วันนี้อยากมาบันทึกเรื่องราวไว้ แล้วก็ออกเชิงระลายมากกว่า แต่ถ้าใครมีข้อเสนอแนะอะไรก็สามารถมาพูดคุยกันได้นะคะ (ถ้ามีคนเห็นกระทู้นี้ด้วยซ้ำ)
เราเลิกกับ 'แฟน' เก่า คิดว่าน่าตะได้สักสองสามเดือน ที่เน้นคำว่าแฟนก็เพราะว่ามันไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น แต่ควาทรู้สึกถือว่าใกล้เคียงเลยค่ะ
ตอนนั้นเรามีปัญหาชรวิตเยอะ มรปัญหากับครูและเพื่อนที่โรงเรียนหนักมาก ถึงขั้นโดนปล่อยข่าวว่าเป็ยคนไม่ได้ คนโจมตีชั้นเรียนเราทั้งสาย ว่าเด็กฌปรแกรมนี้เห็นแก่ตัว คุณครูบางคนเอาเราไปนินทานอกโรงเรียน กับคนไม่รู้จักด้วยซ้ำ (ในวัดเลยค่ะ 555+ แต่คนๆนั้นเป็นแม่เพื่อนเราที่รู้จักเราดี คราวคนจะซวยอะเนาะ) เรื่องนี้ไว้มาเบ่าอีกวันหลังละกัน
ตอนนั้นพ่อแม่เราหย่ากันด้วย สดๆใหม่ๆเลย จับได้ว่าพ่อมีคนอื่น รู้สึกง่าตอนนั้นก็เก็บความรู้สึกไว่นานพอสมควรนะ พอมั่นใตว่าเรื่องจบ ทุกคนเริ่มโอเคแล้ว ถึงพึ่งได้มาเริ่มคิดึฃแล้วก็แอบเสียใจคนเดียว แต่ก็ยอมรับว่าแบบนี้ดีที่สุดแล้ว แล้วเราก็โตพอจะยอมรับความจริง ดีกว่าทนอยู่กันไปแบบนั้น
ตอนนั้นสภาพจิตเราย่ำแย่เลย ทำร้ายตัวเองบางที แต่ก็ไม่ๆด้รู้สึกว่าทำอะไรรุนแรงขนาดนั้นนะ กลับมาทองแล้วสุดท้ายการทำร้ายคัวเองทุกแบบมันก็แย่หมดนั่นแหละ ตอนนี้พยายามไม่ทำได้ดีขึ้นมากแล้ว รู้สึกว่ารักตัวเองดีกว่า หัวใจอุตส่าห์เต้นให้เราได้มีชีวิตอยู่ชนาดนี้
แต่ด้วยเหตุผลนี้ แน่นอนว่าคนที่พยายามมีชีวิตรอดแต่ละวันไม่ได่สนใจคนรอบข้างเลน โดยเฉพาะเพื่อนและแฟนอยู่แทบจะสุดท้าย จริงๆเราคิดว่ารักคนนี้มากเลยนะ หรืออย่างน้อยก็มีความรู้สึกดีๆและความห่วงใยให้ ตอนนั้นเขาก็มีปัญหาของเขาเหมือนกัน เรื่องครอบครัวและค่อนข้างหนักหน่วง ต่างที่เขาไม่ได้จีดการความรู้สึกแบบเรา เราชอบเก็บมาฃมคนเดียว รู้สึกดีขึ้นแล้วค่อยกลับสู่สังคม เพราะว่าไม่อยากเป็นภาระใคร แถมรอรองรับความรู้สึกคนในครอบครัวตอนนั้นด้วยแหละ
แฟนเก่าเราเค้าบอกว่าเล่าให้เราฟังคนเดียว เรื่องปัญหาของเขาน่ะบอกตรงๆว่าฟังแล้วอึดอัดอยูานิดหน่อย รู้สึกว่าเราเป็นที่พึ่งเดียวของเขา ตัวเองก็เอาแทบไม่รอดแล้วนะ แต่ก็อยากเป็นที่พึ่งให้เขา พยายามช่วยหาท่งออกด้วย แต่ตอนนั้นเขาต้องการแค่ให้มีใครสักคนรับฟังและปลอบเขา
อย่างที่บอกค่ะ ตอนนั้นสมองเราก็ไม่ค่อยจะปกติ ด้วยปัญหาที่เจอ และนิสัยเราที่เบือกจะผ่านไปด้วยตัวเองโดยไม่บอกใคร เราก็มีเรื่แงติดใจ ว่าเราไม่ชอบโอ๋ใคร คิดว่าลคกๆคนคิดว่า เราต้องผ่านไปทั้งหมดเอง ทำไมเขาจัดการตัวเองไม่ได้ ให้ทางออกแล้วก็ไม่สนใจจะทำ ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะนะ
