ก่อนอื่นขอกล่าวกับทุกคนว่า ผมยังโสดครับ และอยู่ตัวคนเดียว มาหลายปีแล้วครับ นี่คือ เรื่องจริง....แต่ไม่ได้บอกให้เชื่อ...
เหตุผลที่ผมยอมอยู่โสด... ก็เพราะว่า ผมเคยผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาเยอะ มันเลยทำให้ผมรู้สึกเบื่อหน่ายกับความรัก เลยปิดใจตนเอง
และไม่กล้าที่จะไว้ใจใครอีกเลย จนอยู่โสดมาทุกวันนี้.......ซึ่งเขาเรียกกันสั้นๆว่า.........การเข็ดกับความรัก.......
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะปิดใจไปตลอดชีวิตหรอกนะครับ..........
เพราะว่า.....หากสักวัน ผมได้เจอคนที่ใช่จริงๆ เข้าใจกันจริงๆ ผมอาจจะเปิดใจรับใครสักคน เข้ามาในชีวิตผมจริงๆ ก็เป็นได้....
แต่ด้วยความโสดนี่ล่ะ ...มันเลยไม่แปลก ที่จะไปไหนมาไหนคนเดียว ทานข้าวคนเดียว นอนคนเดียว และ..........ดูหนังคนเดียว....
และที่จะแชร์ความรู้สึกต่อไปนี้ มันคือเรื่อง เกี่ยวกับการมาดูหนังคนเดียว
คือ วันพุธที่ผ่านมา ผมได้ไปดูหนังคนเดียวตอนเย็น หลังจากเลิกงานแล้ว ดูเรื่อง ไอฟาย แต๊งกิ้ว....
เห็นว่ากันว่าหนังดี เลยอยากดู....
และผมก็ชอบไปดูหนังทุกวันพุธอยู่แล้ว เหตุผลเพราะว่า ทุกวันพุธ บัตรหนังจะถูกครับ จากราคา 120 ลดลงเหลือ 80 บาท
แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า มันจะเกิดเรื่องราวร้ายๆ แบบเป็นมลพิษทางเสียง มากระทบระบบประสาท และเข้าทางหูให้ผมได้ยิน.....
ทั้งๆที่มาดูหนังทุกวันพุธ มันไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียว......
คือ หลังจากดูหนังเรื่องนี้เสร็จ ผมก็เดินออกมาทางประตูออก พร้อมกับผู้คนที่มาดูหนังเหมือนกันนั่นล่ะ
แต่ปรากฏว่า............ได้ยินเสียงนินทาระยะเผาขน ด้วยคำว่า '' หมอนีโรคจิตเปล่าว่ะ มาดูหนังคนเดียว ''
แต่ผมก็ไม่สนใจครับ ไม่อยากจะมีเรื่อง เลยทำเป็นไม่ได้ยิน
แต่เปล่าเลย..........มันไม่จบแค่นั้น ยังตามด้วยคำว่า '' คนไม่มีสังคมก็แบบนี้ล่ะ ''
นั่นล่ะ...อารมย์จี๊ดเลยครับ คราวนี้ เลยหันไปมอง ปรากฏว่า คือแฟนคู่หนึ่ง ที่เขามาดูหนังด้วยกัน.....
ไอ้ผู้ชายผู้เป็นแฟน มันยิ้มแบบย้อเย้ย ทำหน้ากวนบาทา ครับ
ผมเลยเดินเข้าไปถามว่า ใช่พวกคุณนินทาผมหรือเปล่า..???
ผู้ชายคนนั้น มันเลยตอบว่า ใช่ จะทำไม..???
ผมเลยถามว่า แล้วมันหนักหัวใคร สิทธิส่วนบุคคล มาดูหนังคนเดียว มันผิดกฏหมายเหรอ.????
ไม่จบครับ......ผู้ชายคนนั้น ยังตอบอีกว่า.............หนักหัวผมครับ ช่วยไปไกลๆเลย....
ผมเลยตอบว่า ได้..!!!....จากนั้น ผมก็เอาขวดน้ำเปล่าที่ซื้อ เพื่อมาดื่มในโรงหนัง เฟี้ยงใส่หน้ามัน จากนั้นผมก็ถีบมัน 1 ที
มันล้มลงกับพื้น พร้อมชี้หน้ามัน..........
ผู้คนพากันมองใหญ่เลยล่ะครับ แล้วผู้หญิงที่เป็นแฟนมาด้วย ก็ได้เข้ามาขอโทษผม แทนแฟนมัน...
ผู้ชายคนนั้น มันทำหน้าซีดเลยครับ ยกมือไหว้ผมเลย จากนั้นผมก็เดินจากไป แบบไม่พูดอะไร.............
แค่นี้ล่ะ เรื่องที่เกิดขึ้น....ผมเพียงอยากจะแชร์ความรู้สึก แบบเล่าสู่กันฟัง....คิดทีไร มันน่าโมโหทุกที........
สังคมไทยสมัยนี้ มันเป็นแบบนี้เหรอ..???...
'' เห็นคนอื่นด้อยกว่า ชอบหยาบเหยียด เห็นคนอื่นได้ดี ชอบอิจฉา.''...
เลยอยากถามว่า...........การที่เรามาดูหนังคนเดียว มันผิดมากมายนักเหรอครับ.???????
