ช่วยแปลโคลงนิราศนครสวรรค์หน่อยค่ะT^T

ขอความช่วยเหลือหน่อยค่า ใครที่เก่งภาษาไทย หรือเคยเรียนแล้วรู้เรื่องนี้ช่วยแปลโคลงนิราศนครสวรรค์ให้หน่อยค่ะ
คือพายามหาแล้วแต่หาไม่ได้เลย หรือใครมีเว็บแปลช่วยบอกหน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ^^

๏ ศรีสิทธิวิจิตรสกนธ์ พิมลพิมตประณตประนม บังคมอัญชลี ตรีนรเทพผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิชาญไชยเดช อันวิเศษวิศาล ถ้วนสบสถานตรศักดิ จงบริรักษ์ช่วยชี้ ทศทิศทางใดผิวงายไซร้ จะได้เห็น ขอเป็นที่กางที่กั้น กลฉัตรตั้งร่มเกษี ศัลยแสนทวีหมื่น ไหม้จากอยุทธยาให้ ที่พึ่งพูนเกษม ฯ
๏ ขอเป็นปราโมชถ้วน        หญิงชาย
เหลือแหล่เดินโดยสาย        น่านน้ำ
จรตามพระนารายณ์        จอมโลก
ทุกเทพจงชูค้ำ        ช่วยให้สถาพร ฯ
๏ รอนรอนสุริเยศได้        ยามศรี
ยุรยาตรนาวาลี        ลาศเต้า
คลายสถานพิมานตรี        มุขมาศ พระนา
ถึงท่าคัลคัลเจ้า        แผ่นหล้าเสวยรมย์ ฯ
๏ไพชยนต์ปราสาทแก้ว        กรองสนท์
มุขเอี่ยมบัญชรถกล        กลีบก้าน
ทิศทายพิธีบน        บังเมฆ
แสงจำรูญเรืองต้าน        ต่อด้วยแสงสูรย์ ฯ
๏ ตรีมุขตรงนาคช้วย        แททวย
บัญชรบราลีชวย        ช่อฟ้า
โรงธารคำนันนวย        เนืองเนก
พิศพระลานล้ำหน้า        แว่นแก้วแสงใส ฯ
๏ ชั้นสิงหโสภาคยชั้น        ฉานคลี
สิงหชำนันนนทรี        เถ่อหน้า
พิศเพียรพ่างโกษี        สุรโลก
สมสมภารล้นหน้า        เลิศล้ำสากล ฯ
๏ มนเทียรทเถือกแก้ว        แถวทงัน
งามเงื่อนแมนมาสรรค์        แต่งตั้ง
วิหารสมเด็จอัน        โอภาส
ทุกทั่วชนยลยั้ง        อยู่เพี้ยงพิศวง ฯ
๏ สรรเพชญปราสาทต้าน        หาวหน
ชวยโชติพรายอำพล        เพริศแพร้ว
มกุฎพิมานพณ        ฑริเทพ เทียมฤๅ
เรียงเรียบโรงคชแก้ว        ถี่ถ้วนงามสม ฯ
๏ สมภารสมโพธิเกล้า        ศศิสินธุ์
เสด็จดำรงธรณินทร์        เฟื่องฟ้า
คชสารย่อมหัสดินทร์        ดูยิ่ง
เป็นธำรงค์ฤทธิอฆ้า        เข่นพ้องไพรี ฯ
๏ สินธพคือพาหม้า        มารุต
รถเมลืองเรืองธุช        เปล่าเปลื้อง
แสนสรรพสาตราวุธ        ไวแวก
เขม็งหมู่โยธาเรื้อง        รวดเร้าสงคราม ฯ
๏ พิศวังเวียงราชล้ำ        แมนสรรค์
สุขสมบูรณ์ไอศวรรย์        เพียบพ้น
สมภารพิศาลธรร        มิกราช
จรรโจษพลเพี้ยงข้น        โยกย้ายเมรุเอน ฯ
๏ อรรณพอเนกล้วน        นาวา
งามลวดลายเลขา        กิ่งก้อม
โสภาพิมานนา        วันราช
ยัลยาบโพลงพรายพร้อม        เพริดแพร้วพัฬเหา ฯ
๏ พรายพรายครุธพ่าห์เพี้ยง        ครุธพิศณุ์