อีกอย่างคือเวบาคุยกัน เราริสึกเหมทอนเค้าซ่อนตัวตนจากเรา อาจจะเพราะชอบมากก็ได้ เปผ้นธรรมดาของเด็กหนุ่ม แต่เรารู้สึกว่ามันไม่เป็นธรามชาติจนอึดอัด เวลาคุยกันเขาต้องหาเรื่องมาคัยกับเราตบอด แทนที่จะคุยกันเรื่อยๆเหมือนคนปกติ หรืออย่างน้อยก็คนที้ป็นเพื่อนกัน เดือนแรกผ่านไปด้วยดี เราคิดว่าเราดูแลเขาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย
หลังๆเราเริ่มรู้สึกว่าเราคุยกับเขาไม่ได้ ถ้าเขาไม่ระบายเรื่องปัญหาส่วนตัวเขาก็จะชวนคัยเรื่องทะ่วไป เรื่องที่โรงเรียน หรือถามเรื่องอพไรที่เราชอบบ้าง แต่มันเหมือนเราไม่ได้คุยกับเขาเลย เหมือนเราพูด แล้วเขาก็ฟัง นอกจากนี้ก็ไม่ได้คุยกันเรื่องอื่นอีกเลย เรารู้สึกว่าไม่ได้รู้จักเขาลึกกว่าระดับผิวเผินเลย มองยเอนไปเราอาจผิดเองที่อาจทำให้เขารู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองกับเราไม่ได้ หรือว่าเราไม่ถามเค้า พูดเกี่ยวกับตัวเองมากเกินไป
เดือนที่ 2-3 เราก็รู้สึกแบบนี้มาโดยตบอด ทะเลาะกันบ่อยขึ้นเพราะว่าเราเริ่มไม่อยากคุยหับเขา เราไม่มีเวลาให้ แถมงานกับปัญหาก็รุมเร้า ยัฃไม่นับเรื่องเรียนกับสอบที่ต้องจีดการอยู่แล้ว หัวหมุนเลยล่ะ แถมเขาชอบมาชวนทะเลาะตอนดึกๆ โดยเฉพาะวันที่เราต้องตื่นไปทำงานโรงเรียนแต่เช้าคั้งแต่ตี 5 นะ หึหึ เริ่มเลย
ยิ่งรู้สึกอึดอัดเรายิ่งทำเรื่องที่น่าเสียใจลงไป เพราะไม่กล้าบอกเลิกเขา เราเล่นวิธีสกปรกเพื่อหาทางให้เขาบอกเลิกเราแทน ทำให้เขาตั้งคำถามกับความซื่อสัตย์ของเราเยอะล่ะ ถึงแม้ตอนนั้นเราจะมองว่ายังไม่ได้คบกันจริงๆ ซึ่งเขาก็ไม่ทำอยู่ดี มีแต่มีเรื่องให้ทะเลาะกัน วันนึงเราก็เลยทนไม่ไหว ทุกครั้งที่เราพยายามบอกว่าคิดว่าเราเข้ากันไม่ได้ เขาจะถาทว่า อยากทิ้ง2-3เดือนที่ผ่านมาไปจริงๆเหรอ ไม่ก็ ถ้าครั้งนี้เราเลิกคุยกันอีกเขาคงคุยกับเราไม่ได้อีกแล้ว และทุกครั้ฃก็บอกว่า อยากให้ลองแก้ปัญหาไปด้วยกัน แต่สำหรับเรามันแก้ไม่ได้ เราบังคับให้ใครโต หรือเข้าใจเราไม่ได้ รู้วึกว่าเขาวุฒิภาวะระดับต่างกับเรา (ฟังแล้วดูกวนโอ้ยเนอะ 555+) แต่เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เวบาปรึกษาเรื่องปัญหาของเรา เค้าก็จะพูดได้ประมาณว่า แย่จังเลย หรือ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเราด้วยนะ ซึ่งเราก็เข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่า เล่าไปทำไมวะ เขาก็บอกว่าบางทีเขาไม่รู้จะพูดว่าอะไร หลายๆอย่างเราค้องบอกเขาว่าในแต่ละสถานการณ์ควรพูดว่าอะไร จนถึงเวบาที่เขาพูดเราก็รู้สึกเหมือนมันไม่จริงใจละ เพราะเราเป็นคนสอนนี่
