สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน ครั้งหนึ่ง เฟสบุ๊คเคยพยายามร่วมลงทุนกับ Xiaomi แต่แผนการลงทุนประสบความล้มเหลวก่อนที่จะกลายเป็นรูปธรรม ด้วยต้นเหตุความกังวลใจเกี่ยวกับผลกระทบทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟสบุ๊ค ได้กล่าวเปิดใจถึงความพยายามในการลงทุนกับ Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีน ที่ตอนนี้กลายมาเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนในลำดับต้นๆ ด้วยเงินลงทุนกว่าพันล้านดอลล่าร์สหรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว โดย ซักเคอร์เบิร์ก และ เล่ย จุน ซีอีโอจากทาง Xiaomi ได้มีการหารือกันเป็นการส่วนตัวระหว่างช่วงรับประทานอาหารค่ำในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมีการเจรจาพูดคุยถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับของทั้งสองบริษัท แต่ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเป็นอันต้องถูกยกเลิกไป เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางการเมือง
สำหรับข้อตกลงในแผนการลงทุนดังกล่าว ได้รับการเพิ่มเติมว่า ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ไฮไลท์อยู่ที่ความสนใจที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเทคโนฯจากสหรัฐฯที่จะแสดงในจีน ซึ่งในขณะที่เฟสบุ๊คถูกแบนในจีน แต่ซักเคอร์เบิร์กก็ไม่เคยละทิ้งความพยายามในการขยายตลาดไปยังประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของโลก โดยการลงทุนคาดจะเป็นการขยายการรับรู้แบรนด์ Xiaomi ในตลาดต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงแม้จะมีการเติบโตของยอดขายอย่างรวดเร็ว แต่ Xiaomi ก็ยังต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคชิ้นโตในการขยายตลาดในประเทศที่พัฒนาแล้ว อันเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา
อนึ่ง Xiaomi กำลังจะมีการเปิดตัวโทรฯมือถือรุ่นเรือธงใหม่ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้
ที่มา CNET
เฟสบุ๊ค เผย เคยเจรจาร่วมลงทุนกับ Xiaomi
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงาน ครั้งหนึ่ง เฟสบุ๊คเคยพยายามร่วมลงทุนกับ Xiaomi แต่แผนการลงทุนประสบความล้มเหลวก่อนที่จะกลายเป็นรูปธรรม ด้วยต้นเหตุความกังวลใจเกี่ยวกับผลกระทบทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเฟสบุ๊ค ได้กล่าวเปิดใจถึงความพยายามในการลงทุนกับ Xiaomi ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของจีน ที่ตอนนี้กลายมาเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนในลำดับต้นๆ ด้วยเงินลงทุนกว่าพันล้านดอลล่าร์สหรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว โดย ซักเคอร์เบิร์ก และ เล่ย จุน ซีอีโอจากทาง Xiaomi ได้มีการหารือกันเป็นการส่วนตัวระหว่างช่วงรับประทานอาหารค่ำในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมีการเจรจาพูดคุยถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับของทั้งสองบริษัท แต่ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเป็นอันต้องถูกยกเลิกไป เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางการเมือง
สำหรับข้อตกลงในแผนการลงทุนดังกล่าว ได้รับการเพิ่มเติมว่า ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก แต่ไฮไลท์อยู่ที่ความสนใจที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเทคโนฯจากสหรัฐฯที่จะแสดงในจีน ซึ่งในขณะที่เฟสบุ๊คถูกแบนในจีน แต่ซักเคอร์เบิร์กก็ไม่เคยละทิ้งความพยายามในการขยายตลาดไปยังประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของโลก โดยการลงทุนคาดจะเป็นการขยายการรับรู้แบรนด์ Xiaomi ในตลาดต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงแม้จะมีการเติบโตของยอดขายอย่างรวดเร็ว แต่ Xiaomi ก็ยังต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคชิ้นโตในการขยายตลาดในประเทศที่พัฒนาแล้ว อันเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา
อนึ่ง Xiaomi กำลังจะมีการเปิดตัวโทรฯมือถือรุ่นเรือธงใหม่ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้
ที่มา CNET