เลื่อมเลื่อมกลนฤมิต        เลิศแล้ว
คือพระนารายณ์ฤทธิ์        เรืองเดช
เสด็จดำเนินมาแผ้ว        เผ่าผู้อาธรรม ฯ
๏ เหมหงส์โสภาคยพ้น        คณนา
เพียงพ่าหนพรหมมินทรา        ท่านไท้
เสด็จดลแผ่นภูอา        ดูลโลก
เห็นหากขวัญตาให้        โลกเหลื้องสรรเสริญ ฯ
๏ ไกรสรมุขมาศขึ้น        เขจร
ผายผาดกลไกรสร        ผาดผ้าย
ฝ่ายขวารวดเร็วอร        โอภาส
ศรีสมรรถไชยคล้าย        คลาดเต้นตามชล ฯ
๏ ไกรจักรรัตนราชเรื้อง        รังสรรค์
เปลวเปล่งดูพรายพรรณ        กิ่งแก้ว
สามรรถพิเชยขัน        ลำแข่ง
ศรีพิมานไชยแล้ว        เลิศด้วยทองเฉลา ฯ
๏ ไกรสรจักรแล่นล้ำ        ฤๅหวิว
สรรพรหมไชยไหวปลิว        ปลาบเปลื้อง
ไกรสรมาศลมลิว        เร็วรวด ปานนา
เสี้ยนศัตรูลือเหลื้อง        สั่นเกล้าแสยงขน ฯ
๏ พิไชยประเสริฐล้วน        ไชยศรี
มุขมาศลายวรรณวี        ลาศไส้
เกิดเกษมสำราญดี        ใจโลก
เรือแลลำตีไว้        เปรียบข้าเมืองควร ฯ
๏ นานาอเนกล้วน        นาวา
งามเลิศแลเห็นหา        ยากแท้
นารายณ์เสด็จแสดงมา        ครองโลก
ท้าวทั้งไกรภพแพ้        แพ่วฟ้าดินขจร ฯ
๏ เสร็จแถลงยศเจ้าแผ่น        ธรณินทร์
แล้วค่อยคลาโดยสินธุ์        คล่ายคล้าย
โดยเสด็จพระภูมินทร์        ยุรยาตร
ยังนครสวรรค์ผ้าย        ผาดเต้าตามชล ฯ
๏ แถวสถลชลมารคคล้อย        ธารไหล
คิดคำนึงนึกใน        สวาทช้ำ
เล็งแลมุ่งเมิลไกล        ลิวโลด
เรือรี่โดยแนวน้ำ        พรึบพร้อมไคลคลา ฯ
๏ ลุถึงพะเนียดช้าง        สาวสรรค์
เอาแต่ตัวตรูมัน        โอบอ้อม
นำมาสู่ซองกรร        กงเขื่อน ขันนา
เสด็จออกเอาพลล้อม        ลากเข้าโรงรมย์ ฯ
๏ ดลบ้านไทยใหญ่น้ำ        นองชล เชี่ยวแฮ
ยลย่อมพานิชสน        เสียดซ้อง
คิดครวญร่ำจวนจน        ใจเดือด แดนา
กี่เมื่อเลยจะหล้อง        ลาดเข้าคืนเวียง ฯ
๏ วัดพระงามเงื่อนเพี้ยง        แมนสรรค์
งามรูปปฏิมาพรรณ        รุ่งเร้า
ถวายวันทนอัน        ปราโมช แล้วแฮ
ขอจงพลันคืนเข้า        สู่บ้านเมืองหลวง ฯ
๏ ไคลคลานาเวศใกล้        ทรายมี มากนา
เกาะราชเทพีศรี        ชื่อไซร้
ถนัดกลเทพี        เพ็ญภาคย์ งามแฮ
มาเพื่อโลมลวงให้        หน่วงหน้านานถึง ฯ
๏ สัดจรเลอทุ่งถ้อง        ทางไป เปล่าแฮ
เห็นแต่แฝกแขมใบ        ค่าค้อม
ราตรีสว่างแสงใส        โสภาคย เดือนนา
ลมระรวยชวยอ้อม        โอบเนื้อเสียวสมร ฯ
๏ ลุบางลางน้ำเชี่ยว        ใจหมาง
เจ็บจรเทินมรกลาง        สวาทช้ำ
บางลางบเห็นลาง        ใดหนึ่ง เลยนา
สิจะคืนพลันช้ำ        ใคร่รู้โดยถวิล ฯ