สึดท้ายก็เลิกคุยกันค่ะ เริ่มด้วยเราบอกว่าขอห่าฃสักสองอาทิตย์ แล้วจะกลับมาบอกว่าแยกแล้วชีวิตดีขึ้นตริฃๆไหม แต่ภายในสองอาทิตย์นั้นเค้าก็บล็อกเราไปละ เราเลยคิดว่า งั้นเขาคงคิดได้แล้วไม่อยากติดต่อกับเราอีกแล้วแหละ แอบดูโพสต์ที่เค้าแชร์ก็เหใือนยังมีใจอนู่นะ แต่เราไม่คิดกลับไปเพราะปัญหาที่มีมันไม่ได้จะหายไปเอง กลับไปก็เป็นเหมือนเดิม
จนช่วงไม่กี่ว้นที่ผ่านมา พี่ในวงที่เราสนิท (เล่นวงดนตรีด้วยกัน พี่ร้องเพลงและเราเล่นกีตาร์) แถมนิสัยต่างกันลิบลับ พี่เค้าเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยทำตัวบ้าๆบอๆ ส่วนเราตรงกันข้ามเลย โคตรเฮฮารักสนุก พูดมากและเสียงดังด้วย 555
พี่เขาขอคุยหับเรา ถามว่าเราจะโอเคไหมถ้าพี่เขาชอบแฟนเก่าเรา เราอึดอัด บอกตรงๆ เลยพยายามรีบตัดบท และบอกว่า 'เขิน' และบอกพี่เค้าว่า จะชอบใครมันก็เรื่องของพี่เค้า แถมเราไม่ทีสิทธิแล้ว เพียงแต่ถ้าจีบติด เราขอไว้ว่าอย่าเอามาเล่าให้ฟัง
แต่เรากับแฟนเก่าเหมือนยังตีดกันไม่ขสด และเราก็รู้ แต่ก็ต้องขอกพี่เขาไปอย่าฝนั้นเพราะจริงๆก็ไม่มีสิทธิอยู่ดี เราหาทางขอโทษแบบอ้อมๆ แล้วเขาเหมือนจะให้อภัยท่งอ้อมๆเหมทอนกัน ถึงแม้เราทั้งคู่รู้ว่าสิ่งที่เราทำไปมันโหดร้าย
สำหรับเราตอนนี้สถานการณ์เลยค่อนค่างอึดอัด เราไม่ทีทางเลือกนอกจากต้องไม่คิดค่อกับแฟนเก่าอีก ไม่พยายามสานสัมพันธ์ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าพี่คนนี้ชอบแฟนเก่าเรา พี่เค้าเคยฝากเพื่อนมาถาทแล้วนะทีนึง แต่คงฉบาดที่มาถามเราด้วยตัวเองอีกรอบ แถมคนเยอะสะด้วย นี่แปลว่าเราต้องรับรู้แล้วว่าพี่เขาชอบ แถมเราก็พูดออกไปแล้วว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ มันก็ขึ้นอยู่กับแฟนเก่าเราอยูาดีว่าเขาจะยอมให้จีบไหม
ตอนนี้เลยเหมือนอยู่ในช่วง limbo เลยค่ะ TT รอให้พี่เค้าลองไปจีบแฟนเก่าเราแล้วกัน เขาจะได้รู้ว่าทำไมเราไม่กล้าสานสัมพันธ์อะไรอีก แต่คงจะเป็นซีนที่บีบหัวใจน่าดู ช่วงนี้ซึมๆอยู่ค่ะ เรื่องบางเรื่องไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราตัดสินใจ บางทีก็ต้องนอดูผลลัพธ์ และก็แค่ต้องยอมรับมัน แต่จะใช้เวลานี่พยายามพัฒนาตัวเอง ออกกำลังกาย เผื่อแฟรเก่ามาง้อ หรือแฟนใหม่เข้าภาพมาค่ะ อิอิ ขอบคุณที่อ่านจะต้นจนจบหรือไม่ก็ตาม
