เนื่องจากดิฉันต้องการจะซื้อบ้านกับโครงการแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา และได้กู้ในนามพี่สาว เนื่องจากพี่สาวเป็นพยาบาล ประกอบด้วยรายได้ทุกอย่างของเขา สามารถกู้ได้แบบสบายๆ ทางธนาคารก็โทรมาบอกว่าพี่สาวสามารถกู้ได้ยอดสูงสุดประมาณ 3.5 ล้าน ราคาบ้าน 1.9xxล้าน ซึ่งทาง ธนาคารเองก็โทรมาคุยกับพี่สาวเรื่องยอดกู้สามารถกู้ได้เต็มจำนวนราคาบ้านประมาณ 1.8xxล้าน เพราะทางผู้กู้ได้มีจ่ายผ่อนงวดกับโครงการตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพี่สาวพยายามถามกลับว่าดอกเบี้ยเท่าไร  อะไร อย่างไรบ้างแต่ก็ไม่ตอบคำถามเหล่านั้น พี่สาวจึงตัดบทให้โทรกลับมาใหม่ โดยที่บอกกับธนาคารให้โทรกลับมาใหม่ เพราะคนไข้เยอะไม่สะดวกคุยนาน (แล้วแบงค์ก็ยังไม่โทรกลับ) วันถัดมาทางบริษัทประกันของธนาคารกรุงไทยโทรมาหาพี่สาวอีก บอกว่าได้ยอดกู้ 1.8xx ล้าน จ่าย/เดือน ประมาณ 15,xxx บาท ระยะเวลา 22 ปี และต้องจ่ายค่าประกันเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท ตลอดสัญญา 22 ปี หรือ จ่าย 60,000/สัญญา 10 ปี และพูดแนวเชิงบีบบังคับ ให้ได้คำตอบว่าตกลงหรือไม่ตกลง แต่ตอนนั้นพี่สาวก็ได้แค่ถามว่าทำไมแพงจัง เพราะตอนนี้เขามีกู้ของ ธอส ยอดกู้ 1.2 ล้านบาท ตลอดสัญญา 30 ปี จ่ายแค่ 27,000บาท และต้องจ่ายค่าประกันอัคคีภัยทุกๆ 3 ปี จำนวนเงินประมาณ 4,000 บาท และตอนนี้เรามีคุยกับทางโครงการว่าเราต้องการกู้แค่ 1.7 ล้าน ส่วนค่าส่วนเกินต่างๆเราจะจ่ายเงินสดเอง และขอเปลี่ยนไปกู้กับ ธอส. ไม่อยากกู้กับกรุงไทยเพราะปัญหาเรื่องประกัน 100,000 เราไม่ต้องการจ่าย เพราะมันแพงเกิ๊น ซึงเหมือนกับทางโครงการบอกว่าแด่วคุยกับกรุงไทยให้แต่เราเสียความรู้สึกกับธนาคารนี้ไปแล้วอ่ะ เราอ่านบางกระทู้เขากู้ 5 ล้าน สัญญา 15 ปี เขาจ่ายค่าประกันแค่ 50,000 บาทเอง แต่นี่กู้แค่ 1.8xx ต้องจ่ายค่าประกัน 100,000 บ้าไปแล้ว พี่สาวก็เลยตัดบทอีกครั้งบอกให้โทรกลับมาใหม่ตอนช่วงบ่ายๆ เพราะไม่สะดวกคุย เนื่องจากคนไข้เยอะ เยอะจริงๆ ( แล้วเขาก็ไม่โทรมา) อยากจะรู้ว่ากรณีอย่างนี้เราทำยังไงได้บ้างคะ?