๏ เยียมาดลด่านด้าว        แดนไพร
วังซื่อแสงกแสงใจ        ขุ่นขั้ง
นึกวังราชมีใน        นัคเรศ พูนแฮ
ราเมศมานฤมิตตั้ง        แต่งไว้เป็นเฉลิม ฯ
๏ ถึงตำบลบ้านป่า        ในนาม
บ้านนอกดูมูมมาม        หม่นเศร้า
เรือนรกห่อนฤๅงาม        สักหยาด
เป็นคอกโคควายเข้า        เปลือกปล้อมลอมฟาง ฯ
๏ ปากน้ำพระสพซึ้ง        สัญญา
ถึงจะรีบจวนเวลา        ค่ำคลุ้ม
พระสพแต่บูรพา        มาอยู่ ไซร้นา
ขอเดชพระมาคุ้ม        โทษแท้จงเกษม ฯ
๏ สุริโยโทเยศแล้ว        แสงใส สว่างนา
ยุรยาตราคลาไคล        ไต่เต้า
ลัดทางช่องชลไหล        ทิวทุ่ง ไปแฮ
ลมลลิ่วฉิวเช้า        ฉ่ำเนื้อนวลสมร ฯ
๏ บัวขมบัวเผื่อนพร้อม        สลับสลอน
นิลุบลบานขจร        กลิ่นเกลี้ยง
แพงพวยระทวยอ่อน        โอนยอด ยังแฮ
เล็งลมานล้วนเลี้ยง        ลูกเรื้อรวงงาม ฯ
๏ ลีลาศคลาดเคลื่อนคล้อย        ถึงตรนิม
วัดรุ่งเรืองพุทธพิมพ์        มาศไซร้
ยอกรประนมจิม        จอมเกษ แลนา
ตรนิมตรนักบ้านได้        สู่ด้าวแดนสวรรค์ ฯ
๏ ถึงละหารสังไม้มาก        พึงชม
กรายใกล้อารามสมณ์        แต่งตั้ง
โพพรายพรรณรายรมย์        รมเยศ เย็นแฮ
เป็นที่อาศัยยั้ง        อยู่ให้หายศัลย์ ฯ
๏ ลุถึงทิวไม้หมู่        แสกหนา
เรียกบ้านขวางแนวนา        ไร่ร้าง
ถนัดดุจดั่งดลมา        ขวางที่ ทางนา
ไปป่วยวันคืนค้าง        อยู่ด้วยฤๅไฉน ฯ
๏ ยกไปไคลคลาดบ้าน        รีโดย ดายแฮ
เห็นป่ากรังเรียมโหย        สวาทไหม้
ถนัดดลดั่งกรโกรย        กรายเรียก ไซร้นา
ฉงนอยู่เยียจักให้        หยุดยั้งเสวยรมย์ ฯ
๏ นกทุงค่อยล่องท้อง        ชลไหล
ยางเจ่าคอยมัจฉใน        เถื่อนถุ้ง
กาน้ำเหยี่ยวเวียรไว        หาเหยื่อ ไซร้นา
จิบจาบจอแจหยุ้ง        ร่อนร้องโผผาย ฯ
๏ ลุถึงปากน้ำชื่อ        คำทอง
น้ำป่วนปึงเป็นฟอง        คว่างคว้าง
แลลาญรำจวนสยอง        พึงพิศ
รีบเร่งพลพายขว้าง        น่านน้ำนองสินธุ์ ฯ
๏ ดลแด่นบางว่าไม้        มีพรรณ มากแฮ
ดูระทวยนวยวัล        โอบไม้
กลกรเจียรแจ่มจันทร์        รัดรวบ เอวนา
บางว่าวานว่าให้        อย่าช้าถึงเมือง ฯ
๏ คล้ายคล้ายลีลาศน้ำ        ไหลหลาม หลั่งนา
ถึงบ้านหอมเรือนงาม        เงื่อนแต้ม
เรือนเขารวดเรียงตาม        ริมหลิ่ง ไปแฮ
หอมดุจหอมกลิ่นแก้ม        นิ่มเนื้อนวลศรี ฯ
๏ เห็นวัดงิ้วพ่างเพี้ยง        พรหมมาน แต่งนา
ม่วงมากมีในสถาน        ที่นั้น
งิ้วงามงอกใบบาน        โอภาส พรายแฮ
ดุจฉัตรไชยกางกั้น        อาสนเจ้าไอศูรย์ ฯ
๏ พิศโพไพโรจนต้น        สูงศักดิ์
เป็นที่เทพารักษ์        อยู่ยั้ง