บันทึกแรก วัย16 ปี; เพื่อนชอบแฟนเก่า TT
เราเลิกกับ 'แฟน' เก่า คิดว่าน่าตะได้สักสองสามเดือน ที่เน้นคำว่าแฟนก็เพราะว่ามันไม่ได้ไปถึงขั้นนั้น แต่ควาทรู้สึกถือว่าใกล้เคียงเลยค่ะ
ตอนนั้นเรามีปัญหาชรวิตเยอะ มรปัญหากับครูและเพื่อนที่โรงเรียนหนักมาก ถึงขั้นโดนปล่อยข่าวว่าเป็ยคนไม่ได้ คนโจมตีชั้นเรียนเราทั้งสาย ว่าเด็กฌปรแกรมนี้เห็นแก่ตัว คุณครูบางคนเอาเราไปนินทานอกโรงเรียน กับคนไม่รู้จักด้วยซ้ำ (ในวัดเลยค่ะ 555+ แต่คนๆนั้นเป็นแม่เพื่อนเราที่รู้จักเราดี คราวคนจะซวยอะเนาะ) เรื่องนี้ไว้มาเบ่าอีกวันหลังละกัน
ตอนนั้นพ่อแม่เราหย่ากันด้วย สดๆใหม่ๆเลย จับได้ว่าพ่อมีคนอื่น รู้สึกง่าตอนนั้นก็เก็บความรู้สึกไว่นานพอสมควรนะ พอมั่นใตว่าเรื่องจบ ทุกคนเริ่มโอเคแล้ว ถึงพึ่งได้มาเริ่มคิดึฃแล้วก็แอบเสียใจคนเดียว แต่ก็ยอมรับว่าแบบนี้ดีที่สุดแล้ว แล้วเราก็โตพอจะยอมรับความจริง ดีกว่าทนอยู่กันไปแบบนั้น
ตอนนั้นสภาพจิตเราย่ำแย่เลย ทำร้ายตัวเองบางที แต่ก็ไม่ๆด้รู้สึกว่าทำอะไรรุนแรงขนาดนั้นนะ กลับมาทองแล้วสุดท้ายการทำร้ายคัวเองทุกแบบมันก็แย่หมดนั่นแหละ ตอนนี้พยายามไม่ทำได้ดีขึ้นมากแล้ว รู้สึกว่ารักตัวเองดีกว่า หัวใจอุตส่าห์เต้นให้เราได้มีชีวิตอยู่ชนาดนี้
แต่ด้วยเหตุผลนี้ แน่นอนว่าคนที่พยายามมีชีวิตรอดแต่ละวันไม่ได่สนใจคนรอบข้างเลน โดยเฉพาะเพื่อนและแฟนอยู่แทบจะสุดท้าย จริงๆเราคิดว่ารักคนนี้มากเลยนะ หรืออย่างน้อยก็มีความรู้สึกดีๆและความห่วงใยให้ ตอนนั้นเขาก็มีปัญหาของเขาเหมือนกัน เรื่องครอบครัวและค่อนข้างหนักหน่วง ต่างที่เขาไม่ได้จีดการความรู้สึกแบบเรา เราชอบเก็บมาฃมคนเดียว รู้สึกดีขึ้นแล้วค่อยกลับสู่สังคม เพราะว่าไม่อยากเป็นภาระใคร แถมรอรองรับความรู้สึกคนในครอบครัวตอนนั้นด้วยแหละ
แฟนเก่าเราเค้าบอกว่าเล่าให้เราฟังคนเดียว เรื่องปัญหาของเขาน่ะบอกตรงๆว่าฟังแล้วอึดอัดอยูานิดหน่อย รู้สึกว่าเราเป็นที่พึ่งเดียวของเขา ตัวเองก็เอาแทบไม่รอดแล้วนะ แต่ก็อยากเป็นที่พึ่งให้เขา พยายามช่วยหาท่งออกด้วย แต่ตอนนั้นเขาต้องการแค่ให้มีใครสักคนรับฟังและปลอบเขา
อย่างที่บอกค่ะ ตอนนั้นสมองเราก็ไม่ค่อยจะปกติ ด้วยปัญหาที่เจอ และนิสัยเราที่เบือกจะผ่านไปด้วยตัวเองโดยไม่บอกใคร เราก็มีเรื่แงติดใจ ว่าเราไม่ชอบโอ๋ใคร คิดว่าลคกๆคนคิดว่า เราต้องผ่านไปทั้งหมดเอง ทำไมเขาจัดการตัวเองไม่ได้ ให้ทางออกแล้วก็ไม่สนใจจะทำ ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะนะ
