จริยะธรรมของ ประธาน ปปช.
ปปช. ไม่ใช่ผู้ตัดสินคดีในกระบวนการยุติธรรม แต่ ปปช. ต้องรู้ว่า ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของกระบวน
การยุติธรรม เฉกเช่นเจ้าพนักงานสอบสวนของกรมตำรวจ การนำข้อมูลของคดีมาเปิดเผยต่อสาธารณะ
เช่นนี้ถ้าเป็นคดีอาญา มันจะมีความผิดไม่ต่างอะไรจากที่การเอาสำนวนการสอบสวนออกมาเปิดเผย
ที่มีโทษจำคุก

มีหลายคดีที่ ปปช. ส่งฟ้อง แต่อัยการไม่รับฟ้อง หรือ ที่สุดให้ทำสำนวนเพิ่ม มีหลายคดีที่เมื่อถึงศาล
ฏีกา ผลคดีกลับยกฟ้องผู้ถูกกล่าวหา มีหลายคดีที่ดริ๊ฟท์แรงเหลือเกินแต่ผ่านมาสิบปีก็ยังไม่ส่งฟ้อง
มีหลายคดี ที่เก็บในลิ้นชักจนหมดอายุความ

การที่ตัวเองเป็นหัวหน้าเจ้าพนักงานสอบสวนในคดีจำนำข้าว แล้วออกมาพูดเกี่ยวกับเรื่องสำนวนแบบนี้
นอกจากจะผิดกฏหมายแล้ว ยังไม่ถูกต้อง เพราะ ขาดหลักจริยธรรมของผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม
ตัวเองเป็นถึงประธาน ปปช. แต่ขาดวุฒิภาวะ ไม่รู้อะไรถูก อะไรควร เหมือนเด็กอมมือ อมเท้า

การพูดออกสื่อแบบนี้ มันแสดงตัวตนว่าเป็นปฎิปักษ์ต่อจำเลย ถ้าเป็นตำรวจ คงโดนสั่งขังไปแล้ว

---

การแถลงต่อสภา
การที่ ทั้ง นางสาวยิ่งลักษณ์ และ นายวิชา ไปสภาวันนั้น นายประสาร ไม่สำเนียกเลยหรือว่า คนสอง
คนนี้ เขาไปเพื่ออะไร นายประสารคงมัวแต่ไปเลียขาสุเทพถึงไม่รู้ ไม่เข้าใจว่าสองคนนี้ไปสภาเพื่อไป
ตอบคำถาม ถึงใช้ วาทะกรรม "ถามม้า ตอบปู"

สลิ่มราชดำเนินยังรู้เลยว่า เขาสองคนไปสภาวันนั้นเพื่อไปแถลงเปิดคดี คำว่า แถลง ภาษาไทยอ่านว่า
[ถะแหฺลง] ก. บอก เล่า หรือ แจ้งให้ทราบเป็นทางการ

ดังนั้น การไป บอก หรือ เล่า ไม่ใช่การไปตอบคำถาม ทั้งสองคนที่ไป ไปเพื่อเล่าว่า สิ่งที่เขาทำมานั้น
มันมีความเป็นมาอย่างไร ในมุมมองของทั้งสองคน ไม่มีคำถามที่ต้องตอบสำหรับวันแถลง

ไม่รู้เรื่องกฏหมาย ไม่รู้แม้แต่คำศัพท์ แต่ดันนั่งเลียขาชาวบ้านอยู่ในสภา

บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรกับวิธีคิดแบบสลิ่มของคนสองคนนี้