ใจจงจำนงภักดิ์        บัวบาท พระนา
ขอเดชพระมากั้ง        ก่อให้เสวยรมย์ ฯ
๏ นาวาลุล่วงด้าว        วังแมว
วัดเปลี่ยวดูเป็นแถว        ถ่องไม้
ปรีดาภิรมย์แนว        พฤกษโพธิ์
เหมือนดั่งวังเวียงไท้        ธิราชเรื้องสมภาร ฯ
๏ บัดถึงจรเข้ร้อง        เรือนเขา มากนา
อ้อยงอกงามลำเปลา        ส่งปล้อง
สวนศรีตระการเอา        ใจชื่น ชมแฮ
จรเข้ร้องคือร้อง        ฮ่ามให้คืนหลัง ฯ
๏ บัดดลตำบลด้าว        แดนไชว
ลิงโลดมาทางไกล        เดี่ยวน้ำ
ป่าดงใช่สถานใน        เมืองมิ่ง พูนนา
เห็นถิ่นเขาคิดคล้ำ        ถิ่นถี้อาศัย ฯ
๏ ถึงสเกษพ่างเพี้ยง        เยาวมาลย์
ลงแช่ชลในสถาน        ที่นี้
สรงสยายทรส่ายสนาน        วรเกษ งามนา
คอยเกลือกเกษาผี้        หล่นแล้วลอยถึง ฯ
๏ ลุบางพลุกไม้ไล่        สยมสยาย อยู่แฮ
สวนราษฎรงามดวงพราย        ช่อช้อย
บางพลุกพล่านพลุกหาย        ใจใหญ่ แลนา
เล็งลลุงเศร้าสร้อย        คลาดแคล้วทางวัน ฯ
๏ ถึงไชโยล้วนแฝก        แขมหนา หนั่นนา
น้ำสุดโดยคณนา        ถ่อถิ้ม
ไชโยจงไคลคลา        ไชยเยศ มีนา
ภัยสิ่งใดมาปิ้ม        แป่มข้าจงหาย ฯ
๏ แสงโสมใสสว่างถั้ว        เวหา
เรือดำเนินไคลคลา        คล่าวน้ำ
ถึงวัดพระงามนา        วาจอด แลนา
วัดพระงามงามล้ำ        เลิศแท้งามสม ฯ
๏ สาวรักสาวเรียกเข้า        สุขรมย์
ให้สว่างความเกรียมกรม        สวาทไหม้
แลสาวบมีสม        สูญเปล่า ไซร้นา
สาวแต่สมญาให้        ยั่วเย้ายวนสมร ฯ
๏ เห็นบ้านแป้งเพียงแป้ง        นวลนาง
ผัดแผ่นประจงพักตร์พลาง        ยั่วยิ้ม
พิศพฤกษ์เห็นกลกาง        กรเรียก ไปฤๅ
ใจรำจวนคิดปิ้ม        วากเว้เรือหา ฯ
๏ ยลยูงรำฟ้อนคู่        เคียงสม อยู่นา
แขกเต้าฟังสุขรมย์        ร่อนร้อง
เขาไฟคัลไลชม        เชยหมู่ กันแฮ
เอี้ยงแอ่นลมลมต้อง        ต่อต้านหาวหน ฯ
๏ ลีลาจรหล่ำแล้ว        ถึงชลอน
พิศท่าทางพนจร        ร่มรื้น
อุทยานพิศาลสลอน        พฤกษชาติ
ชลอนลับกันเป็นพื้น        ไร่สร้อยสวนศรี ฯ
๏ น้ำใสสุทธิ์คล้ายเชี่ยว        ชลปึง ปรี่มา
เซาะซอกธารบางบึง        หลั่งหลู้
ปลาเลาปลาหลดลึง        ลอยล่อง
ช่อนชวาดแชวงแมลงภู่        พ่นน้ำขจุยขจาย ฯ
๏ เล็งแลลิงโลดไม้        ไปมา
ฉวยฉีกใบพฤกษา        ย่ามย้ำ
ปักษีส่งเสียงหา        เมียงม่าย กันนา
ค่างแล่นเล็มกลืนกล้ำ        ลูกไม้พยามพยาม ฯ
๏ ถึงทิวงิ้วเงื่อนงอก        แถวถงัน อยู่นา
ป่าสงัดเสียงสัตว์อัน        รี่ร้อง
ใจจลกระมลศัลย์        ลิงโลด ใจนา
คิดคราครวญขัดข้อง        ขุ่นแค้นคนึงใน ฯ