อีกอย่างคือเวบาคุยกัน เราริสึกเหมทอนเค้าซ่อนตัวตนจากเรา อาจจะเพราะชอบมากก็ได้ เปผ้นธรรมดาของเด็กหนุ่ม แต่เรารู้สึกว่ามันไม่เป็นธรามชาติจนอึดอัด เวลาคุยกันเขาต้องหาเรื่องมาคัยกับเราตบอด แทนที่จะคุยกันเรื่อยๆเหมือนคนปกติ หรืออย่างน้อยก็คนที้ป็นเพื่อนกัน เดือนแรกผ่านไปด้วยดี เราคิดว่าเราดูแลเขาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย
หลังๆเราเริ่มรู้สึกว่าเราคุยกับเขาไม่ได้ ถ้าเขาไม่ระบายเรื่องปัญหาส่วนตัวเขาก็จะชวนคัยเรื่องทะ่วไป เรื่องที่โรงเรียน หรือถามเรื่องอพไรที่เราชอบบ้าง แต่มันเหมือนเราไม่ได้คุยกับเขาเลย เหมือนเราพูด แล้วเขาก็ฟัง นอกจากนี้ก็ไม่ได้คุยกันเรื่องอื่นอีกเลย เรารู้สึกว่าไม่ได้รู้จักเขาลึกกว่าระดับผิวเผินเลย มองยเอนไปเราอาจผิดเองที่อาจทำให้เขารู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเองกับเราไม่ได้ หรือว่าเราไม่ถามเค้า พูดเกี่ยวกับตัวเองมากเกินไป
เดือนที่ 2-3 เราก็รู้สึกแบบนี้มาโดยตบอด ทะเลาะกันบ่อยขึ้นเพราะว่าเราเริ่มไม่อยากคุยหับเขา เราไม่มีเวลาให้ แถมงานกับปัญหาก็รุมเร้า ยัฃไม่นับเรื่องเรียนกับสอบที่ต้องจีดการอยู่แล้ว หัวหมุนเลยล่ะ แถมเขาชอบมาชวนทะเลาะตอนดึกๆ โดยเฉพาะวันที่เราต้องตื่นไปทำงานโรงเรียนแต่เช้าคั้งแต่ตี 5 นะ หึหึ เริ่มเลย
ยิ่งรู้สึกอึดอัดเรายิ่งทำเรื่องที่น่าเสียใจลงไป เพราะไม่กล้าบอกเลิกเขา เราเล่นวิธีสกปรกเพื่อหาทางให้เขาบอกเลิกเราแทน ทำให้เขาตั้งคำถามกับความซื่อสัตย์ของเราเยอะล่ะ ถึงแม้ตอนนั้นเราจะมองว่ายังไม่ได้คบกันจริงๆ ซึ่งเขาก็ไม่ทำอยู่ดี มีแต่มีเรื่องให้ทะเลาะกัน วันนึงเราก็เลยทนไม่ไหว ทุกครั้งที่เราพยายามบอกว่าคิดว่าเราเข้ากันไม่ได้ เขาจะถาทว่า อยากทิ้ง2-3เดือนที่ผ่านมาไปจริงๆเหรอ ไม่ก็ ถ้าครั้งนี้เราเลิกคุยกันอีกเขาคงคุยกับเราไม่ได้อีกแล้ว และทุกครั้ฃก็บอกว่า อยากให้ลองแก้ปัญหาไปด้วยกัน แต่สำหรับเรามันแก้ไม่ได้ เราบังคับให้ใครโต หรือเข้าใจเราไม่ได้ รู้วึกว่าเขาวุฒิภาวะระดับต่างกับเรา (ฟังแล้วดูกวนโอ้ยเนอะ 555+) แต่เรารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เวบาปรึกษาเรื่องปัญหาของเรา เค้าก็จะพูดได้ประมาณว่า แย่จังเลย หรือ ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเราด้วยนะ ซึ่งเราก็เข้าใจ แต่ก็รู้สึกว่า เล่าไปทำไมวะ เขาก็บอกว่าบางทีเขาไม่รู้จะพูดว่าอะไร หลายๆอย่างเราค้องบอกเขาว่าในแต่ละสถานการณ์ควรพูดว่าอะไร จนถึงเวบาที่เขาพูดเราก็รู้สึกเหมือนมันไม่จริงใจละ เพราะเราเป็นคนสอนนี่
