถือ
เป็นครอบครัวดาราที่มีเงินมีทองมากมายอยู่แล้ว จึงอยู่เหนือ "กฏ" นี้
และสามารถมีสิทธิ์ นำบุตรบุญธรรมไปทำงานได้
---- ในขณะที่ประชาชนทั่วๆไป ที่ไม่ได้เป็น "ดารา" จะต้องปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด ????
จขกท ไม่ถามคำถามนี้ไปยัง "ครอบครัวดารา" --
เพราะพฤติกรรมหลายอย่าง ของคนในครอบครัวนี้ ---
ทำให้ จขกท เชื่อว่า จขกท คงไม่ได้รับคำตอบอะไรที่เป็น สาระ และ "ตรงประเด็น" --
จึงขอถามไปที่ "กรมประชาสงเคราะห์" -- และอยากได้รับคำตอบตามจริง
เพราะหาก กรมประชาสงเคราะห์ ยืนยันว่า ครอบครัวดารา ครอบครัวนี้ มีสิทธิ์ทำได้
ก็จะได้เอากรณีนี้ เป็น บรรทัดฐาน ให้กับผู้ขอรับบุตรบุตรธรรมรายอื่นๆ ได้เช่นกันว่า
เมื่อมีการอนุญาต ให้ได้อุปการะบุตรบุญธรรมแล้ว -- คุณสามารถนำเด็กไปทำงานได้
ภายใต้ข้ออ้างว่า----
--- เด็กสนุกกับการทำงาน - และ เด็กอยากทำงานเอง
.
---- ถามกรมประชาสงเคราะห์กรณีรับเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรม ( case ดารา )
ไม่อนุญาต ให้ผู้รับอุปการะ --- นำบุตรบุญธรรมไปทำงาน
ยิ่งในกรณีที่เด็กเป็น ผู้เยาว์อายุน้อยกว่า 15 ปี --เมื่อเด็กได้รับการอุปการะแล้ว
ทางเจ้าหน้าที่ต้องมีการตรวจสอบ เพื่อป้องกันมิให้ มีการนำเด็กผู้เยาว์นั้นไปใช้แรงงาน
----------------------
อย่างกรณี เด็กที่ถูกอุปการะ โดย "ครอบครัวดารา" นั้น เป็นผู้เยาว์ที่มีอายุน้อยมาก
แต่ได้มีการนำเอาเด็กมาทำงาน -- ออกอีเวนต์ --- ถ่ายโฆษณา TV / ถ่าย Magazine /
1) ทางครอบครัวดาราอ้างว่า เด็กชอบและ สนุกกับการทำงาน มิได้เป็นการบังคับขืนใจให้เด็กทำงานแต่อย่างใด
ตอบ --- เห็นด้วยว่า "ครอบครัวดารา" มิได้บังคับขืนใจเด็ก
และเด็กเอง ก็น่าจะสนุกกับการทำงาน จริง
แต่เด็กอายุน้อยเพียงแค่นี้ สิ่งที่เค้าทำทุกอย่าง คือ ความสนุก อยู่แล้ว
ต่อให้พ่อแม่ มีอาชีพเป็นคนเก็บขยะ ทำงานแสนลำบาก ตากแดด ตรากตรำ
--- เด็กวัยนี้ เค้าก็สนุกที่จะตามพ่อ ตามแม่ ตามพี่ ไปนั่งเล่นสนุกสนานอยู่บนกองขยะอย่างมีความสุข
เพราะเค้าคือ "เด็กเล็ก" ที่โลกรอบตัวทุกอย่างคือ ความสนุก
ดังนั้นครอบครัวดารา จะนำเหตุ "ความสนุกของเด็ก" มาใช้เป็นข้ออ้าง
ในการนำพาเด็ก ไปรับงานออก event - พาไปถ่ายแบบนิตยสาร / พาไปถ่ายโฆษณา TV นั้น จึงฟังไม่ขึ้น
ถึงแม้ตัวเด็กเองอาจมีความสนุกสนานจริงตามอ้าง -- ก็เป็นสิ่งที่ ผิดกฏในการอุปการะบุตรบุญธรรม อยู่ดี
ที่สำคัญ เงินที่ได้จากการออกอีเวนต์ /ถ่ายโฆษณาทีวี/ถ่ายนิตยสาร นั้น อยู่ที่ใคร ????
แม้ครอบคร้วดาราอาจจะอ้างว่า --- เป็นผู้เก็บเงินนั้นไว้ให้ และจะมอบให้เมื่อเด็กโตขึ้น
ขอถามว่า ---- ใครสามารถตรวจสอบได้ว่า (หากจะมีการส่งมอบเงินให้กับเด็กเมื่อเด็กโตขึ้นจริง อย่างที่อ้าง)
เงินทั้งหมดจะถูกส่งถึงมือเด็กอย่างครบทุกบาททุกสตางค์ หรือไม่
หากจะอ้างว่า --- เค้าเป็นครอบครัวดารา เค้าหาเงินได้เองมากมายอยู่แล้ว เค้าไม่เอาเงินเด็กหรอก
ขอถามว่า ----ใครสามารถรับประกัน "ข้อความนี้ได้ว่า มันจะเป็นไปตามนั้นจริง" ???