๏ ถึงแนวนองน้ำหลั่ง        ไหลมา เชี่ยวแฮ
เรียกชื่อบางพุดทรา        ที่นั้น
ราตรีมืดมรรคา        ยลยาก ใจนา
เรือเร่งพายทรั้นถรั้น        คึ่นน้ำลาญสมร ฯ
๏ เดินโดยชลมารคแคล้ว        ถึงสถาน
วัดท่าชันแลลาญ        สวาทไหม้
ท่าชันจงมาบาน        ใจช่วย ชันนา
ให้ได้ยาแนวไส้        รั่วร้ามจงหาย ฯ
๏ ถึงวังมันไม้เติบ        ตรูมี มากนา
ริ้นเหลือบยุงยายี        คร่ำแค้น
อาศัยว่าแสงศรี        สูรส่อง แล้วแฮ
ค่อยคลายคลาเรือแหล้น        ฝ่าน้ำไหลหลาม ฯ
๏ ดลบางเลาเลิศล้วน        รุกขรมย์ เรียงนา
อาวาสดูงามสม        แต่งตั้ง
ยอกรประนมชม        พุทธโพธิ งามนา
ขอสมภารพระกั้ง        เกษเกล้าพูลเกษม ฯ
๏ เทวดาดลแด่นด่านด้าว        โพหลวง เล่านา
พิศแผ่นพันปักปวง        ใหญ่กว้าง
ลุบางปลาหมู่ดวง        รุกข์เรียบ รายแฮ
ยลย่อมเรือนจีนสร้าง        อยู่เหยี้ยมสุขรมย์ ฯ
๏ ถึงวัดทองเข้าจอด        อาศัย
ลมลาศมาเอาใจ        สว่างร้อน
พิศตาลโตรดตรงไสว        ใบพุ่ม งามนา
สล้างลำโยนหย้อน        พรั่งพร้อมพึงชม ฯ
๏ ถึงอินทรบุเรศเรื้อง        เกษมสานต์
เพี้ยงพ่างเมืองมัฆพาน        ท่านไท้
อารามวิมลสถาน        โอภาส
เย็นชชื้อทิวไม้        อ่อนโน้มไปมา ฯ
โพรายเรียงเรียบเบื้อง        ใบไสว อยู่นา
ก้านกิ่งสลอนกวัดไกว        แก่งค้อม
พิศกลระใบใบ        โพมาศ งามแฮ
ห้อยพิดานพรายพร้อม        อาสนเจ้าจอมธรรม์ ฯ
๏ สายัณห์ยามย่ำแล้ว        ถึงทยาน
จรดจอดอาศัยสถาน        หนึ่งเข้า
ว่าศรีมุนีอารย        อาวาส พระนา
ปรีดิประนตย์เจ้า        ชื่นช้อยชมบุญ ฯ
๏ แสงแขไขแข่งขึ้น        เวหา
จรจากทยานไคลคลา        แล่นล้ำ
โดยเสด็จท้องมรรคา        ลุล่ง แดนนา
โพแม่นางดำน้ำ        คล่าวคล้ายคลองสินธุ์ ฯ
๏ ยามสูรอรุโณทแผ้ว        แสงฉาย
ยอดยุคุนธรพราย        แพร่งไซร้
ถึงสรรพยาหลาย        พรรณสิ่ง ยานา
ยาจงมายาให้        ส่างเศร้าเสวยรมย์ ฯ
๏ เห็นเขาชอุ่มล้วน        พฤกษา มากนา
โดยเร่งนิยมมา        บ่พลั้ง
ขุนวานรินทรา        ทรงเดช แสดงแฮ
ช้อนเชิดชูมาตั้ง        ที่นั้นเป็นเฉลิม ฯ
๏ ชมไพรพนเวศไม้        มีพรรณ มากนา
อาจบรรเทาคลายศัลย์        ไปล่เปลื้อง
ทางเทาเที่ยวนานวัน        จรล่ำ แล้วแฮ
เห็นแต่ดงพงเหนื้อง        ฟากน้ำนองไป ฯ
๏ คล้ายคล้ายใกล้ถิ่นถี้        สลาขาว
เรือพวกพายไปฉาว        อยู่ไซร้
ชมสวนเรียบเรียงยาว        ทิวท่ิง ไปนา
พิศภิรมย์ไม้ไหล้        ร่มรื้นสาขา ฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่