สมศ.ผักชีโรยหน้า กับคำพูดครูที่ทำให้เราเสียน้ำตา

สวัสดีค่ะ เราขออนุญาตพื้นที่ตรงนี้ระบายหน่อยนะคะ บางท่านอาจคิดว่ามันเป็นความผิดของเราเอง เราก็ขอน้อมรับค่ะ แต่เสียใจจริงๆกับเหตุการณ์วันนี้

ขอเกริ่นก่อนนะคะ ลูกเราเรียน อนุบาล 1 อยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง ซึ่งทางโรงเรียนกำลังจะต้องรับการประเมิณคุณภาพจาก สมศ.
เราไม่ทราบนะคะว่าวันไหน แต่ทางโรงเรียนได้มีการติดประกาศมาอาทิตย์นึงแล้วว่า ในวันที่ 19-21 จะมีการซ้อมเตรียมรับการประเมิณ ขอให้ผู้ปกครองพาลูกมาเรียนให้ทันก่อนเข้าแถวด้วย

ซึ่งปกติทุกวัน เราพาลูกไปทันเข้าแถวอยู่แล้ว ไม่เคยไปสายเลยครั้ง แต่ในวันนี้มีเหตุเกิดกับบ้านเราคือ

สามีเรา เค้าไม่สบายมีไข้สูงมาตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา โดยไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้ว และตรวจไข้หวัดใหญ่และไม่พบเชื้อ คุณหมอเลยให้กลับมาพักผ่อนที่บ้าน แล้วหลังจากนั้น 2 วันคือวันนี้ เค้าต้องไปตรวจไข้เลือดออก แต่เมื่อวานอาการไข้เค้าลดลง ซึ่งเราก็สบายใจคิดว่าน่าจะดีขึ้น แต่เค้ายังบ่นๆว่าปวดหัวมาก เลยคิดว่าวันนี้หลังจากส่งลูก เราจะพาเค้าไปโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่อยู่ๆกลางดึกเค้ามีอาการกระสับกระส่าย ปวดท้อง และอาเจียน ออกมาเยอะมาก เราเช็คข้อมูลในอากู๋ เลยคิดว่าเค้าน่าจะเป็นไข้เลือดออกในระยะช็อค เราเลยรีบพาเค้าส่งโรงพยาบาล

เมื่อไปถึง หมอเจาะเลือดและสั่งให้แอดมิด แต่การแอดมิดไม่ใช่ไปถึงแล้วเข็นเค้าห้องเลย ต้องรอให้เจ้าหน้าที่เตรียมห้องให้เรียบร้อย กว่าจะเรียบร้อยก็ปาไปตี 1 เราก็พาลูกๆ กลับบ้านมานอน ซึ่งกว่าเค้าจะได้นอนคือเกือบตึ 2 เราอยู่แบบนิวเคลียร์แฟมิลี่นะคะ ไปไหนมาไหนก็ต้องกระเตงกันไป

ด้วยความที่เราเห็นว่าลูกนอนดึก เราเลยคิดว่าวันนี้ให้เค้าไปสายหน่อยแล้วกัน เพราะเค้าเพิ่งหายป่วย หยุดไปหลายวันแล้ว เลยให้เค้าตื่น เจ็ดโมงกว่าๆ ซึ่งปกติ เค้าตื่นหกโมงกว่าๆ

เมื่อไปถึงโรงเรียน ทุกคนเข้าแถวเสร็จกำลังจะเข้าห้องเรียน เราก็เจอคุณครูท่านนึง เป็นครูสอนอนุบาล 1 แต่คนละห้องกับลูกเรา เรียกเรา แล้วบอกว่า "วันหลังหัดพาน้องมาให้เช้าๆหน่อยนะ คุณแม่" เราก้อ เฮ้ย.. ไรอ่ะ เพิ่งมาสายวันแรกเอง คนเค้ามีเหตุนะ เราก็เลยตอบไปว่า "พอดีคุณพ่อน้องไม่สบาย คุณแม่ต้องพาไปแอดมิด..." แต่ยังพูดไม่ทันจบเลย ครูคนนั้นก็สวนมาว่า "ใครจะเป็นจะตายก็ไม่เกี่ยว ยังไงก็ต้องมาให้ทัน เนี่ยต้องซ้อมประเมิณ สมศ." เลยเดินหันหลังหนีไปดื้อๆ

เราโกรธมาก แต่พอดีเราทิ้งลูกคนเล็กที่ยังหลับไม่ตื่นไว้ที่รถ เลยต้องรีบ ไม่มีเวลาต่อล้อต่อเถียง แต่เราเสียใจมาก ครูคนนั้นพูดเหมือนชีวิตสามีเราไม่สำคัญเท่าการซ้อมการประเมิณ แล้วอีกอย่างเราก็เห็นว่าเค้านัดซ้อมวันจันทร์ไม่ใช่วันนี้ ถ้าเค้าแจ้งว่าซ้อมวันนี้เราคงให้ลูกหยุดไปแล้ว ทำไมต้องพูดกับเราแบบนี้ และที่ผ่านมาเราก็แจ้งคุณครูประจำชั้นไว้ก่อนแล้วว่าอาจมีมาสายหรือกลับก่อน ถ้าอาการพ่อเค้าแย่ลง ถ้าประเมิณแล้วผักชีโรยหน้าแบบไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรม อย่าประเมิณมันเลยค่ะ เราไม่เคยแคร์เลยว่าโรงเรียนจะผ่านมาตรฐานอะไร ขอแค่ดูแลลูกเราให้ดีก็พอ

ขอบคุณสำหรับพื้นที่ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่