เพราะขนาดครอบครัวดาราเอง จะซื้อรถ ยังมีข่าวการ "หลบเลี่ยง" กฏหมาย
เพื่อทำให้ตัวเอง ได้ซื้อรถหรูได้ในราคาถูกกว่าราคาตามจริงเลย
ฉนั้น -- ใครรับประกันได้ว่า เงินที่ได้มาจากการทำงานของเด็ก จะถูกส่งครบให้เด็กแบบเต็มจำนวน
ไม่ถูกยักย้ายถ่ายเท หรือ นำไปสร้างผลประโยชน์ให้ตัวเอง และ ครอบครัว เสียก่อนที่จะส่งผ่านไปให้เด็ก ในอีก 10 กว่าปีข้างหน้า ????
หรือ ในอีก 10 กว่าปีข้างหน้า ที่กระแสเรื่องนี้ตกไปแล้ว ---
ใครสามารถรับประกันได้ว่า --- จะมีการส่งต่อเงินของเด็ก ให้ถึงมือเด็กจริงๆ ????
(นี่เป็นเพียงประเด็นข้อสงสัย มิได้กล่าวหาว่า จะมีการกระทำเช่นนั้นจริง)
---------------------------------------
2) หากครอบครัวดารา อ้างว่า การรับอุปการะเด็กคนนี้ มีจุดประสงค์เพื่อทำให้เด็กมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ตอบ ---- เห็นด้วยว่า ครอบครัวดารา ทำให้เด็กคนนี้ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจริงๆ
แต่ มันก็ไม่ใช่เป็น "ข้ออ้าง" ในการนำเอาเด็กไปทำงาน
เพราะ ตามกฏแล้ว --- ผู้รับอุปการะ "มีหน้าที่" provide และทำให้ชีวิตเด็กในอุปการะ ให้ดีขึ้นอยู่แล้ว
แต่ ผู้อุปการะ ไม่สามารถนำเด็กในอุปการะ ไป "ทำงาน"-- เพื่อหา "รายได้" ได้
ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานที่ดี เป็นงานที่น่าสนุกงาน อย่างเช่น การออก event ก็ตาม
ประเด็นสำคัญคือ --- บุตรบุญธรรม จะต้องได้รับ การคุ้มครอง ตามสิทธิเด็กตามกฏบัตรสากล
ขอเพิ่มเติมข้อมูลว่า
การที่มีการตั้งกฏว่า --- ผู้อุปการะ ไม่สามารถนำ บุตรบุญธรรมไป "ทำงาน" เพื่อหา "รายได้" ได้นั้น
กฏนี้ ถูกตั้งขึ้นมา เพื่อปกป้องตัวเด็ก โดยตรง---
จาก "ผู้เสนอตัวเป็นผู้อุปการะบุตรบุญธรรม ที่มีนิสัยหิวเงิน" - ที่อาจใช้คำว่า "รักเด็ก อยากให้ชีวิตดีๆ กับเด็ก" ---
มาใช้เป็น ข้ออ้างในการขอรับเด็กไปอุปการะ --
เมื่อได้รับ การอนุมัติแล้วกลับนำเด็กในอุปการะไปทำงาน หาเงิน เพื่อผลประโยชน์ของผู้อุปการะเอง
------------------------------------------
ดังนั้น ----- ดิชั้น จึงขอถาม "กรมประชาสงเคราะห์" -- ว่า
1) ทำไม ครอบครัวดารา จึงมีอภิสิทธิ์ สามารถนำบุตรบุญธรรม ไปทำงาน หาเงินได้
ซึ่งแตกต่างจาก กรณี ผู้รับอุปการะรายอื่นๆทั่วไป
2) หรือ "กรมประชาสงเคราะห์" --จะบอกว่า --
เพราะผู้อุปการะ เป็น ครอบครัวดารา และ เป็นผู้มีความน่าเชื่อถือ
เป็นครอบครัวดาราที่มีเงินมีทองมากมายอยู่แล้ว จึงอยู่เหนือ "กฏ" นี้
และสามารถมีสิทธิ์ นำบุตรบุญธรรมไปทำงานได้
---- ในขณะที่ประชาชนทั่วๆไป ที่ไม่ได้เป็น "ดารา" จะต้องปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด ????
จขกท ไม่ถามคำถามนี้ไปยัง "ครอบครัวดารา" --
เพราะพฤติกรรมหลายอย่าง ของคนในครอบครัวนี้ ---
ทำให้ จขกท เชื่อว่า จขกท คงไม่ได้รับคำตอบอะไรที่เป็น สาระ และ "ตรงประเด็น" --
จึงขอถามไปที่ "กรมประชาสงเคราะห์" -- และอยากได้รับคำตอบตามจริง
เพราะหาก กรมประชาสงเคราะห์ ยืนยันว่า ครอบครัวดารา ครอบครัวนี้ มีสิทธิ์ทำได้
ก็จะได้เอากรณีนี้ เป็น บรรทัดฐาน ให้กับผู้ขอรับบุตรบุตรธรรมรายอื่นๆ ได้เช่นกันว่า
เมื่อมีการอนุญาต ให้ได้อุปการะบุตรบุญธรรมแล้ว -- คุณสามารถนำเด็กไปทำงานได้
ภายใต้ข้ออ้างว่า----
--- เด็กสนุกกับการทำงาน - และ เด็กอยากทำงานเอง
.