กระทู้พลีชีพอีกครั้ง............มาดูหนังคนเดียว มันผิดมากนักเหรอ.????
เหตุผลที่ผมยอมอยู่โสด... ก็เพราะว่า ผมเคยผ่านเรื่องราวร้ายๆ มาเยอะ มันเลยทำให้ผมรู้สึกเบื่อหน่ายกับความรัก เลยปิดใจตนเอง
และไม่กล้าที่จะไว้ใจใครอีกเลย จนอยู่โสดมาทุกวันนี้.......ซึ่งเขาเรียกกันสั้นๆว่า.........การเข็ดกับความรัก.......
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะปิดใจไปตลอดชีวิตหรอกนะครับ..........
เพราะว่า.....หากสักวัน ผมได้เจอคนที่ใช่จริงๆ เข้าใจกันจริงๆ ผมอาจจะเปิดใจรับใครสักคน เข้ามาในชีวิตผมจริงๆ ก็เป็นได้....
แต่ด้วยความโสดนี่ล่ะ ...มันเลยไม่แปลก ที่จะไปไหนมาไหนคนเดียว ทานข้าวคนเดียว นอนคนเดียว และ..........ดูหนังคนเดียว....
และที่จะแชร์ความรู้สึกต่อไปนี้ มันคือเรื่อง เกี่ยวกับการมาดูหนังคนเดียว
คือ วันพุธที่ผ่านมา ผมได้ไปดูหนังคนเดียวตอนเย็น หลังจากเลิกงานแล้ว ดูเรื่อง ไอฟาย แต๊งกิ้ว....
เห็นว่ากันว่าหนังดี เลยอยากดู....
และผมก็ชอบไปดูหนังทุกวันพุธอยู่แล้ว เหตุผลเพราะว่า ทุกวันพุธ บัตรหนังจะถูกครับ จากราคา 120 ลดลงเหลือ 80 บาท
แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า มันจะเกิดเรื่องราวร้ายๆ แบบเป็นมลพิษทางเสียง มากระทบระบบประสาท และเข้าทางหูให้ผมได้ยิน.....
ทั้งๆที่มาดูหนังทุกวันพุธ มันไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยสักครั้งเดียว......
คือ หลังจากดูหนังเรื่องนี้เสร็จ ผมก็เดินออกมาทางประตูออก พร้อมกับผู้คนที่มาดูหนังเหมือนกันนั่นล่ะ
แต่ปรากฏว่า............ได้ยินเสียงนินทาระยะเผาขน ด้วยคำว่า '' หมอนีโรคจิตเปล่าว่ะ มาดูหนังคนเดียว ''
แต่ผมก็ไม่สนใจครับ ไม่อยากจะมีเรื่อง เลยทำเป็นไม่ได้ยิน
แต่เปล่าเลย..........มันไม่จบแค่นั้น ยังตามด้วยคำว่า '' คนไม่มีสังคมก็แบบนี้ล่ะ ''
นั่นล่ะ...อารมย์จี๊ดเลยครับ คราวนี้ เลยหันไปมอง ปรากฏว่า คือแฟนคู่หนึ่ง ที่เขามาดูหนังด้วยกัน.....
ไอ้ผู้ชายผู้เป็นแฟน มันยิ้มแบบย้อเย้ย ทำหน้ากวนบาทา ครับ
ผมเลยเดินเข้าไปถามว่า ใช่พวกคุณนินทาผมหรือเปล่า..???
ผู้ชายคนนั้น มันเลยตอบว่า ใช่ จะทำไม..???
ผมเลยถามว่า แล้วมันหนักหัวใคร สิทธิส่วนบุคคล มาดูหนังคนเดียว มันผิดกฏหมายเหรอ.????
ไม่จบครับ......ผู้ชายคนนั้น ยังตอบอีกว่า.............หนักหัวผมครับ ช่วยไปไกลๆเลย....
ผมเลยตอบว่า ได้..!!!....จากนั้น ผมก็เอาขวดน้ำเปล่าที่ซื้อ เพื่อมาดื่มในโรงหนัง เฟี้ยงใส่หน้ามัน จากนั้นผมก็ถีบมัน 1 ที
มันล้มลงกับพื้น พร้อมชี้หน้ามัน..........
ผู้คนพากันมองใหญ่เลยล่ะครับ แล้วผู้หญิงที่เป็นแฟนมาด้วย ก็ได้เข้ามาขอโทษผม แทนแฟนมัน...
ผู้ชายคนนั้น มันทำหน้าซีดเลยครับ ยกมือไหว้ผมเลย จากนั้นผมก็เดินจากไป แบบไม่พูดอะไร.............
แค่นี้ล่ะ เรื่องที่เกิดขึ้น....ผมเพียงอยากจะแชร์ความรู้สึก แบบเล่าสู่กันฟัง....คิดทีไร มันน่าโมโหทุกที........
สังคมไทยสมัยนี้ มันเป็นแบบนี้เหรอ..???...
'' เห็นคนอื่นด้อยกว่า ชอบหยาบเหยียด เห็นคนอื่นได้ดี ชอบอิจฉา.''...
เลยอยากถามว่า...........การที่เรามาดูหนังคนเดียว มันผิดมากมายนักเหรอครับ.???????