สึดท้ายก็เลิกคุยกันค่ะ เริ่มด้วยเราบอกว่าขอห่าฃสักสองอาทิตย์ แล้วจะกลับมาบอกว่าแยกแล้วชีวิตดีขึ้นตริฃๆไหม แต่ภายในสองอาทิตย์นั้นเค้าก็บล็อกเราไปละ เราเลยคิดว่า งั้นเขาคงคิดได้แล้วไม่อยากติดต่อกับเราอีกแล้วแหละ แอบดูโพสต์ที่เค้าแชร์ก็เหใือนยังมีใจอนู่นะ แต่เราไม่คิดกลับไปเพราะปัญหาที่มีมันไม่ได้จะหายไปเอง กลับไปก็เป็นเหมือนเดิม
จนช่วงไม่กี่ว้นที่ผ่านมา พี่ในวงที่เราสนิท (เล่นวงดนตรีด้วยกัน พี่ร้องเพลงและเราเล่นกีตาร์) แถมนิสัยต่างกันลิบลับ พี่เค้าเป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยทำตัวบ้าๆบอๆ ส่วนเราตรงกันข้ามเลย โคตรเฮฮารักสนุก พูดมากและเสียงดังด้วย 555
พี่เขาขอคุยหับเรา ถามว่าเราจะโอเคไหมถ้าพี่เขาชอบแฟนเก่าเรา เราอึดอัด บอกตรงๆ เลยพยายามรีบตัดบท และบอกว่า 'เขิน' และบอกพี่เค้าว่า จะชอบใครมันก็เรื่องของพี่เค้า แถมเราไม่ทีสิทธิแล้ว เพียงแต่ถ้าจีบติด เราขอไว้ว่าอย่าเอามาเล่าให้ฟัง
แต่เรากับแฟนเก่าเหมือนยังตีดกันไม่ขสด และเราก็รู้ แต่ก็ต้องขอกพี่เขาไปอย่าฝนั้นเพราะจริงๆก็ไม่มีสิทธิอยู่ดี เราหาทางขอโทษแบบอ้อมๆ แล้วเขาเหมือนจะให้อภัยท่งอ้อมๆเหมทอนกัน ถึงแม้เราทั้งคู่รู้ว่าสิ่งที่เราทำไปมันโหดร้าย
สำหรับเราตอนนี้สถานการณ์เลยค่อนค่างอึดอัด เราไม่ทีทางเลือกนอกจากต้องไม่คิดค่อกับแฟนเก่าอีก ไม่พยายามสานสัมพันธ์ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าพี่คนนี้ชอบแฟนเก่าเรา พี่เค้าเคยฝากเพื่อนมาถาทแล้วนะทีนึง แต่คงฉบาดที่มาถามเราด้วยตัวเองอีกรอบ แถมคนเยอะสะด้วย นี่แปลว่าเราต้องรับรู้แล้วว่าพี่เขาชอบ แถมเราก็พูดออกไปแล้วว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ มันก็ขึ้นอยู่กับแฟนเก่าเราอยูาดีว่าเขาจะยอมให้จีบไหม
ตอนนี้เลยเหมือนอยู่ในช่วง limbo เลยค่ะ TT รอให้พี่เค้าลองไปจีบแฟนเก่าเราแล้วกัน เขาจะได้รู้ว่าทำไมเราไม่กล้าสานสัมพันธ์อะไรอีก แต่คงจะเป็นซีนที่บีบหัวใจน่าดู ช่วงนี้ซึมๆอยู่ค่ะ เรื่องบางเรื่องไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราตัดสินใจ บางทีก็ต้องนอดูผลลัพธ์ และก็แค่ต้องยอมรับมัน แต่จะใช้เวลานี่พยายามพัฒนาตัวเอง ออกกำลังกาย เผื่อแฟรเก่ามาง้อ หรือแฟนใหม่เข้าภาพมาค่ะ อิอิ ขอบคุณที่อ่านจะต้นจนจบหรือไม่ก็ตาม